ในเวลานี้ เซียวชูหรันกำลังเตรียมที่ทานอาหารกลางวันอยู่ในบริษัท
เนื่องจากบริษัทมีงานมากมาย ดังนั้นโดยส่วนใหญ่แล้วเธอมักไม่ค่อยกลับไปทานข้าวที่บ้าน แต่ทานอาหารสั่งมาจากภายนอกที่บริษัท ซึ่งสามารถช่วยประหยัดเวลาในการทำงานของเธอได้อย่างน้อยหนึ่งชั่วโมง
ในเวลานี้ เธอกำลังจะหยิบโทรศัพท์มือถือสั่งอาหาร เธอก็ได้รับโทรศัพท์ที่โทรมาจากเฟ่ยเข่อซิน
ดังนั้น เธอจึงรับโทรศัพท์ และพูดด้วยรอยยิ้มว่า “คุณหนูจานมีอะไรให้รับใช้เหรอคะ?”
เฟ่ยเข่อซินพูดอย่างเร่งรีบว่า “พี่ชูหรัน บอกคุณแต่ไหนแล้วไม่ใช่เหรอว่า อย่าเรียกฉันว่าคุณจาน เรียกฉันว่าเฟยเอ๋อร์ หรือเสี่ยวเฟยก็พอแล้ว”
เซียวชูหรันยิ้มและพูดว่า “นี่ไม่ใช่เวลาทำงานเหรอ ในชีวิตประจำวันคุณเป็นเพื่อน แต่คุณคือผู้ว่าจ้างของฉันในที่ทำงาน สำหรับผู้ว่าจ้างแล้วจะต้องสุภาพเล็กน้อยแน่นอน”
เฟ่ยเข่อซินหัวเราะอย่างช่วยไม่ได้และกล่าวว่า “ตอนนี้ก็ช่วงเที่ยงแล้ว ยังเป็นเวลาทำงานอยู่หรือ? บริษัท ของคุณไม่มีช่วงพักกลางวันเหรอ?”
เซียวชูหรันอธิบายว่า “พนักงานคนอื่นๆ มีช่วงพักเที่ยงอยู่ เรามีเวลาพักเที่ยงครึ่งชั่วโมง แต่ฉันไม่อะไรมาก นอกจากเวลาทานอาหารแล้ว เวลาอื่นๆ ก็คือเวลาทำงานทั้งหมด”
เฟ่ยเข่อซินอดหัวเราะไม่ได้และพูดว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นคุณเซียว ในฐานะที่ฉันเป็นผู้ว่าจ้าง ก็จะต้องรบกวนเวลาอาหารกลางวันของคุณเล็กน้อยแล้ว”
เซียวชูหรันหัวเราะและพูดว่า “ไม่มีปัญหา ไม่รู้ว่าน้องสาวผู้ว่าจ้างมีอะไรจะให้รับใช้เหรอคะ?”
เฟ่ยเข่อซินกล่าวว่า “โรงแรมป๋ายจินฮ่านกงจะไม่สามารถอยู่ได้อีกแล้วหลังจากวันนี้ ฉันกับเคลลี่จะเปลี่ยนไปเป็นพักที่โรงแรมสากลจินหลิง และตอนนี้เรากำลังจะไปที่นั่น ดังนั้นจึงโทรไปถามว่าคุณกินข้าวหรือยัง ถ้ายังไม่กิน เราสามารถไปกินด้วยกันที่โรงแรมสากลจินหลิงได้”
สำหรับเคลลี่ เวสท์ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ไม่ใช่ว่าทุกคนที่จะได้มีโอกาส ได้พบกับไอดอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของตัวเองแบบตัวต่อตัว และแม้กระทั่งได้เป็นเพือนกับไอดอล เซียวชูหรันหวงแหนโอกาสนี้เป็นอย่างมาก
ในไม่ช้า เซียวชูหรันก็มาถึงโรงแรมสากลจินหลิง และจองห้องเหมาในแผนกจัดเลี้ยงของโรงแรมรอพวกเขา
เพื่อป้องกันไม่ให้ใครแย่จ่ายเงินกับตัวเอง เซียวชูหรันยังจ่ายเงินล่วงหน้าหนึ่งหมื่นหยวนสำหรับค่าอาหารที่แคชเชียร์ของแผนกจัดเลี้ยง และกำชับพนักงานต้อนรับว่า ไม่ว่าสุดท้ายจะเป็นจำนวนเงินเท่าไหร่ ก็ต้องมาคืนเงินหรือเก็บเงินเพิ่มกับตัวเองอย่างเด็ดขาด
เฟ่ยเข่อซินและเคลลี่ เวสท์ก็มาที่แผนกจัดเลี้ยง และพบกับเซียวชูหรัน ทันทีที่พวกเขาเสร็จสิ้นขั้นตอนการเช็คอิน
ทันทีที่ทั้งสามได้พบกัน และคุยกันสองสามคำ เฟ่ยเข่อซินก็ตรงเข้าที่ประเด็นและถามเซียวชูหรันว่า “ชูหรัน ตั้งแต่สิ้นเดือนนี้ถึงสิ้นเดือนหน้า คุณสะดวกที่จะออกจากเมืองจินหลิงประมาณหนึ่งเดือนหรือไม่?”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
ตอนนี้กุต้องมาอ่านละครลิงโง่ๆ ภายในตระกูลเซียวใช่ไหม กุต้องเลื่อนให้พ้นๆอ่ะ...
ขัดใจกับไแคนครอบครัว เซียวชูหรันชิบหาย ไม่ว่าใครก้โง่จนใสซื่อ ไอฉางควรก็ปิดแหก ไอหม่าหลันก็น่าเงิน สุดท้ายครอบครัวนี้แม่งไม่สมประกอบทุกตัว...
แทนทีจะแยกออกไปอยู่คนเดียว ถ้าก้เป้นฉางควนอยากอยู่กับรักแรกก้ต้องลงทุน แต่นี่มึงยังไม่กล้ากับหม่ากันเลย กลัวจนขึ้นมาสมอง แล้วหวังอยากจะอยุ่กับหานเหมยชิง อยากจะระลึกความหลัง เห้นแก่ตัวเกินไปไอห่า กลัวหม่าหลันแค่ตาย ปอดแหกแบบนี้มึงก้อยุ่กับอีหม่าหลันไปเถอะ สมน้ำหน้าแบ่งทำเพื่อรักแรกมึงยังไม่กล้าทำเลย แล้วหวังจะอยุ่กับเหมยชิง...
ไอเซียวฉาวควนแม่งมาหวงก้างจัด เฮ่อกับหารเหม่ยชิงโครตเหมาะกันอยากให้2คนนี้คบกันมาก ไอเซียวฉางควนกับอีแค่หม่าหลันมคงยังไม่กล้า แล้วนยังจะคิดอยุ่กับหานเหม่อยชิง มึงปอดแหกแบบนี้มึงก้ไม่มีวันสมหวังหรอก ไอโง่...
ผญ.เรื่องนี้แม่งหลงตัวเองทั้ง มีแค่ตงเสวี่นร ชูกรัน กูซิวอี๋ นอกนั้นหลงตัวเองชิบหาย...
นิยายเรื่องนี้สร้างเป็นละครสั้นหรือยัง...
อัพเดตตอนใหม่ทีครับ...
อ่านมาจะ4พันตอนละพระนางยังไม่ำด้กันเลย นิสัยพระเอกก็สุดๆยังดีเนื้อเรื่องสนุก...
อ่านต่อได้ตรงไหนครับ...
สงสารหวังเจิ้งกาง หลังจากมอบบ้านมอบรถให้เย่เฉิน ก้ไม่เห็นเยเฉินพูดถึงเลย เหมือนเป็นตัวประกอบ ตอนแรกๆ 555...