ตอนนี้เขารู้แล้ว ว่าตัวเองไม่มีความสามารถนั้น มีอย่างที่ไหนมาถูกสองมนุษย์ป้าใจหยาบสองคนด่าทอต่อหน้าคนอื่นอย่างนี้? นี่เขาแทบจะไม่มีโอกาสชนะเลย
ดังนั้น เขาจึงเอ่ยพูดอย่างฟึดฟัดว่า “ก็จริงที่ลูกเขยผมเป็นคนให้เงิน หม่าหลันจะไม่ทำกับข้าวให้ผมกินก็ไม่มีปัญหา แต่ว่าคุณไม่ทำให้ลูกเขยกินด้วยนี่มันไม่เกินไปหน่อยเหรอ?”
หม่าหลันเบ้ปาก “ถ้าลูกเขยคิดอย่างนั้น เขาคงพูดกับฉันไปแล้ว ไม่จำเป็นต้องให้คุณมาพูดปากเปียกปากแฉะอยู่นี่หรอก เป็นเดือดเป็นร้อนแทนคุณอื่นอยู่ได้!”
เซียวฉางควานกระหืดกระหอบ “หม่าหลัน ทำไมพูดหมาๆแบบนี้? ผมกับเย่เฉินเป็นพ่อตาลูกเขย ถ้าเป็นสมัยโบราณ ผมเป็นถึงพ่อตาฮ่องเต้เลยนะ ทำไมใช้คำว่าเป็นเดือดเป็นร้อนแทนคนอื่นมาเปรียบเปรยอย่างนี้ล่ะ?”
หม่าหลันมองมาที่เฉียนหงเย่น ยิ้มเยาะแล้วพูดว่า “พี่สะใภ้ เห็นหรือยัง พูดได้ไม่ทันไรก็ร้อนตัวแล้ว!”
เฉียนหงเย่นเบ้ปาก เอ่ยพูดอย่างดูแคลนว่า “พวกผู้ชายตระกูลเซียวนี่นิสัยแบบนี้กันหมดเลยหรือไง!ทั้งเอื่อยเฉื่อย อารมณ์ร้อน ความสามารถน้อย ขี้โวยวาย!”
หม่าหลันตบมือ เอ่ยพูดอย่างฮึกเหิม “พี่สะใภ้พูดถูก!พูดได้สวย แต่ละคำช่างโดนใจจริงๆ!”
หน้าของเซียวฉางควานร้อนปุดๆ เขาลุกพรวดขึ้นมา แล้วพูดกับเซียวชูหรันว่า “ชูหรัน พวกแกสั่งเดลิเวอรี่กินกันได้เลยนะ ไม่ต้องสั่งเผื่อฉัน”
เซียวชูหรันเอ่ยถาม “”พ่อ แล้วพ่อจะไปไหน?”
เซียวฉางควานทำหน้าเกรี้ยวกราดแล้วพูดอย่างฟึดฟัด “ฉันอิ่มน้ำโห จะกลับไปนอนย่อยที่ห้องสักหน่อย”
เซียวชูหรันจนใจ ทำได้เพียงหันไปพูดกับหม่าหลันว่า “แม่ แม่ก็หยุดพูดได้แล้ว”
เมื่อเฉียนหงเย่นเห็นว่าเซียวชูหรันเริ่มทนดูไม่ได้ จึงรีบพูดกับหม่าหลันอย่างรู้งานว่า “ใช่ๆหม่าหลัน ชูหรันพูดถูก เอาแค่พอเหมาะพอควร ไม่ต้องพูดเยอะ ให้ทางหนีทีไล่กับเขาบ้าง”
หม่าหลันรู้จักใช้สถานการณ์ข่มขู่ จึงเอ่ยพูดเสียงสูงว่า “ได้เลยพี่สะใภ้ ฉันจะถือว่าเห็นแก่หน้าพี่แล้วกัน!”
เฉียนหางเย่นเคยได้ยินลูกสาวอย่างเซียวเวยเวยพูดว่า ต้องมีสักวันที่เธอต้องพึ่งการช่วยเหลือจากเย่เฉิน ดังนั้นจึงกลัวว่าตัวเองจะพูดอะไรผิดต่อหน้าเย่เฉิน จึงหันมาพูดกับหม่าหลันว่า “หม่าหลัน ถ้าพรุ่งนี้จะไปจริงๆยังไงก็ส่งข้อความมาย้ำฉันอีกทีนะ”
“ได้!”
“ฉันจะรอข้อความจากเธอ”
พูดจบเฉียนหงเย่นก็เดินออกไปอย่างระริกระรี้
หม่าหลันเดินเข้ามาในห้องรับแขก ยิ้มตาหยีพร้อมกับบิดขี้เกียจ เอ่ยพูดขึ้นมาว่า “ว่าละทำไมนายหญิงใหญ่เซียวชอบเฉียนหงเย่น ที่แท้ก็เพราะว่าเฉียนหงเย่นเอาใจเก่งนี่เอง เธอพูดมาไม่กี่คำก็ทำให้สบายใจได้ แถมยังเป็นคำพูดที่ไม่รู้สึกว่าเสแสร้ง ตลอดช่วงบ่ายที่ผ่านมาเธอเอาอกเอาใจฉัน จนแบบคุณพระ โดนใจสุดๆ……”
เซียวชูหรันส่ายหน้าอย่างจนใจ เมื่อนึกขึ้นมาได้ว่าตัวเองยังมีเรื่องสำคัญต้องพูด จึงกระแอมไอ แล้วเอ่ยพูดด้วยใบหน้าจริงจังว่า “เย่เฉิน พ่อ แม่ ฉันมีเรื่องสำคัญจะบอก และอยากขอคำปรึกษาด้วย!”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
ตอนนี้กุต้องมาอ่านละครลิงโง่ๆ ภายในตระกูลเซียวใช่ไหม กุต้องเลื่อนให้พ้นๆอ่ะ...
ขัดใจกับไแคนครอบครัว เซียวชูหรันชิบหาย ไม่ว่าใครก้โง่จนใสซื่อ ไอฉางควรก็ปิดแหก ไอหม่าหลันก็น่าเงิน สุดท้ายครอบครัวนี้แม่งไม่สมประกอบทุกตัว...
แทนทีจะแยกออกไปอยู่คนเดียว ถ้าก้เป้นฉางควนอยากอยู่กับรักแรกก้ต้องลงทุน แต่นี่มึงยังไม่กล้ากับหม่ากันเลย กลัวจนขึ้นมาสมอง แล้วหวังอยากจะอยุ่กับหานเหมยชิง อยากจะระลึกความหลัง เห้นแก่ตัวเกินไปไอห่า กลัวหม่าหลันแค่ตาย ปอดแหกแบบนี้มึงก้อยุ่กับอีหม่าหลันไปเถอะ สมน้ำหน้าแบ่งทำเพื่อรักแรกมึงยังไม่กล้าทำเลย แล้วหวังจะอยุ่กับเหมยชิง...
ไอเซียวฉาวควนแม่งมาหวงก้างจัด เฮ่อกับหารเหม่ยชิงโครตเหมาะกันอยากให้2คนนี้คบกันมาก ไอเซียวฉางควนกับอีแค่หม่าหลันมคงยังไม่กล้า แล้วนยังจะคิดอยุ่กับหานเหม่อยชิง มึงปอดแหกแบบนี้มึงก้ไม่มีวันสมหวังหรอก ไอโง่...
ผญ.เรื่องนี้แม่งหลงตัวเองทั้ง มีแค่ตงเสวี่นร ชูกรัน กูซิวอี๋ นอกนั้นหลงตัวเองชิบหาย...
นิยายเรื่องนี้สร้างเป็นละครสั้นหรือยัง...
อัพเดตตอนใหม่ทีครับ...
อ่านมาจะ4พันตอนละพระนางยังไม่ำด้กันเลย นิสัยพระเอกก็สุดๆยังดีเนื้อเรื่องสนุก...
อ่านต่อได้ตรงไหนครับ...
สงสารหวังเจิ้งกาง หลังจากมอบบ้านมอบรถให้เย่เฉิน ก้ไม่เห็นเยเฉินพูดถึงเลย เหมือนเป็นตัวประกอบ ตอนแรกๆ 555...