เฟ่ยเจี้ยนจงรู้อยู่แก่ใจ ว่าสภาพร่างกายของตัวเองมาถึงระยะสุดท้ายแล้ว ถ้าหากการมาเมืองจินหลิงในครั้งนี้ไม่ได้ยาอายุวัฒนะติดมือกลับไปด้วย เขาอาจจะไม่มีชีวิตรอดกลับจากเมืองจินหลิงก็ได้
ดังนั้น จะแพ้หรือชนะ ก็คงขึ้นอยู่กับการเดิมพันครั้งนี้
เขามองออกไปนอกหน้าต่าง ในใจเอาแต่พร่ำอธิษฐาน ขอให้ครั้งนี้ตัวเองสมปรารถนา
หลังจากเครื่องบินลงจอด รถนำทางก็พาเครื่องบินไถล้อมาจอดที่โรงจอดเครื่องบินที่เฉินจื๋อข่ายเช่าเอาไว้
เมื่อเครื่องบินจอดนิ่งสนิท ประตูห้องโดยสารก็เปิดออก
ลูกน้องคนหนึ่งของเฉินจื๋อข่าย เดินลงบันไดเลื่อนมาหยุดรอที่หน้าประตูเครื่องบิน
ทันทีที่ประตูเครื่องถูกพนักงานเปิดออก ลูกน้องของเฉินจื๋อข่าย ก็มายืนตรงหน้า แล้วเอ่ยพูดเสียงเข้มขรึมว่า “นี่คงเป็นเครื่องบินของเฟ่ยเจี้ยนจงสินะ?”
พนักงานบนเครื่องเอ่ยพูดอย่างมีน้ำโห “นี่ ระวังคำพูดคำจาหน่อย ชื่อของคุณท่านไม่ใช่ชื่อที่ใครจะมาเรียกตรงๆก็ได้!”
ลูกน้องของเฉินจื๋อข่ายเอ่ยพูดอย่างไม่ยี่หระว่า “คุณทงคุณท่านอะไร คุณท่านของพวกนายไม่ใช่คุณท่านของฉันสักหน่อย ฉันมีหน้าที่แค่เช็กชื่อคนเข้าร่วมเท่านั้น ตอนนี้นายไปบอกเฟ่ยเจี้ยนจง ให้เตรียมบัตรเชิญกับบัตรยืนยันตัวตนไว้ให้พร้อม เพื่อที่เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบ”
พนักงานบนเครื่องไม่คิดว่า ไอ้หนุ่มคนนี้จะพูดจาไร้มารยาทขนาดนี้ จึงเอ่ยถามเสียงเย็นว่า “นี่ไอ้หนุ่ม คำพูดคำจาอะไรของนาย?! รู้ไหมว่ากำลังพูดอยู่กับใคร?”
ลูกน้องของเฉินจื๋อข่ายพยักหน้า เอ่ยพูดด้วยใบหน้าเรียบนิ่งว่า “ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป คุณต้องปฏิบัติตามแนวทางและการจัดการของเรา และรบกวนบอกพนักงานของคุณถอยเครื่องบินออกจากโรงจอดไปจอดที่สนามบินข้างๆ เนื่องจากที่นี่เครื่องบินจอดเต็มแล้ว พวกคุณต้องถอยเครื่องบินออกไปภายในสิบนาที เพราะผมต้องรอรับผู้เข้าร่วมคนต่อไปอยู่ที่นี่”
เฟ้ยเจี้ยนจงเอ่ยพูดอย่างนอบน้อม “พ่อหนุ่มสบายใจได้ ฉันจะจัดการให้พวกเขาถอยเครื่องบินออกไปเร็วๆ”
ในตอนนี้เอง พนักงานเครื่องบินของเฟ่ยเจี้ยนจงก็แสดงสีหน้ากระอักกระอ่วนออกมา รีบพูดว่า “ใต้ท้องเครื่องบินมีรถอยู่สองคน ถ้าโหลดลงเครื่องอาจจะยุ่งยากหน่อย ขยายเวลาให้พวกฉันสักครึ่งชั่วโมงได้ไหม?”
ลูกน้องของเฉินจื๋อข่ายเอ่ยพูดเสียงเย็นว่า “เรามีรถคอยรับส่ง พวกคุณไม่จำเป็นต้องเตรียมรถมาเองก็ได้”
พูดจบ เขาก็ชี้ไปยังมุมหนึ่งของโรงจอด ตรงนั้นมีเก้าอี้พลาสติกธรรมดากับโต๊ะตัวหนึ่งประกอบกันขึ้นมาเป็นพื้นที่ชั่วคราว แล้วหันมาพูดกับเฟ่ยเจี้ยนจงว่า “เฟ่ยเจี้ยนจง ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป หมายเลขภายในของคุณคือ035 กรุณานำบัตรยืนยันตัวตนไปรายงานกับเจ้าหน้าที่ฝั่งนั้น”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
ตอนนี้กุต้องมาอ่านละครลิงโง่ๆ ภายในตระกูลเซียวใช่ไหม กุต้องเลื่อนให้พ้นๆอ่ะ...
ขัดใจกับไแคนครอบครัว เซียวชูหรันชิบหาย ไม่ว่าใครก้โง่จนใสซื่อ ไอฉางควรก็ปิดแหก ไอหม่าหลันก็น่าเงิน สุดท้ายครอบครัวนี้แม่งไม่สมประกอบทุกตัว...
แทนทีจะแยกออกไปอยู่คนเดียว ถ้าก้เป้นฉางควนอยากอยู่กับรักแรกก้ต้องลงทุน แต่นี่มึงยังไม่กล้ากับหม่ากันเลย กลัวจนขึ้นมาสมอง แล้วหวังอยากจะอยุ่กับหานเหมยชิง อยากจะระลึกความหลัง เห้นแก่ตัวเกินไปไอห่า กลัวหม่าหลันแค่ตาย ปอดแหกแบบนี้มึงก้อยุ่กับอีหม่าหลันไปเถอะ สมน้ำหน้าแบ่งทำเพื่อรักแรกมึงยังไม่กล้าทำเลย แล้วหวังจะอยุ่กับเหมยชิง...
ไอเซียวฉาวควนแม่งมาหวงก้างจัด เฮ่อกับหารเหม่ยชิงโครตเหมาะกันอยากให้2คนนี้คบกันมาก ไอเซียวฉางควนกับอีแค่หม่าหลันมคงยังไม่กล้า แล้วนยังจะคิดอยุ่กับหานเหม่อยชิง มึงปอดแหกแบบนี้มึงก้ไม่มีวันสมหวังหรอก ไอโง่...
ผญ.เรื่องนี้แม่งหลงตัวเองทั้ง มีแค่ตงเสวี่นร ชูกรัน กูซิวอี๋ นอกนั้นหลงตัวเองชิบหาย...
นิยายเรื่องนี้สร้างเป็นละครสั้นหรือยัง...
อัพเดตตอนใหม่ทีครับ...
อ่านมาจะ4พันตอนละพระนางยังไม่ำด้กันเลย นิสัยพระเอกก็สุดๆยังดีเนื้อเรื่องสนุก...
อ่านต่อได้ตรงไหนครับ...
สงสารหวังเจิ้งกาง หลังจากมอบบ้านมอบรถให้เย่เฉิน ก้ไม่เห็นเยเฉินพูดถึงเลย เหมือนเป็นตัวประกอบ ตอนแรกๆ 555...