ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน นิยาย บท 3860

ในเอกสารของโรงพยาบาลระบุเอาไว้ชัดเจนว่า มีชาวจีนโพ้นทะเลสัญชาติอเมริกันชื่อเฟ่ยเจี้ยนจงได้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลอย่างฉุกเฉินเพราะอาการสลบอย่างกะทันหัน

อย่างไรก็ตาม ไม่นานชายชราก็ตื่นขึ้นภายใต้การรักษาของแพทย์

จากนั้น เขาก็หายตัวไปจากห้องผู้ป่วยและไม่มีใครรู้ว่าเขาไปไหน

คนของเฟ่ยซานไห่พยายามจับตาดูทั้งโรงพยาบาล แต่พวกเขาพบว่าหยวนจื่อซูทำลายกล้องวงจรปิดติดตามหลายตัวตลอดทาง และพาเฟ่ยเจี้ยนจงกับเฟ่ยเข่อซินหายตัวไปในพื้นที่บอดในการตรวจสอบ

จากนั้น ทั้งสามก็หายวับไปอย่างไร้ร่องรอย และไม่พบเบาะแสใดๆ อีกต่อไป

ข่าวนี้ทำเอาเฟ่ยซานไห่โกรธจัด!

ดังนั้นจึงเกิดเป็นฉากที่เขาระเบิดอารมณ์ใส่คนของคนเมื่อครู่นี้

ในเวลานี้ หม่าฮ่านเซิงกุนซือคนสนิทที่ช่วยเขามาเกือบสี่สิบปีกล่าวว่า “คุณชายใหญ่ อาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ หยวนจื่อซูเป็นนักบู๊เจ็ดดาว เขามีความแข็งแกร่งอย่างยิ่ง มีเขาอยู่ด้วย พวกเราคิดจะหาเบาะแสของคุณและคุณหนูเข่อซินถือเป็นเรื่องยากอยู่บ้างจริงๆ อีกทั้งตอนนี้กำลังหลักของเราอยู่ที่สหรัฐอเมริกา ในจินหลิงมีแค่เพียงสายข่าวจำนวนหนึ่งเท่านั้น พวกเขาที่นั่นไม่แข็งแกร่งพอ กำลังคนไม่พอ จึงยากที่จะสืบหาสถานการณ์ที่นั่นได้อย่างชัดเจน”

เฟ่ยซานไห่พยักหน้า จากนั้นก็พูดอย่างขบเขี้ยวเคี้ยวฟันว่า "หยวนจื่อซูคนนี้ก็ช่างไม่รู้จักเรื่องราวเอาซะเลย ตอนนี้ไปติดตามคุณพ่อไปแล้วจะยังมีประโยชน์อะไรอยู่อีก? ยังไม่ยอมละทิ้งความมืดเข้าหาทางสว่าง!"

หม่าฮ่านเซิงรีบพูด “คุณชายใหญ่ ในความคิดของฉัน ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดนี้คือส่งกลุ่มคนที่มีความสามารถออกไปอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะกรณีใด พวกเราต้องหาคุณท่านและคุณหนูเข่อซินให้เจอก่อน”

เฟยซานพูดด้วยสีหน้าเหี้ยมเกรียม “เหล่าหม่า เรื่องนี้มอบให้นายแล้ว นายเป็นคนไปเลือกกลุ่มคนด้วยตนเอง วันนี้บินไปที่จินหลิงให้ฉัน ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม จะต้องหาตัวเธอต้องหาตัวพ่อให้พบ หากยังมีชีวิตต้องเห็นคน หากตายต้องเห็นศพตาย!”

หม่าฮ่านเซิงถามอย่างระมัดระวัง “คุณชายใหญ่ หากพบคุณท่านกับคุณหนูเข่อซินแล้ว ผมควรจะอาศัยโอกาสนี้ชิงลงมือหรือไม่?”

เฟ่ยซานไห่ลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “นายไปหาคนให้เจอก่อนแล้วค่อยว่ากัน หากสถานการณ์ควบคุมได้ อย่างนั้นก็กักบริเวณพวกเขาเอาไว้ ห้ามปล่อยให้คุณพ่อออกไปจากหัวเซี่ยก่อนตาย ถ้าสถานการณ์ควบคุมไม่ได้ ก็ลองจัดฉากให้เกิดอุบัติเหตุขึ้น"

ในเวลานี้ ท่ามกลางผู้คนมากมาย ชายวัยกลางคนอายุห้าสิบต้นๆ ถามว่า “พ่อ แล้วถึงตอนนั้นจะทำยังไงกับเข่อซิน? นังหนูนั่นหากไม่ถูกกำจัด ต่อไปจะต้องกลายเป็นปัญหาใหญ่ในอนาคต!”

คนที่พูดก็คือเฟ่ยเสวปิง ลูกชายคนโตของเฟ่ยซานไห่ และเป็นหลานชายคนโตของเฟ่ยเจี้ยนจง ลูกพี่ลูกน้องคนโตของเฟ่ยเข่อซิน

เฟ่ยเสวปิงมีอายุมากกว่าเฟ่ยเข่อซินเกือบ 30 ปี ลูกชายคนโตของเขาก็ยังมีอายุมากกว่าเฟ่ยเข่อซินถึงสามปีด้วยซ้ำ

ในฐานะน้องสาวคนสุดท้องของรุ่นอย่างเฟ่ยเข่อซิน แต่เดิมจึงได้รับความรักมากที่สุดจากคนในตระกูลราวกับดาวล้อมเดือน

แต่ในความเป็นจริง นั่นก็เป็นเพียงเพราะภาพตบตาขณะที่คุณท่านเฟ่ยยังกุมอำนาจอยู่ก็เท่านั้นเอง

นั่นเพราะคุณท่านเฟ่ยรักใคร่เฟ่ยเข่อซิน ดังนั้นทุกคนจึงแสดงความรักและเอาใจใส่เฟ่ยเข่อซินไปด้วย จนถึงขั้นที่หลายคนยังปฏิบัติต่อเฟ่ยเข่อซินดีเสียกว่าคุณท่านเฟ่ย

แต่ในความเป็นจริง เฟ่ยเข่อซินที่เป็นดั่งไม้เด่นในป่า ได้สร้างความไม่พอใจให้ใครหลายคนมานานแล้ว

เฟ่ยเสวปิงไม่พอใจเฟ่ยเข่อซินมาโดยตลอด เขามักจะรู้สึกว่าเฟ่ยเข่อซินปกติยามอยู่ในตระกูลเป็นคนจู้จี้จุกจิกเกินไป อีกทั้งยังเป็นที่รักของคุณท่านอย่างสุดซึ้ง และมักจะคุกคามสถานะหลานชายคนโตของเขาอยู่ตลอดเวลา

ยิ่งกว่านั้นเนื่องจากนิสัยที่ค่อนข้างแข็งกร้าวของเฟ่ยเข่อซิน ทำให้เธอมักจะโจมตีคนอื่นในตระกูลเฟ่ยโดยไม่ได้ตั้งใจ

ไม่เพียงแค่พี่น้องรุ่นเดียวกันเหล่านี้ของเฟ่ยเข่อซินที่วันดีคืนดีก็ถูกคุฯท่านเฟ่ยเอามาเปรียบเทียบกับเฟ่ยเข่อซิน แถมยังต้องโดนคุณท่านเฟ่ยพูดจาเสียดสีวิพากษ์วิจารณ์ใส่

แม้แต่ลูกชายเขาอย่างเฟ่ยเสวปิง ซึ่งเป็นหลานชายของเฟ่ยเข่อซินที่เนื่องจากอายุที่ไล่เลี่ยกับเฟ่ยเข่อซิน แต่กลับด้อยกว่าเฟ่ยเข่อซินอย่างมากในทุกๆด้านก็มักจะถูกคุณท่านเฟ่ยดุด่าเป็นประจำ