อานโฉงชิวจำได้ว่าในตอนแรกนั้นเย่โจงฉวนคิดอยากจะรีบร่วมมือกับตระกูลอานมากขึ้นมาโดยตลอด แต่ทุกครั้งที่เขายื่นข้อเสนอที่ดีมาก็ถึงคุณท่านปฏิเสธไปโดยไม่ลังเล คิดไม่ถึงว่า ตอนนี้ตนเองที่เป็นตัวแทนตระกูลอานยื่นข้อเสนอออกไปให้เย่โจงฉวน แต่เย่โจงฉวนกลับไม่รับมัน
ขณะที่เขาคิดว่าเย่โจงฉวนกำลังทำกลยุทธ์แสร้งปล่อยเพื่อจับกับเขา และคิดจะเปลี่ยนวิธีพูดใหม่นั้นเอง เย่เฉินก็ส่งสัญญาณให้เย่โจงฉวน วางสายลง ดังนั้นเย่โจงฉวนจึงพูดกับอานโฉงชิวทันทีว่า "อานโฉงชิว ฉันมีธุระนิดหน่อย พวกเราค่อยคุยกันวันอื่นแล้วกันนะ"
พูดจบ เขาก็วางสายไปโดยไม่รอให้อานโฉงชิวตอบกลับ
อานโฉงชิวที่ปลายสายถึงกับทำอะไรไม่ถูกไปอยู่บ้าง
ดูเหมือนว่าคนที่วางสายอย่างหยาบคายใส่เขาแบบนี้ ยกเว้นคุณท่านแล้วยังไม่เคยมีใครอีก
ขณะที่เขากำลังโกรธและลังเลตัดสินใจไม่ถูกอยู่บ้างในเวลาเดียวกันนั้น เย่โจงฉวนที่อยู่อีกด้านหนึ่งก็เก็บโทรศัพท์มือถือของเขากลับเข้าไปในกระเป๋าและพูดกับเย่เฉินว่า “ตระกูลอานช่างหยิ่งยโสจนเคยตัวแล้วจริงๆ ก่อนหน้านี้ก็ถือว่าฉันเป็นญาติเกี่ยวดองจนๆและรหลีกเลี่ยงอย่างรังเกียจ มาตอนนี้ขอให้ฉันช่วยเหลือ แต่ในกระดูกก็ยังคงยิ่งยโสไม่เปลี่ยนแปลง”
เย่เฉินเอ่ยเรียบๆ "น้าชายใหญ่ขงผมคนนี้ตะโกนในงานว่าต้องการซื้อยาอายุวัฒนะกลับไปด้วยเงินสามแสนเจ็ดหมื่นล้านดอลลาร์ นี่ก็พอเห็นได้แล้วว่าพวกเขาหยิ่งจริงๆ หยิ่งมากจนไม่สนใจกฎเกณฑ์ที่คนอื่นกำหนดอยู่ในสายตา คิดเพียงแค่ว่าตราบใดที่มีเงินมากเพียงพอ กฎเกณฑ์ใด ๆ ก็ล้วนสามารถเปลี่ยนแปลงสำหรับพวกเขา”
พูดถึงตรงนี้ เย่เฉินก็ยิ้มน้อยๆและพูดอย่างสบายๆ "ไม่เป็นไร ในเมื่อพวกเขายังคิดว่าตัวเองใจดีอยู่ อย่างนั้นก็ปล่อยพวกเขาไปเถอะ”
จากนั้นเย่เฉินก็เอ่ยอีกว่า “ใช่สิคุณปู่ อีกสองวันผมจะไปสหรัฐอเมริกาสักหน่อย อาจต้องใช้เวลามากกว่าหนึ่งเดือนกว่าจะกลับมา ทางด้านเรื่องของตรุกูลแย่ จะต้องลำบากคุณช่วยจัดการกับสิ่งต่าง ๆ
เย่โจงฉวนถามด้วยความสงสัย “เฉินเอ๋อ ทำไมจู่ๆ นายถึงได้คิดไปสหรัฐอเมริกาล่ะ? คงไม่ใช่คิดจะไปดูตระกูลอานหรอกนะ?”
เย่เฉินส่ายหัวและพูดด้วยรอยยิ้มว่า "จะไปได้อย่างไร ผมแค่ไปอบรมเป็นเพื่อนชูหรัน"
เย่โจงฉวนพยักหน้าและพูดว่า "ได้ นายไม่ต้องกังวลเรื่องตระกูลเย่ สำหรับเรื่องน้าชายของนาย ยังไงฉันก็ไม่รีบไปหาเขาอยู่แล้ว ถ้าเขาคิดจะมาหาฉัน ฉันก็จะไม่เจอเขา"
และบังเอิญเช่นกันที่วันนี้เย่เฉินก็ไปซ่งซื่อกรุ๊ปในตอนเช้าตรู่ เขาต้องการพบกับซ่งหวั่นถิงสักหน่อยเพื่อพูดคุยกับเรื่องหลังการประมูล
เมื่อเธอมาที่ห้องทำงานของซ่งหวั่นถิง ซ่งหวั่นถิงก็ได้ยื่นเอกสารที่เตรียมไว้ให้เย่เฉินและพูดกับเขาว่า “อาจารย์เย่ ในการประมูลเมื่อวาน ในส่วนของการประมูลยาอายุวัฒนะ มีรายได้จากการประมูลสุทธิอยู่ที่ หนึ่งแสนสี่หมื่นแปดพันล้านดอลลาร์และยังมีอีกสองหมื่นแปดพันล้านดอลลาร์ซึ่งเป็นการผ่อนชำระของเบอร์นาร์ด อาร์โนลต์”
“ถัดมาคือยันต์ขลังที่คุณสร้างสี่อัน ซึ่งมีมูลค่าประมูลรวมห้าร้อยสามสิบล้านดอลลาร์”
"และอันสุดท้ายก็คือของสะสมของเราที่ถูกปล่อยออกไปซึ่งมีมูลค่ารวมสามร้อยหกสิบห้าล้านดอลลาร์"
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ซ่งหวั่นถิงก็พูดอย่างอึกอักอยู่บ้าง “อาจารย์เย่ ต้องขอโทษด้วยจริงๆ ทรัพยากรของจี๋ชิ่งถังยังคงขาดแคลนอยู่บ้างในด้านงานศิลปะทั่วไป ของดีที่สุดที่หาได้พวกเราล้วนได้นำออกมาหมดแล้ว แต่เมื่อเทียบกับงานประมูลชั้นนำอย่างSotheby'sและChristie's ก็ยังมีช่องว่างอยู่ขนาดใหญ่ ดังนั้นมูลค่าการซื้อขายจึงไม่ถือสูงเท่าไหร่..."

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
สมน้ำหน้าไอฉางควน เหมาะกับหม่าหลันดี ขี้โม้เหมือนกัน ว่าคนที่มีความสามารถว่ากระจอกเหมือนกัน หลงตัวเองเหมือนกัน พูดมาได้ไงมึงกับหานเหมยชิงเป้นคู่ฟ้าประทาน 5555 สมล่ะที่คบกังหม่าหลันได้...
ทั้งที่เป็นผู้ชาย แรงเยอะกว่า ตัวใหญ่ก็ว่า แต่กลัวกับอีหม่าหลันพูดขู่แค่นี้เนี่ยน่ะ ไม่น่าเกิดเป็นผู้ชายเลยมึงไอเชียวฉางควน กูคิดว่าเป็นตุ๊ด ปากบอกรอเหมยชิงมานาน อยากจะพัฒนาความสัมพันธ์ อยากจะมีเพศสัมพันธ์อยากจะอยู่กับเหมยชิง อยากแต่งงานกะเหมยชิงอีกครั้ง ทั้งที่เหมยชิงยอมกลับมาหาเพื่อมึง แต่มึงกลับไม่กล้าทำไรกะอีหม่าหลันสักอย่าฃ แค่หม่าหลันพูดขู่ว่าจะไปหาเรื่องเหมยชิง แทนที่จะให้เหมยชิงจ้างบอดีการ์ดมา อีหม่าก้ทำไรไม่ได้ล่ะ หรือไอฉางควนปกป้อง สู้กันจริงๆหม่าหลันก้สู้คงไม่ได้หรอก ทำมึงกลับกลัวหัวหด ชาตินี้ก้คงไม่ได้อยุ่กับคนรักหรอก ฝันไปเถอะมึง กระจอก...
ไม่ใช่ว่าข้อมูลของเย่เฉิน ตอนตั้งแต่9ขวบจนถึงปัจุบัน ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่ลบไปแล้วไม่ใช่หรอหรือเก้บซ่อนไว้ ถ้า้ป้นอย่างงี้ แสดงว่าองกรพั้วชิงก้สามารถหาได้เช่นกันดิ ถ้างั้น ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่มันลบออกข้อมูลตอนเด้กของพระเอกออกไปหรอกหรอ -.-"...
พูดมาได้ไงไม่ได้หวังเกินตัว แต่อยากมีลูกกะเย่เฉิน ถึงกับขนาดที่ว่าจะแอบมีความสัมพันกับพระเอกตอนหลับ แบบนี้ไม่ได้เรียกหวังเกินตัวเลยงั้นอ่าดิ 555 ผมชอบอ่านเรื่องโรงแมนติกน่ะ เพราะมันพอดี แต่เรื่องนี้อ่านแล้วไม่ฟินอ่ะ เรื่องความรักชายหญิง เพราะมันลุกหนักเกินไปจน จนไม่มีให้ลุ้นอาะ...
ไม่เข้าใจจริง ว่าทำไมต้องให้พระเอกชดเชย หรือชดใช้ความรักให้หญิงสาวพวกนี้ ถ้าเป้นกุ้ซิวอี้พอยอมรับได้เพราะ เป้นคู่หมั่นพระเอก แต่พวกที่เข้ามาหาพระเอก พระเอกก้แค่ช่วยไปเท่านั้น ให้จะได้สะดวกต่อการทำงานร่วมกัน ไม่ได้ช่วยเพราะรัก แต่พวกหล่อนกับบอกให้ชดใช้ ทั้งที่ที่พวกหล่อนมารักพระเอกแท้ๆ แต่กลับจะให้พระเอกชดใช้เนี่ยน่ะ...
เฮเลน่า แม่งก่น่ารังเกียจเกิ้น...
เฮเลน่ามึงก้ฝันกลางวันเกิ้น ถามหน่อยสู้ไรกับนานาโกะหรือกู้ซิวอิ้วอีกได้บ้าง เรื่องนี้ผู้หญิงแม่งก้มโนเก่งเกิน คิดว่าจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับพระเอก 555...
แล้วตู้ไหชิง ไม่ใช่ผู้หญิงที่ไอซูเต้าขอแต่งงานหรอ ไม่รู้คนเขียน หรือคนแปลที่แปลมั่ว ซูเต้า ไม่เคยขอใครแต่งงาน แล้วไห่ชิงนั้นไม่ได้เรียกว่าขอแต่งงานหรอกหรอ 555...
พระเอกมันเป้นห่วงความรุ้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น ไม่อยากให้เศร้าใจมากขนาดนี้น ทำไมไม่แต่งงานกับนานาโกะไปเลยล่ะ ขัดใจ ถ้าเป้นครอบครัวอื่นอยากยกความดีความชอบให้ลูกสาวอีกฝ่ายก้ไมาแปลก แต่ครอบครัวนานาโกะยังไงต่อให้ไม่ยกความดีความชอบให้นานาโกะ พ่อนานาโกะก้รักนานาโกะมากอยุ่ล่ะ แคร์ความรู้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น แต่งงานไปนานาโกะไปเลย ได้จบๆ 555...
บางที อ.ก้เขียนลำเอียงเกินไป วานพั่วจวิ้นทำงานแค่ตายจนกว่าจะได้ยามา แต่ซูรั่วรี่ไม่ได้ทำไรเลย มาถึงก้ได้ยาล่ะ 555...