เย่เฉินกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่เป็นไร ครั้งนี้ที่ยังขาดไปก็คือความนิยมของจี๋ชิ่งถังนั้นยังไม่ได้กระจายออกไป แต่ตอนนี้ จี๋ชิ่งถัง จะต้องมีชื่อเสียงในหมู่กลุ่มมหาเศรษฐีชั้นนำของโลกแล้ว และการเตรียมงานประมูลยาอายุวัฒนะในปีหน้า ต้องการเพียงแค่ปล่อยข่าวออกไปก่อนล่างหน้า แล้วเหล่าผู้ขายเหล่านั้นที่ถืองานศิลปะชั้นยอดเอาไว้ก็จะแห่กันไปที่จี๋ชิ่งถังเพื่อขอความร่วมมือ”
ซ่งหวั่นถิงพยักหน้าและพูดอย่างจริงจังว่า “อาจารย์เย่ การประมูลครั้งนี้ ต้องขอบคุณคุณอย่างมากจริงๆ! ขอบคุณที่ให้โอกาสฉัน ให้โอกาสแก่จี๋ชิ่งถัง ต้องขอบคุณคุณที่ทำให้จี๋ชิ่งถังได้มีโอกาสโบยบินขนาดนี้ ขอบคุณ…”
เย่เฉินโบกมือและพูดว่า "หวั่นถิง พวกเราเป็นผู้ร่วมงานกัน ทุกคนล้วนร่วมมือกันเพื่อให้ได้รับสิ่งที่ต้องการ บรรลุผลประโยชน์ร่วมกัน และเติบโตไปด้วยกัน เธอไม่จำเป็นต้องเอ่ยขอบคุณตลอดเวลา"
ซ่งหวั่นถิงพยักหน้าอย่างซาบซึ้งแล้วรีบกล่าวว่า “อ้อใช่สิอาจารย์เย่ ในงานประมูลครั้งนี้ รายได้รวมของยาอายุวัฒนะและยันต์ขลังในการประมูลครั้งนี้อยู่ที่หนึ่งแสนสี่หมื่นเก้าพันสองร้อยสามสิบล้านดอลลาร์”
“อย่างไรก็ตาม จากมุมมองทางการเงิน ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ อยู่เบื้องหลังรายได้กว่าหนึ่งแสนสี่หมื่นล้านนี้”
“ถ้าเราไม่มีต้นทุน อย่างนั้นเงินกว่าแสนสี่หมื่นล้านนี้ก็จะถือเป็นกำไรสุทธิทั้งหมด เมื่อคำนวณภาษีเงินได้ขององค์กรที่ต้องจ่าย 25% คุณว่าเรื่องนี้สมควรวางแผนอย่างสมเหตุสมผลและถูกกฎหมายอย่างไรดี? ทางคุณเป็นฝ่ายรวบรวมวัตถุดิบในการทำ รวมถึงกระบวนการผลิตยาอายุวัฒนะด้วย นี่สามารถรวมเข้าไปได้หรือไม่?"
เย่เฉินกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ค่าวัตถุดิบจะมีต้นทุนได้เท่าไหร่ รายได้หนึ่งแสนสี่หมื่นเก้าพันสองร้อยสามสิบล้านดอลลาร์ เอาสามสิบล้านดอลลาร์นั้นมาเป็นต้นทุนก็ถือว่าสูงแล้ว ส่วนกระบวนการผลิตฉันเป็นคนทำเอง ดังนั้นต้นทุนนี้ไม่สามารถประเมินได้ ถือว่าแล้วไปเถอะ ให้เสียภาษีตามกำไรสุทธิแล้วกัน"
ซ่งหวั่นถิงตะลึงจนพูดไม่ออก ก่อนจะค่อยเอ่ยปากว่า “อาจารย์เย่ คุณไม่คิดจะวางแผนจริงๆ หรือ? นั่นเป็นเงินมูลค่ามากกว่าสามหมื่นล้านดอลล่าร์เชียวนะ...”
เย่เฉินโบกมือและพูดอย่างหนักแน่นว่า "ไม่ เอาตามที่ฉันบอกเถอะ จ่ายภาษีตามกำไรสุทธิทั้งหมด"
ซ่งหวั่นถิงสูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนจะพยักหน้าแล้วพูดว่า “ตกลงอาจารย์เย่ อีกเดี๋ยวฉันจะไปชี้แจงกับฝ่ายการเงินให้ชัดเจน”
เขาคิดอะไรบางอย่างได้แล้วพูดอีกว่า "อ้อใช่หวั่นถิง ฉันยังต้องการสร้างสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าขนาดใหญ่ในจินหลิง ข้อกำหนดคือต้องรองรับเด็กกำพร้าได้อย่างน้อย 10,000 คน นอกจากจะให้พวกเขามีความมั่นคงในการดำรงชีวิตที่ดีกับพวกเขาแล้ว ยังต้องมีโรงเรียนอนุบาลและโรงเรียนประถมอย่างต่อเนื่อง 12 ปีด้วย”
“ค่าใช้จ่ายในการก่อสร้าง ค่าแรง ค่าบุคลากรครู และค่าบำรุงรักษารายวันทั้งหมดผมเป็นคนออก นอกจากนี้ทีมครูจะต้องมีคุณภาพดีเยี่ยม ไม่ใช่แค่การให้ชีวิตและการศึกษาที่ยอดเยี่ยมเท่านั้น แต่ยังต้องช่วยให้พวกเขาเรียนจากชั้นอนุบาลถึงมัธยมปลายได้โดยตรงโดยไม่ถูกเลือกปฏิบัติ”
“นอกจากนี้ ค่าเล่าเรียน ค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ด และค่าครองชีพของเด็กที่เข้ามหาวิทยาลัย สถานเลี้ยงเด็กกำพร้านี้จะเป็นผู้รับผิดชอบ”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ เย่เฉินก็ได้เปลี่ยนคำพูดและเอ่ยขึ้น “นอกจากนี้ เด็กทุกคนที่มาจากที่นี่และเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยได้ ล้วนต้องลงนามข้อตกลงกับสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าว่าหลังจากจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย ทั้งปริญญาโทหรือปริญญาเอกแล้ว พวกเขาจะต้องกลับไปที่จินหลิงเพื่อทำงานอย่างน้อย 5 ปี เพื่อให้พวกเขามีส่วนในการพัฒนาจินหลิง”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
สมน้ำหน้าไอฉางควน เหมาะกับหม่าหลันดี ขี้โม้เหมือนกัน ว่าคนที่มีความสามารถว่ากระจอกเหมือนกัน หลงตัวเองเหมือนกัน พูดมาได้ไงมึงกับหานเหมยชิงเป้นคู่ฟ้าประทาน 5555 สมล่ะที่คบกังหม่าหลันได้...
ทั้งที่เป็นผู้ชาย แรงเยอะกว่า ตัวใหญ่ก็ว่า แต่กลัวกับอีหม่าหลันพูดขู่แค่นี้เนี่ยน่ะ ไม่น่าเกิดเป็นผู้ชายเลยมึงไอเชียวฉางควน กูคิดว่าเป็นตุ๊ด ปากบอกรอเหมยชิงมานาน อยากจะพัฒนาความสัมพันธ์ อยากจะมีเพศสัมพันธ์อยากจะอยู่กับเหมยชิง อยากแต่งงานกะเหมยชิงอีกครั้ง ทั้งที่เหมยชิงยอมกลับมาหาเพื่อมึง แต่มึงกลับไม่กล้าทำไรกะอีหม่าหลันสักอย่าฃ แค่หม่าหลันพูดขู่ว่าจะไปหาเรื่องเหมยชิง แทนที่จะให้เหมยชิงจ้างบอดีการ์ดมา อีหม่าก้ทำไรไม่ได้ล่ะ หรือไอฉางควนปกป้อง สู้กันจริงๆหม่าหลันก้สู้คงไม่ได้หรอก ทำมึงกลับกลัวหัวหด ชาตินี้ก้คงไม่ได้อยุ่กับคนรักหรอก ฝันไปเถอะมึง กระจอก...
ไม่ใช่ว่าข้อมูลของเย่เฉิน ตอนตั้งแต่9ขวบจนถึงปัจุบัน ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่ลบไปแล้วไม่ใช่หรอหรือเก้บซ่อนไว้ ถ้า้ป้นอย่างงี้ แสดงว่าองกรพั้วชิงก้สามารถหาได้เช่นกันดิ ถ้างั้น ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่มันลบออกข้อมูลตอนเด้กของพระเอกออกไปหรอกหรอ -.-"...
พูดมาได้ไงไม่ได้หวังเกินตัว แต่อยากมีลูกกะเย่เฉิน ถึงกับขนาดที่ว่าจะแอบมีความสัมพันกับพระเอกตอนหลับ แบบนี้ไม่ได้เรียกหวังเกินตัวเลยงั้นอ่าดิ 555 ผมชอบอ่านเรื่องโรงแมนติกน่ะ เพราะมันพอดี แต่เรื่องนี้อ่านแล้วไม่ฟินอ่ะ เรื่องความรักชายหญิง เพราะมันลุกหนักเกินไปจน จนไม่มีให้ลุ้นอาะ...
ไม่เข้าใจจริง ว่าทำไมต้องให้พระเอกชดเชย หรือชดใช้ความรักให้หญิงสาวพวกนี้ ถ้าเป้นกุ้ซิวอี้พอยอมรับได้เพราะ เป้นคู่หมั่นพระเอก แต่พวกที่เข้ามาหาพระเอก พระเอกก้แค่ช่วยไปเท่านั้น ให้จะได้สะดวกต่อการทำงานร่วมกัน ไม่ได้ช่วยเพราะรัก แต่พวกหล่อนกับบอกให้ชดใช้ ทั้งที่ที่พวกหล่อนมารักพระเอกแท้ๆ แต่กลับจะให้พระเอกชดใช้เนี่ยน่ะ...
เฮเลน่า แม่งก่น่ารังเกียจเกิ้น...
เฮเลน่ามึงก้ฝันกลางวันเกิ้น ถามหน่อยสู้ไรกับนานาโกะหรือกู้ซิวอิ้วอีกได้บ้าง เรื่องนี้ผู้หญิงแม่งก้มโนเก่งเกิน คิดว่าจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับพระเอก 555...
แล้วตู้ไหชิง ไม่ใช่ผู้หญิงที่ไอซูเต้าขอแต่งงานหรอ ไม่รู้คนเขียน หรือคนแปลที่แปลมั่ว ซูเต้า ไม่เคยขอใครแต่งงาน แล้วไห่ชิงนั้นไม่ได้เรียกว่าขอแต่งงานหรอกหรอ 555...
พระเอกมันเป้นห่วงความรุ้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น ไม่อยากให้เศร้าใจมากขนาดนี้น ทำไมไม่แต่งงานกับนานาโกะไปเลยล่ะ ขัดใจ ถ้าเป้นครอบครัวอื่นอยากยกความดีความชอบให้ลูกสาวอีกฝ่ายก้ไมาแปลก แต่ครอบครัวนานาโกะยังไงต่อให้ไม่ยกความดีความชอบให้นานาโกะ พ่อนานาโกะก้รักนานาโกะมากอยุ่ล่ะ แคร์ความรู้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น แต่งงานไปนานาโกะไปเลย ได้จบๆ 555...
บางที อ.ก้เขียนลำเอียงเกินไป วานพั่วจวิ้นทำงานแค่ตายจนกว่าจะได้ยามา แต่ซูรั่วรี่ไม่ได้ทำไรเลย มาถึงก้ได้ยาล่ะ 555...