ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน นิยาย บท 3869

สรุปบท บทที่ 3869 ไม่เห็นอะไรแบบนี้: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่ 3869 ไม่เห็นอะไรแบบนี้ – ตอนที่ต้องอ่านของ ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

ตอนนี้ของ ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน โดย เมฆทอง ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายนิยาย จีนทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 3869 ไม่เห็นอะไรแบบนี้ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

เย่เฉินกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่เป็นไร ครั้งนี้ที่ยังขาดไปก็คือความนิยมของจี๋ชิ่งถังนั้นยังไม่ได้กระจายออกไป แต่ตอนนี้ จี๋ชิ่งถัง จะต้องมีชื่อเสียงในหมู่กลุ่มมหาเศรษฐีชั้นนำของโลกแล้ว และการเตรียมงานประมูลยาอายุวัฒนะในปีหน้า ต้องการเพียงแค่ปล่อยข่าวออกไปก่อนล่างหน้า แล้วเหล่าผู้ขายเหล่านั้นที่ถืองานศิลปะชั้นยอดเอาไว้ก็จะแห่กันไปที่จี๋ชิ่งถังเพื่อขอความร่วมมือ”

ซ่งหวั่นถิงพยักหน้าและพูดอย่างจริงจังว่า “อาจารย์เย่ การประมูลครั้งนี้ ต้องขอบคุณคุณอย่างมากจริงๆ! ขอบคุณที่ให้โอกาสฉัน ให้โอกาสแก่จี๋ชิ่งถัง ต้องขอบคุณคุณที่ทำให้จี๋ชิ่งถังได้มีโอกาสโบยบินขนาดนี้ ขอบคุณ…”

เย่เฉินโบกมือและพูดว่า "หวั่นถิง พวกเราเป็นผู้ร่วมงานกัน ทุกคนล้วนร่วมมือกันเพื่อให้ได้รับสิ่งที่ต้องการ บรรลุผลประโยชน์ร่วมกัน และเติบโตไปด้วยกัน เธอไม่จำเป็นต้องเอ่ยขอบคุณตลอดเวลา"

ซ่งหวั่นถิงพยักหน้าอย่างซาบซึ้งแล้วรีบกล่าวว่า “อ้อใช่สิอาจารย์เย่ ในงานประมูลครั้งนี้ รายได้รวมของยาอายุวัฒนะและยันต์ขลังในการประมูลครั้งนี้อยู่ที่หนึ่งแสนสี่หมื่นเก้าพันสองร้อยสามสิบล้านดอลลาร์”

“อย่างไรก็ตาม จากมุมมองทางการเงิน ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ อยู่เบื้องหลังรายได้กว่าหนึ่งแสนสี่หมื่นล้านนี้”

“ถ้าเราไม่มีต้นทุน อย่างนั้นเงินกว่าแสนสี่หมื่นล้านนี้ก็จะถือเป็นกำไรสุทธิทั้งหมด เมื่อคำนวณภาษีเงินได้ขององค์กรที่ต้องจ่าย 25% คุณว่าเรื่องนี้สมควรวางแผนอย่างสมเหตุสมผลและถูกกฎหมายอย่างไรดี? ทางคุณเป็นฝ่ายรวบรวมวัตถุดิบในการทำ รวมถึงกระบวนการผลิตยาอายุวัฒนะด้วย นี่สามารถรวมเข้าไปได้หรือไม่?"

เย่เฉินกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ค่าวัตถุดิบจะมีต้นทุนได้เท่าไหร่ รายได้หนึ่งแสนสี่หมื่นเก้าพันสองร้อยสามสิบล้านดอลลาร์ เอาสามสิบล้านดอลลาร์นั้นมาเป็นต้นทุนก็ถือว่าสูงแล้ว ส่วนกระบวนการผลิตฉันเป็นคนทำเอง ดังนั้นต้นทุนนี้ไม่สามารถประเมินได้ ถือว่าแล้วไปเถอะ ให้เสียภาษีตามกำไรสุทธิแล้วกัน"

ซ่งหวั่นถิงตะลึงจนพูดไม่ออก ก่อนจะค่อยเอ่ยปากว่า “อาจารย์เย่ คุณไม่คิดจะวางแผนจริงๆ หรือ? นั่นเป็นเงินมูลค่ามากกว่าสามหมื่นล้านดอลล่าร์เชียวนะ...”

เย่เฉินโบกมือและพูดอย่างหนักแน่นว่า "ไม่ เอาตามที่ฉันบอกเถอะ จ่ายภาษีตามกำไรสุทธิทั้งหมด"

ซ่งหวั่นถิงสูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนจะพยักหน้าแล้วพูดว่า “ตกลงอาจารย์เย่ อีกเดี๋ยวฉันจะไปชี้แจงกับฝ่ายการเงินให้ชัดเจน”

เขาคิดอะไรบางอย่างได้แล้วพูดอีกว่า "อ้อใช่หวั่นถิง ฉันยังต้องการสร้างสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าขนาดใหญ่ในจินหลิง ข้อกำหนดคือต้องรองรับเด็กกำพร้าได้อย่างน้อย 10,000 คน นอกจากจะให้พวกเขามีความมั่นคงในการดำรงชีวิตที่ดีกับพวกเขาแล้ว ยังต้องมีโรงเรียนอนุบาลและโรงเรียนประถมอย่างต่อเนื่อง 12 ปีด้วย”

“ค่าใช้จ่ายในการก่อสร้าง ค่าแรง ค่าบุคลากรครู และค่าบำรุงรักษารายวันทั้งหมดผมเป็นคนออก นอกจากนี้ทีมครูจะต้องมีคุณภาพดีเยี่ยม ไม่ใช่แค่การให้ชีวิตและการศึกษาที่ยอดเยี่ยมเท่านั้น แต่ยังต้องช่วยให้พวกเขาเรียนจากชั้นอนุบาลถึงมัธยมปลายได้โดยตรงโดยไม่ถูกเลือกปฏิบัติ”

“นอกจากนี้ ค่าเล่าเรียน ค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ด และค่าครองชีพของเด็กที่เข้ามหาวิทยาลัย สถานเลี้ยงเด็กกำพร้านี้จะเป็นผู้รับผิดชอบ”

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ เย่เฉินก็ได้เปลี่ยนคำพูดและเอ่ยขึ้น “นอกจากนี้ เด็กทุกคนที่มาจากที่นี่และเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยได้ ล้วนต้องลงนามข้อตกลงกับสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าว่าหลังจากจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย ทั้งปริญญาโทหรือปริญญาเอกแล้ว พวกเขาจะต้องกลับไปที่จินหลิงเพื่อทำงานอย่างน้อย 5 ปี เพื่อให้พวกเขามีส่วนในการพัฒนาจินหลิง”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน