หลังจากพูดแล้ว หลี่เสี่ยวเฟินก็กล่าวขึ้นอีกครั้งว่า “หลังจากเกิดอุบัติเหตุที่บ้านของคลอเดีย เธอก็ได้หายตัวไปเกือบครึ่งเดือน และป้าหลี่ก็ได้ตามหาเธออยู่ตลอดมา หลังจากที่เธอกลับมาแล้ว ป้าหลี่ก็ได้ให้เธออยู่ที่บ้าน”
“ในช่วงเวลานั้น คลอเดียไม่กล้าออกมาพบปะกับผู้คน และก็ไม่ไปโรงเรียนแล้ว ต่อมาเธอไม่อยากจะกินอยู่ฟรีอยู่ที่บ้านทุกวัน เธอจึงยืนกรานที่จะมาช่วยที่ร้าน ป้าหลี่รู้สึกว่าสิ่งนี้จะช่วยให้เธอเดินออกจากเงามืดโดยเร็วที่สุด ดังนั้นจึงปล่อยให้เธอมาช่วย”
เย่เฉินพยักหน้าอย่างครุ่นคิด
ในเวลานี้ คลอเดียออกมาพร้อมกับกองขนมปังที่หั่นเป็นชิ้น และหลี่เสี่ยวเฟินก็รีบก้าวไปข้างหน้าช่วยเธอ
เมื่อเห็นว่างานมีไม่มาก เย่เฉินเลยไม่ได้ลุกขึ้นไปช่วย แต่หันกลับมาและเดินไปที่ประตูร้านสะดวกซื้อ
เย่เฉินยืนอยู่ที่หน้าประตู หยิบหมากฝรั่งที่เขาเพิ่งหยิบไปเมื่อกี้ออกมา หยิบออกมาหนึ่งแผ่นอย่างเบาๆ ลอกกระดาษออกแล้วใส่เข้าไปในปากของเขา เคี้ยวมันไปด้วย หันมองซ้ายมองขวาไปด้วย
การใช้ชีวิตของถนนเฮสติงส์นั้นมีบรรยากาศที่เข้มแข็งมาก
มีร้านค้าต่างๆ ที่มีป้ายชื่อเป็นภาษาจีนอยู่ทั่วไป ส่วนใหญ่เป็นร้านอาหารจีนและร้านเหล้าแบบกวางตุ้ง
ในบริเวณทางเท้าทั้งสองข้างของถนน ยังมีรถขายอาหารเคลื่อนที่จำนวนมาก บางคนขายเครปจีน และบางคนก็ขายรูเจียโมฝั่งทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน
แม้ว่าจะเลยเวลาอาหารกลางวันไปแล้ว แต่การค้าขายของร้านค้าก็ยังคงดีอยู่เช่นเดิม
เย่เฉินหยุดเดินและเฝ้าดูอยู่ครู่หนึ่ง ความรู้สึกเดียวคือชีวิตที่นี่สบายและสงบสุข และมองไม่เห็นว่ามีอันตรายอยู่ที่ไหนเลย
ในเวลานี้ ชายหญิงอายุสิบเจ็ดสิบแปดปีหลายคน ที่ดูเหมือนนักเรียนมัธยมต้นมาที่ประตูร้านสะดวกซื้อ พวกเขาเดินผ่านเย่เฉิน และผลักประตูแล้วเดินเข้าไป
เย่เฉินหันกลับไปมอง และเห็นหญิงสาวชาวเอเชียที่มีผมสีบลอนด์ยาวที่เป็นผู้นำ ตามด้วยเด็กชายเอเชีย ที่แต่งตัวตามแฟชั่น ทั้งสองคนควงแขนกันเหมือนเป็นแฟนกัน
หลัพูดแล้ว เธอก็ชี้ไปที่คลอเดียที่อยู่ข้างๆ หลี่เสี่ยวเฟิน และพูดอย่างท้าทายว่า “เฮ้ อีคนที่เสียโฉม เธอบอกอีดอกคนนี้สิว่า ปีนี้คุณหนูข้าอายุสิบเก้าปีแล้วใช่ไหม!”
คลอเดียรู้สึกประหม่าเล็กน้อย แต่ก็พูดอย่างหนักแน่นว่า “ถ้าฉันจำไม่ผิด เธอน่าจะเพิ่งอายุครบสิบแปดในปีนี้”
หลังจากที่เธอพูดจบ เธอก็มองไปที่หลี่เสี่ยวเฟิน และพูดอย่างจริงจังว่า “พี่เสี่ยวเฟิน ถ้าเราขายบุหรี่ให้เธอไป ตามกฎหมายของมณฑลบริติชโคลัมเบีย ทางร้านค้าจะถูกปรับค่าปรับสูงสุดห้าหมื่นดอลลาร์แคนาดา”
หลี่เสี่ยวเฟินขมวดคิ้วและพูดว่า “ฉันขอให้พวกคุณมุ่งความตั้งใจไปที่การเรียนทุกวัน อย่ามัวแต่จู่โจมมาหาเรื่องฉันอยู่ที่นี่ พวกคุณไปเถอะ ที่นี่ไม่ต้อนรับพวกคุณ!”
จู่ๆ สีหน้าของหญิงสาวก็เย็นชาลง จ้องไปที่คลอเดีย แล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “สมกับที่เป็นอีตัวแสบจริงๆ ปกติก็ชอบแย่งความสนใจจากข้าอยู่ที่โรงเรียน ตอนนี้เสียโฉมไปแล้วก็ยังแม่งมาขัดหูขัดตากูอยู่ที่นี่อีก กูจะซื้อบุหรี่แค่ซองเดียวก็ต้องมาสร้างปัญหาให้กูด้วย แม่งอีดอกจริงๆ เลย!”
หลังจากพูดจบ เธอกอดไหล่และมองไปยังเด็กชายที่อยู่ข้างๆ เธอ และพูดด้วยความรังเกียจว่า “มึงมันตาบอดไปแล้วจริงๆ ก่อนหน้านี้ยังเคยแอบชอบอีกดอกคนนี้ มึงยังเคยเขียนจดหมายรักถึงเธอหลายครั้งแอบฉันไม่ใช่เหรอ? ดูเหมือนว่าในตอนนั้นเธอไม่เคยสนใจมึงเลยแม้แต่น้อย! ประมาณว่า เธอไม่ได้เห็นมึงอยู่ในสายตาเลย แต่ตอนนี้เธอเสียโฉมไปแล้ว คุณอยากจะเลิกกับฉันแล้วลองไปตามจีบเธอดูไหม? บางทีเธออาจจะตกลงกับคุณก็เป็นไปได้!”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
สมน้ำหน้าไอฉางควน เหมาะกับหม่าหลันดี ขี้โม้เหมือนกัน ว่าคนที่มีความสามารถว่ากระจอกเหมือนกัน หลงตัวเองเหมือนกัน พูดมาได้ไงมึงกับหานเหมยชิงเป้นคู่ฟ้าประทาน 5555 สมล่ะที่คบกังหม่าหลันได้...
ทั้งที่เป็นผู้ชาย แรงเยอะกว่า ตัวใหญ่ก็ว่า แต่กลัวกับอีหม่าหลันพูดขู่แค่นี้เนี่ยน่ะ ไม่น่าเกิดเป็นผู้ชายเลยมึงไอเชียวฉางควน กูคิดว่าเป็นตุ๊ด ปากบอกรอเหมยชิงมานาน อยากจะพัฒนาความสัมพันธ์ อยากจะมีเพศสัมพันธ์อยากจะอยู่กับเหมยชิง อยากแต่งงานกะเหมยชิงอีกครั้ง ทั้งที่เหมยชิงยอมกลับมาหาเพื่อมึง แต่มึงกลับไม่กล้าทำไรกะอีหม่าหลันสักอย่าฃ แค่หม่าหลันพูดขู่ว่าจะไปหาเรื่องเหมยชิง แทนที่จะให้เหมยชิงจ้างบอดีการ์ดมา อีหม่าก้ทำไรไม่ได้ล่ะ หรือไอฉางควนปกป้อง สู้กันจริงๆหม่าหลันก้สู้คงไม่ได้หรอก ทำมึงกลับกลัวหัวหด ชาตินี้ก้คงไม่ได้อยุ่กับคนรักหรอก ฝันไปเถอะมึง กระจอก...
ไม่ใช่ว่าข้อมูลของเย่เฉิน ตอนตั้งแต่9ขวบจนถึงปัจุบัน ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่ลบไปแล้วไม่ใช่หรอหรือเก้บซ่อนไว้ ถ้า้ป้นอย่างงี้ แสดงว่าองกรพั้วชิงก้สามารถหาได้เช่นกันดิ ถ้างั้น ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่มันลบออกข้อมูลตอนเด้กของพระเอกออกไปหรอกหรอ -.-"...
พูดมาได้ไงไม่ได้หวังเกินตัว แต่อยากมีลูกกะเย่เฉิน ถึงกับขนาดที่ว่าจะแอบมีความสัมพันกับพระเอกตอนหลับ แบบนี้ไม่ได้เรียกหวังเกินตัวเลยงั้นอ่าดิ 555 ผมชอบอ่านเรื่องโรงแมนติกน่ะ เพราะมันพอดี แต่เรื่องนี้อ่านแล้วไม่ฟินอ่ะ เรื่องความรักชายหญิง เพราะมันลุกหนักเกินไปจน จนไม่มีให้ลุ้นอาะ...
ไม่เข้าใจจริง ว่าทำไมต้องให้พระเอกชดเชย หรือชดใช้ความรักให้หญิงสาวพวกนี้ ถ้าเป้นกุ้ซิวอี้พอยอมรับได้เพราะ เป้นคู่หมั่นพระเอก แต่พวกที่เข้ามาหาพระเอก พระเอกก้แค่ช่วยไปเท่านั้น ให้จะได้สะดวกต่อการทำงานร่วมกัน ไม่ได้ช่วยเพราะรัก แต่พวกหล่อนกับบอกให้ชดใช้ ทั้งที่ที่พวกหล่อนมารักพระเอกแท้ๆ แต่กลับจะให้พระเอกชดใช้เนี่ยน่ะ...
เฮเลน่า แม่งก่น่ารังเกียจเกิ้น...
เฮเลน่ามึงก้ฝันกลางวันเกิ้น ถามหน่อยสู้ไรกับนานาโกะหรือกู้ซิวอิ้วอีกได้บ้าง เรื่องนี้ผู้หญิงแม่งก้มโนเก่งเกิน คิดว่าจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับพระเอก 555...
แล้วตู้ไหชิง ไม่ใช่ผู้หญิงที่ไอซูเต้าขอแต่งงานหรอ ไม่รู้คนเขียน หรือคนแปลที่แปลมั่ว ซูเต้า ไม่เคยขอใครแต่งงาน แล้วไห่ชิงนั้นไม่ได้เรียกว่าขอแต่งงานหรอกหรอ 555...
พระเอกมันเป้นห่วงความรุ้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น ไม่อยากให้เศร้าใจมากขนาดนี้น ทำไมไม่แต่งงานกับนานาโกะไปเลยล่ะ ขัดใจ ถ้าเป้นครอบครัวอื่นอยากยกความดีความชอบให้ลูกสาวอีกฝ่ายก้ไมาแปลก แต่ครอบครัวนานาโกะยังไงต่อให้ไม่ยกความดีความชอบให้นานาโกะ พ่อนานาโกะก้รักนานาโกะมากอยุ่ล่ะ แคร์ความรู้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น แต่งงานไปนานาโกะไปเลย ได้จบๆ 555...
บางที อ.ก้เขียนลำเอียงเกินไป วานพั่วจวิ้นทำงานแค่ตายจนกว่าจะได้ยามา แต่ซูรั่วรี่ไม่ได้ทำไรเลย มาถึงก้ได้ยาล่ะ 555...