เมื่อพูดถึงตรงนี้ ป้าหลี่อดถอนหายใจไม่ได้ พูดอย่างหดหู่ว่า “อันที่จริง ทั้งสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า คนที่โดนปิดหูปิดตา ไม่ใช่แค่คุณคนเดียว ฉันก็เหมือนกัน ตอนนั้นคนงานทั้งหมดในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า มีเพียงฉันคนเดียวที่สมัครเข้ามา คนอื่นไม่แตกต่างกัน ล้วนเป็นคนที่พ่อบ้านถังจัดเอาไว้ อีกทั้งส่วนใหญ่ยังเป็นลูกน้องเก่าของพ่อคุณ......”
เมื่อเย่เฉินได้ยิน อดถอนหายใจไม่ได้ จากนั้นจึงพูดว่า “ที่แท้เป็นแบบนี้นี่เอง......ขอบคุณครับป้าหลี่! ที่ดูแลผมมาหลายปีขนาดนี้ ทำให้คุณกับพ่อบ้านถังหนักใจแล้ว!”
ป้าหลี่รีบโบกมือพัลวัน แล้วพูดว่า “อย่าพูดอย่างนี้ ฉันดูแลคุณเพราะหน้าที่ เป็นสิ่งที่ควรทำ อีกทั้งหลังจากฉันป่วย ถ้าไม่ใช่เพราะการช่วยเหลือของคุณกับพ่อบ้านถัง ฉันจะไปเย่นจิง และได้โอกาสรับการรักษาที่ดีที่สุดได้ยังไง......อีกอย่าง คนอื่นเป็นโรคไตวาย ล้วนปลูกถ่ายไตแค่ข้างเดียว ส่วนฉันปลูกถ่ายไตสองข้าง อันที่จริง คนที่ควรขอบคุณ ควรเป็นฉัน!”
เย่เฉินนึกอะไรขึ้นมาได้ จึงรีบพูดว่า “ป้าหลี่ ผมจับชีพจรให้คุณดีกว่า! ดูว่าตอนนี้ร่างกายคุณเป็นอย่างไรบ้าง”
หลี่เสี่ยวเฟินที่อยู่ข้างๆ ถามอย่างแปลกใจ “พี่เย่เฉิน......คุณจับชีพจรเป็นตั้งแต่เมื่อไรกัน”
เย่เฉินหัวเราะแล้วพูดว่า “ฉันทำอะไรเป็นหลายอย่างมาก จะให้รายงานเธอทุกอย่างได้ยังไง”
เมื่อก่อนตอนที่ป้าหลี่อยู่เมืองจินหลิง เคยได้ยินความสามารถของเย่เฉินมาบ้าง ถึงกระทั่งที่มีคนเรียกเขาว่าอาจารย์เย่ ดังนั้นจึงไม่ได้สงสัย และยื่นมือไปตรงหน้าเย่เฉิน
เย่เฉินใช้นิ้ววางลงบนชีพจรของป้าหลี่เบาๆ ใช้ปราณทิพย์เล็กน้อย รับรู้ได้ว่าสภาพร่างกายของป้าหลี่ ไม่ต่างจากคนที่มีสุขภาพดีเลย สภาพไตทั้งสองข้างก็ดีมาก
แต่ภายใต้การรับรู้ของปราณทิพย์ พอรับรู้ได้รางๆ ว่าร่างกายกับไตทั้งสองข้าง มีอาการต่อต้านกันเล็กน้อย ดูเหมือนจะเป็นการต่อต้านจากการปลูกถ่ายอวัยวะ แต่อาการต่อต้านนี้เล็กน้อยมาก น่าจะเป็นฤทธิ์ของยาต้าน
ใน 3-5 ปีนี้ สภาพร่างกายของป้าหลี่จะดีขึ้นเรื่อยๆ คนก็จะเด็กลงเรื่อยๆ ฤทธิ์ยาโดยรวม ไม่ได้ด้อยไปกว่ายาอายุวัฒนะ
แต่เมื่อเป็นเช่นนี้ เท่ากับว่าจะยืดเวลาการปลดปล่อยฤทธิ์ยาอายุวัฒนะ จากภายในห้านาที เป็น 3-5 ปี
เมื่อเป็นเช่นนี้ ไม่ว่าจะเป็นตัวเอง หรือคนข้างกาย ก็จะไม่มีใครเห็นได้อย่างชัดเจน แค่รู้สึกว่าคนคนนี้ ยิ่งอยู่ยิ่งเด็กลงเท่านั้น
เมื่อจัดการเรียบร้อย เย่เฉินหัวเราะเบาๆ แล้วพูดว่า “ป้าหลี่ การฟื้นตัวของร่างกายคุณดีมาก แต่ผมมีข้อแนะนำอย่างหนึ่ง ต่อไปไม่ต้องกินยาต้านอีกแล้ว ร่างกายคุณไม่เหมือนร่างกายคนอื่น ร่างกายคุณเข้ากันได้ดีกับไตที่ปลูกถ่าย ถ้ากินยาต้านเป็นเวลานาน จะส่งผลระยะยาวกับร่างกายคุณ ผมแนะนำว่าตั้งแต่วันนี้ให้เริ่มหยุดยาก่อน สังเกตดูว่าหลังจากหยุดกินยา ร่างกายรู้สึกดีกว่าเดิมหรือเปล่า ถ้าใช่ ก็ให้เลิกกินยาเลย”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โง่ทั้งพระเอกทั้งหลิวม่านฉง ทำตัวเป้นเมียพระเอกสะงั้น จนต้องเลื่อนผ่านขก.อ่าน ขัดใจ พระเอกแม่งก้จะแคร์ผู้หญิงทั้งโลกเลยรึไง...
ไอหลิวท่านฉง ก้มั่นหน้าเกินน่ะ คิดว่าพระเอกจะชอบมึงรึไง เล่นตัว จะหลุด...
ตระกูลเฟ่ยแม่งก้น่าขยะแขยงกันทุกตัวแหละ มีแค่เฟ่ยเข่อขิน เป้นตระกุลเดียวที่ไม่อยากให้เย่เฉนร่วมมือด้วยเลยจริงๆ เฟ่ยเจี้ยนจงแม่งก้ไม่ใช่คนดีไรนักหรอก ปากก้เอาเครื่องสวรรค์มาอ้าง สุดท้ายก้อยากจะไว้ชีวิตหลานตัวเอง น่าขยะแขยง...
สะใจไอไรอันมากกก...
โง่ก็โง่อยุ่วันยันค่ำ แทนที่จะเอาเรื่องแจ้งความมาพูด ถ้าคน1,000คนแจ้งความ คนที่โดนจับก้คือพวก1,000คนเพราะพวกนี้มันก้รุ้ว่าคนในครอบครัวทำไรแต่ไม่ห้ามไม่แจ้งตำรวจ ถ้าตำรวจรู้ว่าพวกญาติรู้แต่ไม่แจ้งความ ก้โดนข้อหาสมรู้ร่วมคิดแล้ว และพวกนี้ก้ไม่มีหลักฐานเอาผิดเฟนหยุน แต่ดันคืดไม่ได้เนี่ยน่ะ แต่สนุกมาก เป้นนิยายเรื่องแรกที่ติดงอม แหละอินมาก 555...
ตอนนี้กุต้องมาอ่านละครลิงโง่ๆ ภายในตระกูลเซียวใช่ไหม กุต้องเลื่อนให้พ้นๆอ่ะ...