อย่างไรก็ตาม หากกู้ชิวอี๋หายตัวไปจริงๆ ข่าวนี้คงจะดังระเบิดไปทั่วโลกอย่างแน่นอน
หากว่าสืบมาถึงตน เช่นนั้นคงจะเป็นปัญหาใหญ่มาก
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เขาก็รีบพูดขึ้นว่า "คุณชายเฟ่ยครับ ขอให้ผมได้พูดความในใจสักหน่อยนะครับ ปีนี้คุณอายุก็27แล้ว เป็นช่วงวัยที่เหมาะกับการแต่งงานพอดี หากว่าคุณชอบกู้ชิวอี๋จริงๆ คุณสามารถจีบเธอไดเ และหาทางแต่งงานก็เธอก็ได้.........”
เฟ่ยฮ่าวหยางพูดอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “แต่งงานกับเธอง่ายอย่างที่นายคิดเหรอ? หลายปีที่ผ่านมานี้ นางประกาศต่อสื่อภายนอกว่ากำลังตามหาเจ้าชายม้าขาวของตน และจะไม่แต่งงานกับใครนอกจากเขา สถานการณ์เช่นนี้ แม้ว่าฉันจะจีบเธอ เธอก็ไม่มีทางตอบตกลงหรอก ฉันจะไปเสียเวลาทำไม? จับตัวเธอมาเลยไม่ดีกว่าเหรอ?”
เฟ่ยฮ่าวหยางพูดอีกครั้ง “อีกอย่าง ตอนนี้ฉันไม่มีแผนจะแต่งงาน การแต่งงานเป็นเรื่องน่าเบื่อ เมื่อแต่งงานแล้ว ฉันจะไม่ได้เป็นอิสระเหมือนตอนนี้ ฉันจะไม่ยอมเสียป่าทั้งหมดไปเพียงเพื่อต้นไม้แค่ต้นเดียวหรอก”
เฉียวเฟยหยุนพูดอย่างลังเล "แต่...แต่...ยังไงคุณก็ต้องแต่งงานไม่ช้าก็เร็วนะครับ...”
เฟ่ยฮ่าวหยางตอบกลับทันที “นั่นคือเรื่องในอนาคต ค่อยว่ากันในอนาคต อีกเรื่องหนึ่ง เกาะของนายกำลังพัฒนาอยู่ไม่ใช่เหรอ? ถึงเวลานั้นก็พาเธอไปที่นั่น ฉันหมดสนุกเมื่อไหร่ก็จัดการนางเมื่อนั้น แล้วเอาศพเข้าไปเผาในเมรุ และโยนขี้เถ้ากระดูกลงทะเล ทุกอย่างไร้ร่องรอย ใครจะไปรู้ว่าเราเป็นคนทำ?”
หลังของเฉียวเฟยหยุนเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ เขารู้สึกเส้นประสาทชาไปหมด และวินาทีนั้นเขาไม่รู้จะตอบรับอย่างไรกับคำพูดของเฟ่ยฮ่าวหยาง
และเฟ่ยฮ่าวหยางเองก็สังเกตเห็นว่าเฉียวเฟยหยุนดูลังเลและพยายามปฏิเสธ น้ำเสียงของเขาก็เย็นชาทันทีและถามว่า " เฟยหยุน นายลังเลแบบนี้หมายความว่าอะไร? ไม่อยากทำงานให้ฉันใช่มั้ย? ถ้านายไม่ทำ ฉันจะให้คนอื่นมาทำ! "
เฟ่ยฮ่าวหยางกล่าวเสริมว่า " กู้ชิวอี๋มาที่อเมริกา จะไม่มีทางนำบอดี้การ์ดมาจำนวนมากอย่างแน่นอน มีความเป็นไปได้ว่าเธออาจร่วมมือกับบริษัทรักษาความปลอดภัยในสหรัฐอเมริกาล่วงหน้า และบริษัทรักษาความปลอดภัยของอเมริกาจะเป็นฝ่ายจัดหาบอดี้การ์ด ยานพาหนะ และอุปกรณ์อื่น ๆ เพื่อคุ้มกันเธอ”
“ตอนนั้น นายจับตาดูให้ดี ดูว่าเธอร่วมมือกับบริษัทรักษาความปลอดภัยไหน จากนั้นนายก็ไปหารายชื่อเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมา เลือกบุคคลที่เหมาะสมที่สุดเป็นจุดเจาะเข้า ดึงเขาออกมาก่อน แล้วร่วมมือกัน หาเวลาที่เหมาะสมแล้วจับตัวกู้ชิวอี๋มาซะ ขอแค่อย่าทิ้งหลักฐานเอาไว้ เรื่องนี้ก็จะทำสำเร็จ!”
เฉียวเฟยหยุนกล่าวอย่างเขินอายว่า “คุณชายเฟ่ยครับ มันยากมากที่จะลักพาตัวเธอออกมาภายใต้การคุ้มกันของทีมงานรักษาความปลอดภัย หากไม่ระวังเพียงนิดเดียวแผนของเราจะล้มเหลวทันที.....”
เฟยฮ่าวหยางกล่าวด้วยรอยยิ้ม " งานยากนั่นแหละ ถึงจะแสดงศักยภาพของนายออกมาได้ หลายปีที่ผ่านมานี้ข้าช่วยเจ้าในเรื่องเส้นสายมาไม่น้อย ในอนาคตอำนาจของฉันในตระกูลเฟ่ยก็จะสูงขึ้น แน่นอนว่าก็จะช่วยนายได้มากกว่าเดิมเป็นธรรมดา เฟยหยุน ตอนนี้ถึงเวลาที่นายจะได้ตอบแทนฉันดีๆแล้วล่ะ!"

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โง่ทั้งพระเอกทั้งหลิวม่านฉง ทำตัวเป้นเมียพระเอกสะงั้น จนต้องเลื่อนผ่านขก.อ่าน ขัดใจ พระเอกแม่งก้จะแคร์ผู้หญิงทั้งโลกเลยรึไง...
ไอหลิวท่านฉง ก้มั่นหน้าเกินน่ะ คิดว่าพระเอกจะชอบมึงรึไง เล่นตัว จะหลุด...
ตระกูลเฟ่ยแม่งก้น่าขยะแขยงกันทุกตัวแหละ มีแค่เฟ่ยเข่อขิน เป้นตระกุลเดียวที่ไม่อยากให้เย่เฉนร่วมมือด้วยเลยจริงๆ เฟ่ยเจี้ยนจงแม่งก้ไม่ใช่คนดีไรนักหรอก ปากก้เอาเครื่องสวรรค์มาอ้าง สุดท้ายก้อยากจะไว้ชีวิตหลานตัวเอง น่าขยะแขยง...
สะใจไอไรอันมากกก...
โง่ก็โง่อยุ่วันยันค่ำ แทนที่จะเอาเรื่องแจ้งความมาพูด ถ้าคน1,000คนแจ้งความ คนที่โดนจับก้คือพวก1,000คนเพราะพวกนี้มันก้รุ้ว่าคนในครอบครัวทำไรแต่ไม่ห้ามไม่แจ้งตำรวจ ถ้าตำรวจรู้ว่าพวกญาติรู้แต่ไม่แจ้งความ ก้โดนข้อหาสมรู้ร่วมคิดแล้ว และพวกนี้ก้ไม่มีหลักฐานเอาผิดเฟนหยุน แต่ดันคืดไม่ได้เนี่ยน่ะ แต่สนุกมาก เป้นนิยายเรื่องแรกที่ติดงอม แหละอินมาก 555...
ตอนนี้กุต้องมาอ่านละครลิงโง่ๆ ภายในตระกูลเซียวใช่ไหม กุต้องเลื่อนให้พ้นๆอ่ะ...