กู้ชิวอี๋พูดว่า: “รองประธานหลวนคนนั้น เป็นเพื่อนเก่าของพ่อหนู เพราะว่าความสัมพันธ์ชั้นนี้ การทัวร์คอนเสิร์ตหลายแห่งในครั้งนี้ของหนู ก็ได้ร่วมมือกับหอการค้าจีนในนครนิวยอร์กชุดหนึ่ง หลายวันก่อนคุณอาหลวนบอกว่าคุณชายเฟ่ยจะทำงานเลี้ยงการกุศลกับพวกเขา หวังว่าหนูสามารถที่จะมาร่วมงานได้ หนูคิดว่าหัวข้อของงานเลี้ยงการกุศลค่อนข้างมีความน่าสนใจ ดังนั้นก็ตกลง”
เฉินจ้างโจงพยักหน้า แล้วถามว่า: “งานเลี้ยงการกุศลในคืนนี้ ก็คือมุ่งเป้าไปให้เด็กกำพร้าชาวจีนใช่มั้ย?”
“ใช่ค่ะ”กู้ชิวอี๋พยักหน้า สายตามองไปทางเย่เฉินโดยไม่รู้ตัว และพูดออกมาว่า: “ปีนั้นพี่เย่เฉินลำบากมากมายอยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ตอนนี้เขาก็นำเงินมากมายมาเพื่อทำการกุศลให้กับเด็กกำพร้า ดังนั้นหนูอยากจะทำเพื่อเด็กกำพร้าส่วนหนึ่ง”
เฉินตัวตัวที่อยู่ด้านข้าง ในเวลาเดียวกันแอบลอบมองเย่เฉิน อยากจะดูท่าทางของเย่เฉินในเวลานี้จะเปลี่ยนไปเนื่องจากคำถามของเฉินจ้างโจงหรือเปล่า
เย่เฉินซึ่งมีประสาททางความรู้สึกที่ค่อนข้างเฉื่อยชา ในเวลานี้ไม่มีท่าทีอะไร แต่ในใจของเฉินจ้างโจงกลับรู้สึกกังวลใจมากขึ้นไปอีก
เพราะเขารู้สึกว่า ด้วยแบบนี้ งานเลี้ยงการกุศลแห่งนี้ ก็เหมือนจะจัดขึ้นมาเพื่อกู้ชิวอี๋
ถ้าอย่างนั้นอีกฝ่ายทำแบบนี้ มีจุดประสงค์อะไรกันแน่?
คุณชายเฟ่ยคนนั้นชอบกู้ชิวอี๋ อยากจะเอาอกเอาใจเธอ หรือว่าในใจของอีกฝ่ายมีความคิดอะไรไม่ดีกับกู้ชิวอี๋?
ถ้าหากไม่มีห้องปิดมิดชิดนี้ ห้องไม่มีทางหนี บางทีเฉินจ้างโจงจะรู้สึกว่า แปดสิบเปอร์เซ็นต์เฟ่ยฮ่าวหยางต้องการซื้อใจ และได้รับความสนใจจากกู้ชิวอี๋
แต่ว่า ถ้าหากห้องนี้รวมอยู่ในเงื่อนไขของการวิเคราะห์อีก เฉินจ้างโจงก็รู้สึกว่า ที่นี่มีความอาฆาตจางๆ ดังนั้นอย่างหลังจึงมีความเป็นไปได้มากกว่า
นี่ก็เหมือนกับว่า ผู้ชายคนหนึ่งออกเดตกับผู้หญิง ถ้าหากเขาพกถุงยางอนามัยไปด้วย ไม่ได้หมายความว่าเขาอยากจะขืนใจเสมอไป บางทีเขาแค่อยากอยู่ในบรรยากาศที่ได้อารมณ์ และทำไปตามสถานการณ์
แต่ถ้าหากนอกเหนือจากถุงยางอนามัย เขายังพกกริชเล่มหนึ่งไปด้วย ถ้าอย่างนั้นความรู้สึกของเรื่องนี้ก็จะเปลี่ยนไปทั้งหมด
ชั่วขณะหนึ่ง เขาก็ไม่รู้ว่าจะบอกความคิดของตัวเองกับเย่เฉินและกู้ชิวอี๋ได้อย่างไร ยังไงซะกู้ชิวอี๋เป็นบุคคลสาธารณะ และหลายสิ่งหลายเกิดขึ้นกับบุคคลสาธารณะก็จะถูกขยายออกไปไม่มีสิ้นสุด
ถ้าหากกู้ชิวอี๋ไม่ใช่ดาราใหญ่ ถ้าอย่างนั้นตัวเองก็จะแนะนำให้เธอระมัดระวังมากกว่านี้ ทางที่ดีควรออกจากที่นี่ก่อน
เย่เฉินค่อนข้างประหลาดใจ มองไปที่เฉินจ้างโจง และถามด้วยเสียงต่ำ: “ลุงโจง ลุงคิดว่าที่นี่มีปัญหาอะไร?”
ด้วยการพัฒนาความแข็งแกร่งของตัวเองอย่างต่อเนื่อง เย่เฉินได้เข้าสู่สภาวะของสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงตั้งนานแล้ว
ดังนั้น เขาก็ไม่จำเป็นต้องระมัดระวังมากตลอดเวลา ด้วยกำลังของเขา รับประกันได้ว่าเมื่อประสบกับยามคับขัน โดยพื้นฐานสามารถรับมือได้อย่างง่ายดาย
แต่ว่า เฉินจ้างโจงกลับไม่เหมือนกัน
มาถึงสหรัฐอเมริกาเป็นเวลาหลายปีขนาดนี้ เฉินจ้างโจงระมัดระวังอยู่เสมอ
ด้านหนึ่งเขาต้องกังวลว่าสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจะทราบสถานการณ์เข้าเมืองที่ผิดกฎหมายของตัวเอง อีกด้านหนึ่งยังกังวลด้วยว่าเศรษฐีแซ่หลิวบนเกาะฮ่องกงจะส่งคนไปตามหาตัวเอง
ดังนั้น เขาจึงคอยระมัดระวังทุกสิ่งรอบตัวอยู่เสมอ และการรับรู้ของอันตราย ก็ย่อมมีไหวพริบมากกว่าเป็นธรรมดา

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
ตอนนี้กุต้องมาอ่านละครลิงโง่ๆ ภายในตระกูลเซียวใช่ไหม กุต้องเลื่อนให้พ้นๆอ่ะ...
ขัดใจกับไแคนครอบครัว เซียวชูหรันชิบหาย ไม่ว่าใครก้โง่จนใสซื่อ ไอฉางควรก็ปิดแหก ไอหม่าหลันก็น่าเงิน สุดท้ายครอบครัวนี้แม่งไม่สมประกอบทุกตัว...
แทนทีจะแยกออกไปอยู่คนเดียว ถ้าก้เป้นฉางควนอยากอยู่กับรักแรกก้ต้องลงทุน แต่นี่มึงยังไม่กล้ากับหม่ากันเลย กลัวจนขึ้นมาสมอง แล้วหวังอยากจะอยุ่กับหานเหมยชิง อยากจะระลึกความหลัง เห้นแก่ตัวเกินไปไอห่า กลัวหม่าหลันแค่ตาย ปอดแหกแบบนี้มึงก้อยุ่กับอีหม่าหลันไปเถอะ สมน้ำหน้าแบ่งทำเพื่อรักแรกมึงยังไม่กล้าทำเลย แล้วหวังจะอยุ่กับเหมยชิง...
ไอเซียวฉาวควนแม่งมาหวงก้างจัด เฮ่อกับหารเหม่ยชิงโครตเหมาะกันอยากให้2คนนี้คบกันมาก ไอเซียวฉางควนกับอีแค่หม่าหลันมคงยังไม่กล้า แล้วนยังจะคิดอยุ่กับหานเหม่อยชิง มึงปอดแหกแบบนี้มึงก้ไม่มีวันสมหวังหรอก ไอโง่...
ผญ.เรื่องนี้แม่งหลงตัวเองทั้ง มีแค่ตงเสวี่นร ชูกรัน กูซิวอี๋ นอกนั้นหลงตัวเองชิบหาย...
นิยายเรื่องนี้สร้างเป็นละครสั้นหรือยัง...
อัพเดตตอนใหม่ทีครับ...
อ่านมาจะ4พันตอนละพระนางยังไม่ำด้กันเลย นิสัยพระเอกก็สุดๆยังดีเนื้อเรื่องสนุก...
อ่านต่อได้ตรงไหนครับ...
สงสารหวังเจิ้งกาง หลังจากมอบบ้านมอบรถให้เย่เฉิน ก้ไม่เห็นเยเฉินพูดถึงเลย เหมือนเป็นตัวประกอบ ตอนแรกๆ 555...