เมื่อเห็นว่าเพื่อนของเขางงงวย อานโฉงชิวก็อดหัวเราะไม่ได้และพูดว่า "ดูเหมือนว่านักสืบชาวจีนอย่างนายบางครั้งก็ยังหัวตันอยู่บ้าง"
หลี่ญ่าหลินกล่าวด้วยรอยยิ้มบิดเบี้ยว: "สิ่งสำคัญคือเรื่องนี้ขัดกับหลักการไปจริง ๆ หากอีกฝ่ายแข็งแกร่งมากขนาดนี้ พวกเราไม่มีทางไม่เคยได้ยินมาก่อน ในสังคมนี้ จะมีคนที่สามารถสั่งสมกำลังอันทรงพลังขนาดนี้อย่างเงียบๆได้ยังไง?”
อานโฉงชิวยิ้มอย่างขมขื่นและกล่าวว่า "ญ่าหลิน หลายสิ่งหลายอย่าง...ขัดกับหลักการจริงๆ พูดได้คำเดียวว่าเป็นพวกเราที่เป็นกบในกะลา..."
พูดไปเขาก็มองไปที่หลี่ญ่าหลินและถามว่า "นายเชื่อไหมว่าในโลกนี้มียาแบบหนึ่ง ที่เม็ดหนึ่งใหญ่แค่ไข่นกกระทา แต่นายกลับไม่สามารถซื้อมันมาได้ด้วยเงินสามแสนล้านดอลลาร์?"
หลี่ญ่าหลินตกตะลึงและโพล่งออกมา "นายว่าอะไรนะ?! ยาเม็ดหนึ่งมูลค่าสามแสนล้านดอลลาร์! ฉันหูฟาดไปรึเปล่า?”
อานโฉงชิวพยักหน้าอย่างหนักแน่นและกล่าวว่า "ใช่! นายได้ยินไม่ผิด เป็นเงินสามแสนล้าน!"
หลี่ญ่าหลินขมวดคิ้วและพูดว่า "หรือว่ามันเป็นยาเฉพาะกลุ่มอย่างยารักษามะเร็งแล้วขายพร้อมสิทธิบัตรมูลค่าสามแสนล้านดอลล์? แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังแพงเกินไป..."
อานโฉงชิวกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า "มีสิทธิบัตร...นายฝันหรูเกินไป! มันเป็นแค่เม็ดยาจีนเม็ดหนึ่ง และเงินสามแสนล้านเหรียญก็เพื่อซื้อยาเม็ดนั้นเท่านั้น ไม่เพียงแต่ไม่ให้สูตรกับนาย แต่ยังถึงขั้นไม่อนุญาตให้นายนำออกไปจากงาน นายจะต้องซื้อ ณ ที่นั้นแล้วต้องกินทันที"
“เวรเอ๊ย...” หลี่ญ่าหลินหลุดปากโวยออกมาและเบ้ปากพูดว่า “มันแม่งบ้าไปแล้ว กล้าขายถึงสามแสนล้านเหรียญ? นี่แทบจะ โหดเหี้ยมยิ่งกว่าพวกโจรลักพาตัวพวกนี้ซะอีก! ราคาสูงขนาดนี้ คนบ้าที่ไหนจะไปซื้อ?”
หลี่ญ่าหลินที่โพล่งประโยคนี้ออกมา ทำเอาใบหน้าของอานโฉงชิวเป็นดำคล้ำทันที
อย่างไรก็ตาม เขาหยิบแก้วเหล้าขึ้นมาเงียบๆ และจิบลงไปอึกใหญ่ จากนั้นก็เดาะปากแล้วพูดเบา ๆ ว่า "คนบ้าที่นายพูดถึงก็คือฉันเอง"
หลี่ญ่าหลินจ้องมองเขาด้วยความงุนงงและโพล่งออกมา "เชี่ยเอ๊ย! นี่มันอะรกัน? นายถูกคนโกงหรือเปล่า?"
"ก็ใช่" อานโฉงชิวส่ายหัวและถอนหายใจ "ฉันบอกนายตั้งนานแล้ว อย่าเป็นตำรวจ ไม่มีความหมายอะไร แต่นายไม่ฟัง"
หลี่ญ่าหลินโบกมือของเขา "อย่าพูดเลย มาพูดถึงยานั่นดีกว่า มันเป็นยาอะไรกันแน่ ถึงได้มีราคาสามแสนล้านเหรียญหรือไม่"
อานโฉงชิวกล่าวด้วยสีหน้าที่ค่อนข้างพิศวงว่า: "เป็นยาวิเศษชนิดหนึ่ง...ที่สามารถรักษาโรคต่างๆ ของร่างกายได้ทั้งหมด ทำให้คนที่เป็นราวกับต้นไม้ที่เหี่ยวแห้งสามารถย้อนเวลากลับไปยี่สิบปี..."
หลี่ญ่าหลินขมวดคิ้ว: "ไหนจะมีเรื่องมหัศจรรย์ขนาดนั้น นายดูหนังมากเกินไปหรือเปล่า?"
อานโฉงชิวยิ้มและกล่าวว่า “นายไม่ได้เห็นกับตา ดังนั้นไม่ว่าฉันจะพูดอะไรนายก็คงไม่เชื่อ แต่เมื่อนายได้เห็นผลของมันด้วยตาตนเองเมื่อไหร่ นายก็จะชื่นชมมันเหมือนฉัน"
พูดไป อานโฉงชิวก็เล่าให้หลี่ญ่าหลินฟังเกี่ยวกับสิ่งที่เขาเห็นในงานประมูลยาอายุวัฒนะในวันนั้น

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
ตอนนี้กุต้องมาอ่านละครลิงโง่ๆ ภายในตระกูลเซียวใช่ไหม กุต้องเลื่อนให้พ้นๆอ่ะ...
ขัดใจกับไแคนครอบครัว เซียวชูหรันชิบหาย ไม่ว่าใครก้โง่จนใสซื่อ ไอฉางควรก็ปิดแหก ไอหม่าหลันก็น่าเงิน สุดท้ายครอบครัวนี้แม่งไม่สมประกอบทุกตัว...
แทนทีจะแยกออกไปอยู่คนเดียว ถ้าก้เป้นฉางควนอยากอยู่กับรักแรกก้ต้องลงทุน แต่นี่มึงยังไม่กล้ากับหม่ากันเลย กลัวจนขึ้นมาสมอง แล้วหวังอยากจะอยุ่กับหานเหมยชิง อยากจะระลึกความหลัง เห้นแก่ตัวเกินไปไอห่า กลัวหม่าหลันแค่ตาย ปอดแหกแบบนี้มึงก้อยุ่กับอีหม่าหลันไปเถอะ สมน้ำหน้าแบ่งทำเพื่อรักแรกมึงยังไม่กล้าทำเลย แล้วหวังจะอยุ่กับเหมยชิง...
ไอเซียวฉาวควนแม่งมาหวงก้างจัด เฮ่อกับหารเหม่ยชิงโครตเหมาะกันอยากให้2คนนี้คบกันมาก ไอเซียวฉางควนกับอีแค่หม่าหลันมคงยังไม่กล้า แล้วนยังจะคิดอยุ่กับหานเหม่อยชิง มึงปอดแหกแบบนี้มึงก้ไม่มีวันสมหวังหรอก ไอโง่...
ผญ.เรื่องนี้แม่งหลงตัวเองทั้ง มีแค่ตงเสวี่นร ชูกรัน กูซิวอี๋ นอกนั้นหลงตัวเองชิบหาย...
นิยายเรื่องนี้สร้างเป็นละครสั้นหรือยัง...
อัพเดตตอนใหม่ทีครับ...
อ่านมาจะ4พันตอนละพระนางยังไม่ำด้กันเลย นิสัยพระเอกก็สุดๆยังดีเนื้อเรื่องสนุก...
อ่านต่อได้ตรงไหนครับ...
สงสารหวังเจิ้งกาง หลังจากมอบบ้านมอบรถให้เย่เฉิน ก้ไม่เห็นเยเฉินพูดถึงเลย เหมือนเป็นตัวประกอบ ตอนแรกๆ 555...