หลี่ญ่าหลินได้ฟังก็อึ้งไปทันที เขากล่าวว่า "ไม่น่าเชื่อจริงๆ....ในโลกนี้จะมีสิ่งมหัศจรรย์แบบนั้นอยู่ด้วย มหัศจรรย์ถึงขนาดที่คิดไม่ออกว่ามันจะสามารถเชื่อมโยงกับพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ใดได้ และรู้สึกว่าหนังสือจำนวนมากที่เรียนมาในสหรัฐอเมริกาล้วนเสียเปล่าไปแล้ว"
อานโฉงชิวกล่าวด้วยรอยยิ้ม "ดังนั้นเมื่อกี้ฉันถึงได้บอก มีเรื่องมากมายที่พวกเราไม่คิดว่ามันจะเป็นไปได้ แต่บางทีปัญหาอาจไม่ได้อยู่ที่เรื่องนั้น แต่เป็นพวกเราที่รู้ไม่มากพอ"
หลี่ญ่าหลินถอนหายใจและกล่าวว่า "ถ้าฉันมียานี้จริงๆ คุณท่านที่บ้านฉันบางทีอาจจะอายุยืนขึ้นก็ได้ แต่ก็ไร้ประโยชน์ ฉันไม่มีปัญญาจ่ายไหว"
พูดจบ เขาก็นึกอะไรบางอย่างได้ จากนั้นก็มองไปที่อานโฉงชิวแล้วถามว่า "ทำไมนายถึงอยากซื้อสิ่งนี้? ให้ใครใช้?"
อานโฉงชิวถอนหายใจ "ให้พ่อฉัน อาการโรคอัลไซเมอร์ของเขาเริ่มแย่ลงเรื่อยๆแล้ว"
“โรคอัลไซเมอร์?” หลี่ญ่าหลินโพล่งออกมา "ภาวะสมองเสื่อมใช่มั้ย?! คุณลุงอานเป็นโรคนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?"
อานโฉงชิวถอนหายใจ: “เขาป่วยมานานกว่าสองปีแล้ว ตอนแรกๆก็พบว่าเขามักจะลืมของได้ง่ายๆเสมอ บางครั้งเขาก็จำไม่ได้ว่าวางของไว้ที่ไหนทั้งๆที่เพิ่งวางมันลงไป บางทีเมื่อกี้เพิ่งพูดอะไรไปพริบตาเดียวก็ลืมไปแล้วแถมยังพูดซ้ำขึ้นมา บางทีเวลานายพูดอะไรกับเขา เขาเหมือนจะเข้าใจ แต่พริบตาก็กลับมาถามนายอีกครั้ง...”
“ในตอนนั้นพวกเราก็มีผู้เชี่ยวชาญที่ดีที่สุดเข้ามาช่วยดูแล้ว อีกทั้งยังพาเขาไปฝึกอย่างเป็นระบบเพื่อต่อสู้กับโรค แต่สาเหตุของโรคคือการทำงานของสมองลดลง ดังนั้นจึงไม่มีการรักษาที่ได้ผลในทางการแพทย์ จากนั้นอาการของเขาก็ทรุดโทรมลงเรื่อยๆ"
“ใช่…” ฉงชิวคร่ำครวญ “ตอนนี้ความทรงจำของเขาติดอยู่ในช่วงเวลาที่พี่สาวของฉันเพิ่งเสียชีวิตไป นั่นเป็นช่วงที่เจ็บปวดที่สุดในชีวิตของเขา ตอนนั้นทุกวันเขาล้วนเสียใจและเอ่ยโทษตัวเองทุกวัน ใช้น้ำตาล้างหน้า เมื่อความทรงจำของเขาชะงักอยู่ที่นี่ เมื่อเขาตื่นนอนมาทุกวันก็จะแอบร้องไห้กับรูปพี่สาวของฉัน และบอกเสมอว่าเป็นเขาที่ฆ่าพี่สาวฉัน และสุขภาพของเขาก็เปลี่ยนเป็นแย่ลงอย่างมาก”
หลี่ญ่าหลินถามอย่างเร่งรีบ “อย่างนั้นหากผ่านไปอีกสักพักน่าจะดีขึ้นไหม? ฉันหมายถึงว่าเมื่อความทรงจำของเขายังลดถอยไปอีกเป็นระยะเวลาหนึ่ง จนตอนนั้นก็จะเป็นขั้นสงครามเย็นระหว่างเขากับพี่สาวของนายก่อนที่พี่สาวนายจะเกิดอุบัติเหตุ อย่างนั้นจะดีกว่าไหม?"
อานโฉงชิวพยักหน้าและกล่าวว่า "ฉันก็เคยคิดอย่างนั้นมาก่อน แต่ฉันคิดไม่ถึงว่า ช่วงตลอดหกเดือนที่ผ่านมา ความทรงจำของเขากลับยังไม่ถดถอยไปอีกเลย....อาจเป็นเพราะช่วงเวลานี้ส่งผลกระทบรุนแรงเกินไปสำหรับเขา ดังนั้นความทรงจำของเขาจึงติดอยู่ที่นี่...”
หลี่ญ่าหลินตะลึงงันและพึมพำครู่หนึ่ง: "ความทรงจำติดอยู่ในช่วงเวลาที่เจ็บปวดที่สุดในชีวิต...นี่...ช่างเป็นความโหดร้ายเกินไปจริงๆ"

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
ตอนนี้กุต้องมาอ่านละครลิงโง่ๆ ภายในตระกูลเซียวใช่ไหม กุต้องเลื่อนให้พ้นๆอ่ะ...
ขัดใจกับไแคนครอบครัว เซียวชูหรันชิบหาย ไม่ว่าใครก้โง่จนใสซื่อ ไอฉางควรก็ปิดแหก ไอหม่าหลันก็น่าเงิน สุดท้ายครอบครัวนี้แม่งไม่สมประกอบทุกตัว...
แทนทีจะแยกออกไปอยู่คนเดียว ถ้าก้เป้นฉางควนอยากอยู่กับรักแรกก้ต้องลงทุน แต่นี่มึงยังไม่กล้ากับหม่ากันเลย กลัวจนขึ้นมาสมอง แล้วหวังอยากจะอยุ่กับหานเหมยชิง อยากจะระลึกความหลัง เห้นแก่ตัวเกินไปไอห่า กลัวหม่าหลันแค่ตาย ปอดแหกแบบนี้มึงก้อยุ่กับอีหม่าหลันไปเถอะ สมน้ำหน้าแบ่งทำเพื่อรักแรกมึงยังไม่กล้าทำเลย แล้วหวังจะอยุ่กับเหมยชิง...
ไอเซียวฉาวควนแม่งมาหวงก้างจัด เฮ่อกับหารเหม่ยชิงโครตเหมาะกันอยากให้2คนนี้คบกันมาก ไอเซียวฉางควนกับอีแค่หม่าหลันมคงยังไม่กล้า แล้วนยังจะคิดอยุ่กับหานเหม่อยชิง มึงปอดแหกแบบนี้มึงก้ไม่มีวันสมหวังหรอก ไอโง่...
ผญ.เรื่องนี้แม่งหลงตัวเองทั้ง มีแค่ตงเสวี่นร ชูกรัน กูซิวอี๋ นอกนั้นหลงตัวเองชิบหาย...
นิยายเรื่องนี้สร้างเป็นละครสั้นหรือยัง...
อัพเดตตอนใหม่ทีครับ...
อ่านมาจะ4พันตอนละพระนางยังไม่ำด้กันเลย นิสัยพระเอกก็สุดๆยังดีเนื้อเรื่องสนุก...
อ่านต่อได้ตรงไหนครับ...
สงสารหวังเจิ้งกาง หลังจากมอบบ้านมอบรถให้เย่เฉิน ก้ไม่เห็นเยเฉินพูดถึงเลย เหมือนเป็นตัวประกอบ ตอนแรกๆ 555...