ยี่สิบนาทีต่อมา เฟ่ยเจี้ยนจง เฟ่ยเข่อซินและหยวนจื่อซูทั้งสามคน มาถึงที่ดาดฟ้าพร้อมกับสัมภาระของตัวเอง
ในเวลานี้ สีท้องฟ้าเหนือทะเลก็ได้มืดลงแล้ว เหลือเพียงแสงสลัวจากเส้นขอบฟ้าด้านตะวันตก
บนดาดฟ้า ซูรั่วหลีได้รออยู่ที่นี่เป็นสิบนาทีแล้ว
เมื่อเฟ่ยเจี้ยนจงเห็นซูรั่วหลี เขาก็พูดอย่างสุภาพว่า “คุณหนูซู ต้องลำบากคุณแล้วที่ต้องไปกับพวกเราอีกครั้ง.......”
ซูรั่วหลียิ้มเล็กน้อย และกล่าวว่า “คุณท่านเฟ่ยไม่ต้องเกรงใจ ตราบใดที่เป็นสิ่งที่คุณเย่สั่งให้ฉันทำ ฉันก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด”
หลังจากนั้น เธอก็มองดูเวลา แล้วพูดว่า “คุณท่านเฟ่ย เฮลิคอปเตอร์กำลังจะมาถึงแล้ว ตอนนี้พวกเราอยู่ห่างจากโคลัมโบประมาณสองร้อยกิโลเมตร และจะใช้เวลาในการบินไปประมาณหนึ่งชั่วโมง”
เฟ่ยเจี้ยนจงพยักหน้าอย่างเบาๆ
แม้ว่าเขาอยากจะถามอย่างยิ่งว่า ทำไมจู่ๆ เย่เฉินถึงจัดให้ตัวเองและหลานสาวไปที่โคลัมโบ และสิ่งที่อยากจะถามตัวเองมากกว่าก็คือหลังจากที่ไปถึงโคลัมโบแล้ว จะต้องทำยังไงต่อไป
แต่หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ตัดสินใจทำตามที่เย่เฉินจัดการไว้
ในเมื่อมาถึงจุดนี้แล้ว ก็ต้องยอมรับมันให้ได้
ในไม่ช้า เฮลิคอปเตอร์ขนาดใหญ่ที่บินอยู่บนพื้นผิวทะเลก็ได้บินเข้าด้วยความเร็วสูง และเครื่องบินก็เริ่มลดความเร็วลงเมื่อเข้าใกล้เรือบรรทุกสินค้า จากนั้นก็ร่อนลงเหนือดาดฟ้าโดยตรง
ทันทีที่เฮลิคอปเตอร์หยุดลงบนดาดฟ้า ประตูก็เปิดออกทันที ทหารของสำนักว่านหลงหลายคนพร้อมปืนและกระสุนจริงก็ได้ลงจากเรือ และมาถึงตรงหน้าซูรั่วหลีในสองสามก้าวเดิน คนที่เป็นผู้นำทีมกล่าวด้วยความเคารพว่า “คุณหนูซู เราได้รับคำสั่งจากท่านประมุข มารับคุณและคนอื่นๆ ไปที่โคลัมโบ เวลาเร่งรีบ เชิญทุกท่านรีบขึ้นเครื่องบินกันเถอะ”
ซูรั่วหลีพยักหน้า และพูดกับเฟ่ยเจี้ยนจงว่า “คุณท่านเฟ่ย คุณเชิญขึ้นไปก่อนเถอะ”
เย่เฉินรีบถามว่า “ใครรังแกคุณเหรอ?”
กู้ชิวอี๋พูดอย่างโกรธเคืองว่า “ก็คือเฟ่ยเสวปิงคนนั้นไง! บริษัท ที่อยู่ภายใต้ตระกูลของพวกเขา ซื้อสถานที่ที่ฉันกำลังจะจัดคอนเสิร์ตในราคาสูง แล้วก็บอกว่าสถานที่จะทำการปรับปรุงใหม่ ทำให้ฉันต้องเลื่อนคอนเสิร์ตหรือเปลี่ยนสถานที่ เวทีของเราก็ใกล้จะสร้างเสร็จแล้ว และเครื่องเสียงและอุปกรณ์ศิลปะบนเวทีก็เข้าสู่สถานที่ไปแล้ว ถ้าในเวลานี้ต้องเปลี่ยนสถานที่มันคงไม่ทันหรอก.......”
เย่เฉินขมวดคิ้วและพูดว่า “ไอ้สารเลวคนนี้ตั้งใจทำชัดๆ! จุดประสงค์ของเขาที่ทำเช่นนี้คืออะไรเหรอ?”
กู้ชิวอี๋กล่าวว่า “เขาโทรหาตัวตัว และบอกว่าเขาอยากจะเชิญฉันไปทานข้าวที่บ้านเขา ฉันคิดว่าพวกเขาต้องมีเจตนาไม่ดีแน่ๆ บางทีพวกเขาอาจสงสัยว่าการหายตัวไปของเฟ่ยฮ่าวหยางเกี่ยวข้องกับฉัน และอยากจะสืบข้อมูลจากฉัน.........”
เย่เฉินถามอย่างขุ่นเคืองเล็กน้อยว่า “ทำไม? เขาหมายความว่าถ้าคุณไม่ยอมรับคำเชิญของพวกเขา การแสดงของคุณก็จะต้องถูกเลื่อนออกไปอย่างแน่นอนแล้วงั้นเหรอ?”
“ใช่!” กู้ชิวอี๋ก็พูดอย่างโกรธเคืองว่า “ตอนนี้พวกเขากำลังข่มขู่ฉันด้วยเรื่องนี้ ถ้าฉันไม่ไป คอนเสิร์ตก็อาจจะต้องเลื่อนออกไป แต่ฉันยังมีอีกหลายคอนเสิร์ตต่อจากนี้ ถ้าเวลาของรอบนี้เปลี่ยนไป เวลารอบอื่นก็จะต้องเปลี่ยนไปด้วย แม้ว่าฉันจะระงับคอนเสิร์ตรอบนี้ไว้ก่อน พวกเขาก็อาจจะทำแบบเดียวกับคอนเสิร์ตรอบต่อไปได้”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
ตอนนี้กุต้องมาอ่านละครลิงโง่ๆ ภายในตระกูลเซียวใช่ไหม กุต้องเลื่อนให้พ้นๆอ่ะ...
ขัดใจกับไแคนครอบครัว เซียวชูหรันชิบหาย ไม่ว่าใครก้โง่จนใสซื่อ ไอฉางควรก็ปิดแหก ไอหม่าหลันก็น่าเงิน สุดท้ายครอบครัวนี้แม่งไม่สมประกอบทุกตัว...
แทนทีจะแยกออกไปอยู่คนเดียว ถ้าก้เป้นฉางควนอยากอยู่กับรักแรกก้ต้องลงทุน แต่นี่มึงยังไม่กล้ากับหม่ากันเลย กลัวจนขึ้นมาสมอง แล้วหวังอยากจะอยุ่กับหานเหมยชิง อยากจะระลึกความหลัง เห้นแก่ตัวเกินไปไอห่า กลัวหม่าหลันแค่ตาย ปอดแหกแบบนี้มึงก้อยุ่กับอีหม่าหลันไปเถอะ สมน้ำหน้าแบ่งทำเพื่อรักแรกมึงยังไม่กล้าทำเลย แล้วหวังจะอยุ่กับเหมยชิง...
ไอเซียวฉาวควนแม่งมาหวงก้างจัด เฮ่อกับหารเหม่ยชิงโครตเหมาะกันอยากให้2คนนี้คบกันมาก ไอเซียวฉางควนกับอีแค่หม่าหลันมคงยังไม่กล้า แล้วนยังจะคิดอยุ่กับหานเหม่อยชิง มึงปอดแหกแบบนี้มึงก้ไม่มีวันสมหวังหรอก ไอโง่...
ผญ.เรื่องนี้แม่งหลงตัวเองทั้ง มีแค่ตงเสวี่นร ชูกรัน กูซิวอี๋ นอกนั้นหลงตัวเองชิบหาย...
นิยายเรื่องนี้สร้างเป็นละครสั้นหรือยัง...
อัพเดตตอนใหม่ทีครับ...
อ่านมาจะ4พันตอนละพระนางยังไม่ำด้กันเลย นิสัยพระเอกก็สุดๆยังดีเนื้อเรื่องสนุก...
อ่านต่อได้ตรงไหนครับ...
สงสารหวังเจิ้งกาง หลังจากมอบบ้านมอบรถให้เย่เฉิน ก้ไม่เห็นเยเฉินพูดถึงเลย เหมือนเป็นตัวประกอบ ตอนแรกๆ 555...