เย่เฉินถามเธอว่า “แล้วคุณกะจะทำอย่างไร?”
กู้ชิวอี๋กล่าวอย่างอ้อนวอนว่า “พี่เย่เฉิน ฉันอยากรบกวนคุณสักหน่อย พาฉันไปที่ตระกูลเฟ่ย ไม่รู้ว่าคุณจะสะดวกหรือไม่......ถ้ามันไม่สะดวกก็ช่างมันไป ฉันจะประกาศออกไปโดยตรงว่าสถานที่จัดงานเกิดปัญหาเล็กน้อย คอนเสิร์ตรอบแรกก็ระงับไปชั่วคราว และจัดคอนเสิร์ตรอบหลังๆ ไปก่อน และสุดท้ายก็กลับมาที่จัดคอนเสิร์ตอีกครั้งที่นครนิวยอร์ก”
เย่เฉินหัวเราะและพูดว่า “งั้นแฟนๆ ของคุณในนครนิวยอร์กก็จะต้องผิดหวังแล้วไม่ใช่เหรอ?”
กู้ชิวอี๋กล่าวอย่างช่วยไม่ได้ว่า “งั้นก็ทำอะไรไม่ได้ แต่ฉันเชื่อว่าพวกเขาสามารถเข้าใจได้”
เย่เฉินกล่าวว่า “ช่างมันเถอะ ไม่ว่าจะยังไงก็ไม่สามารถปล่อยให้พวกแฟนๆ นับหมื่นคนของคุณผิดหวัง ก็แค่ไปทานข้าวที่ตระกูลเฟ่ยมื้อเดียวไม่ใช่เหรอ พอดีตอนนี้ฉันอยู่ติดกับตระกูลเฟ่ย คุณให้ตัวตัวบอกพวกเขาไป บอกว่าคุณจะไปตอนเที่ยงวันนี้ เดี๋ยวผมส่งที่อยู่ให้คุณ ตอนที่คุณมาให้มารับฉันไปด้วย ผมไปเป็นเพื่อนคุณ”
เมื่อกู้ชิวอี๋ได้ยินเช่นนี้ เธอก็ถามอย่างมีความสุขทันทีว่า “จริงเหรอพี่เย่เฉิน? คุณไปกับฉันไม่ได้เป็นการรบกวนเกินไปใช่ไหม?”
“ไม่” เย่เฉินหัวเราะและพูดว่า “ยังไงฉันก็ต้องเจอกับคนในครอบครัวตระกูลเฟ่ยในไม่ช้าอยู่แล้ว ตอนเที่ยงวันนี้ใช้โอกาสไปเจอกันก่อนสักหน่อยก็เป็นการดีเช่นกัน”
กู้ชิวอี๋พูดอย่างรวดเร็วว่า “งั้นก็ดี! งั้นฉันก็จะให้ตัวตัวไปสื่อสารกับพวกเขา ถ้ายืนยันเวลาได้แล้ว ฉันก็จะไปรับคุณและไปด้วยกัน!”
.......
เฉินตัวตัวรู้สึกโล่งใจทันที เมื่อรู้ว่าเย่เฉินเต็มใจที่จะไปที่บ้านตระกูลเฟ่ยเป็นเพื่อนกู้ชิวอี๋ด้วย
ถ้ากู้ชอวอี๋ไปทานข้าวด้วยตัวคนเดียว และถึงจะฆ่าเธอ เธอกํคงไม่กล้ารับปากหรอก
แต่ในเมื่อเย่เฉินเต็มใจที่จะไปเป็นเพื่อนกู้ชิวอี๋ เธอก็ไม่มีอะไรจะต้องกังวลอีกเลย
เฉินตัวตัวพูดอย่างไม่อดทนว่า “ถ้าอย่างนั้นก็ตกลงตามนี้นะคะ ขอวางสายก่อน”
เฟ่ยเสวปิงวางโทรศัพท์มือถือลง และพูดกับเฟ่ยซานไห่ที่อยู่ตรงข้ามเขาว่า “ท่านพ่อ เจ้าเด็กผู้หญิงกู้ตอบตกลงว่าจะมาแล้ว และจะมาในตอนเที่ยง”
เฟ่ยซานไห่พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ และพูดอย่างเย็นชาว่า “เจ้าเด็กผู้หญิงคนนี้ต้องมีเงื่อนงำที่เกี่ยวข้องกับฮ่าวหยางแน่ๆ ก็คอยดูว่าอีกสักครู่เราจะสามารถหลอกถามอะไรออกจากปากเธอได้!”
เฟ่ยเสวปิงพูดอย่างกังวลเล็กน้อยว่า “ท่านพ่อ เด็กผู้หญิงคนนี้เป็นบุคคลสาธารณะที่มีชื่อเสียงมากจริงๆ ถ้าเธอจงใจแกล้งทำเป็นคนโง่ทั้งๆ ที่รู้เรื่องทุกเรื่องทุกอย่าง เราก็ไม่สามรถทำอะไรกับเธอได้!”
“บุคคลสาธารณะงั้นเหรอ?” เฟ่ยซานไห่เยาะเย้ยอย่างเหยียดหยาม และพูดอย่างเย็นชา “บุคคลสาธารณะอยู่ในสายตาฉันมันไม่ถือเป็นอะไรเลย! ถ้าฉันพบเบาะแสจากตัวเธอได้แม้แต่น้อย ฉันจะไม่สนหรอกว่าเธอจะเป็นบุคคลสาธารณะหรือไม่ ถ้าเธอไม่บอกสิ่งที่เธอรู้ออกมาทุกอย่างอย่างตรงไปตรงมา ก็อย่านึกที่จะสามารถเดินออกจากประตูของตระกูลเฟ่ยของเราได้!”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
ตอนนี้กุต้องมาอ่านละครลิงโง่ๆ ภายในตระกูลเซียวใช่ไหม กุต้องเลื่อนให้พ้นๆอ่ะ...
ขัดใจกับไแคนครอบครัว เซียวชูหรันชิบหาย ไม่ว่าใครก้โง่จนใสซื่อ ไอฉางควรก็ปิดแหก ไอหม่าหลันก็น่าเงิน สุดท้ายครอบครัวนี้แม่งไม่สมประกอบทุกตัว...
แทนทีจะแยกออกไปอยู่คนเดียว ถ้าก้เป้นฉางควนอยากอยู่กับรักแรกก้ต้องลงทุน แต่นี่มึงยังไม่กล้ากับหม่ากันเลย กลัวจนขึ้นมาสมอง แล้วหวังอยากจะอยุ่กับหานเหมยชิง อยากจะระลึกความหลัง เห้นแก่ตัวเกินไปไอห่า กลัวหม่าหลันแค่ตาย ปอดแหกแบบนี้มึงก้อยุ่กับอีหม่าหลันไปเถอะ สมน้ำหน้าแบ่งทำเพื่อรักแรกมึงยังไม่กล้าทำเลย แล้วหวังจะอยุ่กับเหมยชิง...
ไอเซียวฉาวควนแม่งมาหวงก้างจัด เฮ่อกับหารเหม่ยชิงโครตเหมาะกันอยากให้2คนนี้คบกันมาก ไอเซียวฉางควนกับอีแค่หม่าหลันมคงยังไม่กล้า แล้วนยังจะคิดอยุ่กับหานเหม่อยชิง มึงปอดแหกแบบนี้มึงก้ไม่มีวันสมหวังหรอก ไอโง่...
ผญ.เรื่องนี้แม่งหลงตัวเองทั้ง มีแค่ตงเสวี่นร ชูกรัน กูซิวอี๋ นอกนั้นหลงตัวเองชิบหาย...
นิยายเรื่องนี้สร้างเป็นละครสั้นหรือยัง...
อัพเดตตอนใหม่ทีครับ...
อ่านมาจะ4พันตอนละพระนางยังไม่ำด้กันเลย นิสัยพระเอกก็สุดๆยังดีเนื้อเรื่องสนุก...
อ่านต่อได้ตรงไหนครับ...
สงสารหวังเจิ้งกาง หลังจากมอบบ้านมอบรถให้เย่เฉิน ก้ไม่เห็นเยเฉินพูดถึงเลย เหมือนเป็นตัวประกอบ ตอนแรกๆ 555...