เฟ่ยซานไห่ดื่มเหล้าขาวลงไปหนึ่งแก้ว ดวงตาของเขาเริ่มมีภาพซ้อนเกิดขึ้น และศีรษะของเขาก็เวียนหัว และบวมราวกับว่าเขาถูกคนอื่นใช้ค้อนทุบหนักๆ
เฟ่ยเสวปิงไม่กล้านอกใจพ่อของเขา ดังนั้นเขาทำได้แค่รอให้เฟ่ยซานไห่ดื่มลงไปหนึ่งแก้ว จากนั้นจึงรีบดื่มสุราที่เหลืออยู่ในแก้วของเขา
ในเวลานี้ นาฬิกาจับเวลาของเย่เฉินยังไม่ถึงหนึ่งนาที
เมื่อเห็นว่าพ่อลูกทั้งคู่หายใจหอบเหมือนสุนัข และใบหน้าของพวกเขาก็แดงระเรื่อ เย่เฉินก็ยิ้มเล็กน้อย โบกมือแล้วพูดว่า “มาเถอะ ดื่มแก้วที่สอง รบกวนคุณชายใหญ่ช่วยเติมเหล้าให้เต็มด้วย!”
ขาของเฟ่ยเสวปิงเริ่มโยกเยกแล้ว แต่เมื่อเผชิญกับคำสั่งของเย่เฉิน เขาไม่กล้าที่จะไม่เชื่อฟัง ดังนั้นเขาจึงต้องหยิบแก้วเหล้าขึ้นมาอย่างสั่นเทา และเทอีกสองแก้วสำหรับตัวเขาเองและพ่อของเขา
ทันทีหลังจากนั้น เย่เฉินมองไปที่นาฬิกาจับเวลาอีกครั้ง และกล่าวว่า “เรายังคงทำตามกฎเดิมกัน ให้เวลาพวกคุณหนึ่งนาที ให้ดื่มเหล้าทั้งหมดของตัวเองลงไป และถ้าใครเกินเวลาที่กำหนด งั้นก็จะได้รับรางวัลเป็นอีกแก้ว”
เฟ่ยซานไห่คร่ำครวญว่า “วีรบุรุษหนุ่ม.........ถ้าดื่มแบบนี้ต่อไป จะต้องมีคนตายแน่ๆ........”
เย่เฉินโบกมือของเขา “ไม่ต้องกังวล ไม่ตายหรอก ถ้าตายจริงๆคุณสามารถมาหาฉันได้เลย”
“นี่…” เฟ่ยซานไห่อยากจะร้องไห้โดยไม่มีน้ำตา และคิดกับตัวเองว่า “ฉันตายแล้ว ถึงเวลายังจะมาหาคุณได้อย่างไร?”
ในเวลานี้เย่เฉินพูดอย่างเป็นกันเองว่า “บอกตามตรง พ่อลูกพวกคุณควรแอบไปหาที่ดีใจกันจริงๆ ฉันแค่ให้พวกคุณสองคนดื่มเหล้ากันเล็กน้อยแค่นั้นเอง ก่อนหน้านี้เคยมีพ่อลูกคู่หนึ่งทำให้ฉันขุ่นเคือง และได้กลายเป็นขี้เถ้าไปแล้ว และยังมีพ่อลูกคู่หนึ่งเคยรุกรานฉัน และฉันก็ได้สั่งให้คนใช้มีดสลักคำว่าเจ้าเด็กยากจนไว้ที่หน้าผากของลูกชายเขา และก็สลักบนหัวของพ่อเขาว่าพ่อแห่งเจ้าเด็กยากจนเมื่อเทียบกับพวกเขาแล้ว พวกคุณไม่รู้ว่าจะโชคดีแค่ไหนกัน”
หลังจากพูดแล้ว เย่เฉินก็พูดอีกครั้งว่า “หากพวกคุณสนใจ ฉันสามารถโทรหาลูกน้องของฉันที่เก่งด้านการประดิษฐ์ตัวอักษรมา และขอให้เขาทิ้งการประดิษฐ์ตัวอักษรให้พวกคุณ”
เมื่อเฟ่ยซานไห่ดื่มเหล้าแก้วที่สองหมด เขาก็สูญเสียการควบคุมร่างกาย เขานั่งลงบนเก้าอี้ รู้สึกปวดหัวเหมือนจะแตกเป็นชิ้นๆ ไม่สามารถลืมตาได้เลย
ทันทีหลังจากนั้น ก็ได้ยินเขาพูดพึมพำว่า “วี……วีรบุรุษหนุ่ม.........ฉัน.......ฉัน........ฉันไม่ไหวแล้ว.........”
ทันทีที่เสียงจบลง คนทั้งร่างก็หมดสติไปในทันใด
เย่เฉินใช้ปราณทิพย์ของเขาตรวจสอบ และพบว่าชายชรานั้นอยู่ในอาการโคม่าจริงๆ ดังนั้นเขาจึงพูดกับจางชวนที่คุกเข่าอยู่ข้างๆเขาว่า “มา คุณเข้ามากรอกเหล้าแก้วที่สามให้เขา”
จางชวนไม่กล้าปฏิเสธ เขารีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว เดินเข้ามาที่เฟ่ยซานไห่ รินเหล้าด้วยมือที่สั่นเทา บีบฟันของเฟ่ยซานไห่ และค่อยๆรินเหล้าเข้าปากเฟ่ยซานไห่อย่างระมัดระวัง

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
ตอนนี้กุต้องมาอ่านละครลิงโง่ๆ ภายในตระกูลเซียวใช่ไหม กุต้องเลื่อนให้พ้นๆอ่ะ...
ขัดใจกับไแคนครอบครัว เซียวชูหรันชิบหาย ไม่ว่าใครก้โง่จนใสซื่อ ไอฉางควรก็ปิดแหก ไอหม่าหลันก็น่าเงิน สุดท้ายครอบครัวนี้แม่งไม่สมประกอบทุกตัว...
แทนทีจะแยกออกไปอยู่คนเดียว ถ้าก้เป้นฉางควนอยากอยู่กับรักแรกก้ต้องลงทุน แต่นี่มึงยังไม่กล้ากับหม่ากันเลย กลัวจนขึ้นมาสมอง แล้วหวังอยากจะอยุ่กับหานเหมยชิง อยากจะระลึกความหลัง เห้นแก่ตัวเกินไปไอห่า กลัวหม่าหลันแค่ตาย ปอดแหกแบบนี้มึงก้อยุ่กับอีหม่าหลันไปเถอะ สมน้ำหน้าแบ่งทำเพื่อรักแรกมึงยังไม่กล้าทำเลย แล้วหวังจะอยุ่กับเหมยชิง...
ไอเซียวฉาวควนแม่งมาหวงก้างจัด เฮ่อกับหารเหม่ยชิงโครตเหมาะกันอยากให้2คนนี้คบกันมาก ไอเซียวฉางควนกับอีแค่หม่าหลันมคงยังไม่กล้า แล้วนยังจะคิดอยุ่กับหานเหม่อยชิง มึงปอดแหกแบบนี้มึงก้ไม่มีวันสมหวังหรอก ไอโง่...
ผญ.เรื่องนี้แม่งหลงตัวเองทั้ง มีแค่ตงเสวี่นร ชูกรัน กูซิวอี๋ นอกนั้นหลงตัวเองชิบหาย...
นิยายเรื่องนี้สร้างเป็นละครสั้นหรือยัง...
อัพเดตตอนใหม่ทีครับ...
อ่านมาจะ4พันตอนละพระนางยังไม่ำด้กันเลย นิสัยพระเอกก็สุดๆยังดีเนื้อเรื่องสนุก...
อ่านต่อได้ตรงไหนครับ...
สงสารหวังเจิ้งกาง หลังจากมอบบ้านมอบรถให้เย่เฉิน ก้ไม่เห็นเยเฉินพูดถึงเลย เหมือนเป็นตัวประกอบ ตอนแรกๆ 555...