อันที่จริง ในใจของหงเทียนซือนั้นกำลังยุ่งเหยิงเป็นอย่างมาก
แต่เดิมเขาไม่เชื่อในยาช่วยหัวใจนั้นจริงๆ
เขาคิดเสมอแม้แต่ยาต่ออายุที่เป็นสมบัติในมือของเขานั้นยังไร้ประโยชน์ อย่างนั้นในโลกนี้จะต้องไม่มีสิ่งใดที่สามารถช่วยอานฉีซานได้แล้ว
แต่ไม่คาดคิดเลยว่า ดาราสาวอายุยังน้อยคนหนึ่งจะมียาวิเศษที่แม้แต่คนที่ใกล้จะตายแล้วก็ยังสามารถช่วยชีวิตเอาไว้ได้!
กุญแจสำคัญคือ อานฉีซานกำลังจะขาดลมหายใจแล้ว และยาช่วยหัวใจนี้ ไม่เพียงแต่ลากเขากลับมาจากประตูแห่งความตายเท่านั้น แต่ยังทำให้เขาฟื้นตัวทันทีราวกับว่าเขาไม่ได้รับบาดเจ็บมาก่อน ผลลัพธ์นี้ได้ล้มล้างความเข้าใจของหงเทียนซือเกี่ยวกับคำว่า "ยาเม็ด" ไปอย่างสิ้นเชิง
แม้ว่าผู้ที่นับถือลัทธิเต๋าจะใส่ใจในความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของสวรรค์และมนุษย์ และการฝึกฝนตนเอง แต่อันที่จริงสิ่งที่สำคัญที่สุดของพวกเขาก็ยังเป็นวิถีแห่งการเล่นแร่แปรธาตุ
ในสมัยศักดินา พวกนักพรตเต๋าที่ใช้ปรอทและชาดมากลั่นยา จากนั้นก็ฆ่าจักรพรรดินั้น แท้จริงแล้วก็คือบรรพบุรุษของพวกเขา
ในช่วงเริ่มต้นการบำเพ็ญเต๋าของหงเทียนซือ เขาเองก็เคยต้องการศึกษาการเล่นแร่แปรธาตุโบราณ อย่างไรก็ตามตำราความรู้การเล่นแร่แปรธาตุในปัจจุบันนั้นมีน้อยอย่างยิ่ง อีกทั้งใบสั่งยาที่มีอยู่เมื่อเขาลองดูแล้วก็ไม่มีประโยชน์อะไรมากนัก ดังนั้นจึงเป็นการยากที่จะก้าวหน้าในด้านนี้
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เขาได้พยายามรวบรวมวัสดุต่างๆ และใบสั่งยาแบบต่างๆ จากนั้นจึงพยายามปรับแต่งเม็ดยาหลายชนิด แต่โดยส่วนมากก็ยังกลั่นยาที่มีประโยชน์ออกมาไม่ได้
ความล้มเหลวซ้ำแล้วซ้ำเล่าของเขาไม่ได้ทำให้เขาเลิกไล่ตามการเล่นแร่แปรธาตุแต่อย่างใด ในทางตรงกันข้าม เมื่อเขาอายุมากขึ้นเขาก็ยิ่งมีความรู้สึกถึงวิกฤตแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้น เพื่อปรับแต่งยาสำหรับยืดอายุของเขาอย่างแท้จริง เขาจึงเริ่มปิดตัวเองเป็นเวลานาน และศึกษาการเล่นแร่แปรธาตุในวัดเต๋าของเขาเองทุกวัน
กู้ชิวอี๋ไม่คาดคิดว่าหงเทียนซือจะกล้าพูดจาตรงไปตรงมาแบบนี้ ดังนั้นเธอจึงได้แต่พูดว่า: "ขอโทษนะคะ ปกติพ่อของฉันยุ่งมาก คุณโปรดเข้าใจ"
หงเทียนซือพูดด้วยความตื่นตระหนกว่า “ไม่เป็นไรไม่เป็นไร ขอแค่พ่อของคุณสามารถสละเวลาสักสองสามนาทีเพื่อบอกฉันเกี่ยวกับขั้นตอนที่ได้ยามาก็พอแล้ว หากไม่มีเวลาจริงๆ ฉันสามารถบินไปในจีนเพื่อพบเขาและขอคำแนะนำได้..."
อานโฉงชิวที่กลับมาพร้อมหนังสือโฉนดที่ดิน เมื่อเห็นว่าหงเทียนซือกำลังตอแยกู้ชิวอี๋และมีสีหน้าดูไม่ได้อยู่บ้าง เขาก็เอ่ยปาก “หงเทียนซือ เมื่อครู่คุณเพิ่งเยาะเย้ยยาช่วยหัวใจไป มาตอนนี้คุณกลับเปลี่ยนสีหน้ามาถามหาสิ่งของ นี่ออกจะไม่เหมาะสมอยู่หน่อยไหม? พวกลัทธิเต๋าแบบคุณ ล้วนบอกว่าตัวเองมีใจบริสุทธิ์และไร้ความปรารถนาไม่ใช่หรือไงกัน?"
เมื่อได้ยินการเยาะเย้ยของอานโฉงชิว หงเทียนซือถึงแม้จะรักษาสีหน้าไม่อยู่ แต่ก็ยังพูดอย่างตรงไปตรงมาและจริงใจว่า "คุณชายอาน เรียนตามตรง ฉันเป็นดั่งเช่นกบในกะลาจริงๆ ก่อนหน้าที่คุณหนูกู้จะหยิบยาช่วยหัวใจออกมา ฉันยังคิดอย่างไร้เดียงสาว่ายาที่ดีที่สุดในโลกนี้คือยาต่ออายุของฉัน แต่ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้วว่าที่แท้ฉันเป็นแค่กบที่อยู่ในกะลา”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
ตอนนี้กุต้องมาอ่านละครลิงโง่ๆ ภายในตระกูลเซียวใช่ไหม กุต้องเลื่อนให้พ้นๆอ่ะ...
ขัดใจกับไแคนครอบครัว เซียวชูหรันชิบหาย ไม่ว่าใครก้โง่จนใสซื่อ ไอฉางควรก็ปิดแหก ไอหม่าหลันก็น่าเงิน สุดท้ายครอบครัวนี้แม่งไม่สมประกอบทุกตัว...
แทนทีจะแยกออกไปอยู่คนเดียว ถ้าก้เป้นฉางควนอยากอยู่กับรักแรกก้ต้องลงทุน แต่นี่มึงยังไม่กล้ากับหม่ากันเลย กลัวจนขึ้นมาสมอง แล้วหวังอยากจะอยุ่กับหานเหมยชิง อยากจะระลึกความหลัง เห้นแก่ตัวเกินไปไอห่า กลัวหม่าหลันแค่ตาย ปอดแหกแบบนี้มึงก้อยุ่กับอีหม่าหลันไปเถอะ สมน้ำหน้าแบ่งทำเพื่อรักแรกมึงยังไม่กล้าทำเลย แล้วหวังจะอยุ่กับเหมยชิง...
ไอเซียวฉาวควนแม่งมาหวงก้างจัด เฮ่อกับหารเหม่ยชิงโครตเหมาะกันอยากให้2คนนี้คบกันมาก ไอเซียวฉางควนกับอีแค่หม่าหลันมคงยังไม่กล้า แล้วนยังจะคิดอยุ่กับหานเหม่อยชิง มึงปอดแหกแบบนี้มึงก้ไม่มีวันสมหวังหรอก ไอโง่...
ผญ.เรื่องนี้แม่งหลงตัวเองทั้ง มีแค่ตงเสวี่นร ชูกรัน กูซิวอี๋ นอกนั้นหลงตัวเองชิบหาย...
นิยายเรื่องนี้สร้างเป็นละครสั้นหรือยัง...
อัพเดตตอนใหม่ทีครับ...
อ่านมาจะ4พันตอนละพระนางยังไม่ำด้กันเลย นิสัยพระเอกก็สุดๆยังดีเนื้อเรื่องสนุก...
อ่านต่อได้ตรงไหนครับ...
สงสารหวังเจิ้งกาง หลังจากมอบบ้านมอบรถให้เย่เฉิน ก้ไม่เห็นเยเฉินพูดถึงเลย เหมือนเป็นตัวประกอบ ตอนแรกๆ 555...