เย่เฉินพยักหน้าเล็กน้อย เขามองไปที่เฟ่ยเข่อซินและกล่าวว่า "คุณหนูเฟ่ย คุณคิดว่ายังไง?"
เฟ่ยเข่อซินรู้สึกประหม่าเล็กน้อย
อันที่จริงเธอไม่เคยคิดว่าตนจะได้รับตำแหน่งผู้นำตระกูลเฟ่ยเลย
ท้ายที่สุดแล้ว นี่เป็นเพราะตระกูลเฟ่ยไม่เคยปล่อยให้ผู้หญิงขึ้นมานำตระกูล
ยิ่งไปกว่านั้น ความคิดก่อนหน้านี้ของเธอเองก็เรียบง่ายอย่างมาก ก็คือก่อนที่ปู่ของเธอจะเสียชีวิต เธอจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้ได้มาซึ่งผลประโยชน์ของพ่อแม่และสมาชิกในตระกูลเธอให้มากที่สุด เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ครอบครัวของเธอถูกเนรเทศและขับไล่ออกจากตระกูลเมื่อคุณปู่จากไป
กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ แต่เดิมเธอต้องการมีที่ยืนในตระกูลเฟ่ยด้วยความพยายามของเธอเอง แต่เธอไม่เคยต้องการเป็นผู้นำของตระกูล
ดังนั้นเธอจึงลังเลเล็กน้อยและไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร
เย่เฉินรู้ว่าเฟ่ยเข่อซินแตกต่างจากซ่งหวั่นถิงและเฮเลน่า
ซ่งหวั่นถิงไม่มีพ่อแม่ เธอมีความสัมพันธ์ที่ล้ำลึกกับคุณท่านซ่ง ในเวลาเดียวกันเธอก็ไม่มีความทะเยอทะยานอะไร เธอเพียงแค่ต้องการดำเนินธุรกิจของจี๋ชิ่งถังให้ดีๆเท่านั้น ในอนาคตลุงและลูกพี่ลูกน้องของเธอจะเป็นคนรับช่วงต่อผู้นำตระกูล และไม่สนใจธุรกิจเล็กๆ ของเธออีกต่อไป หากเป็นแบบนี้ เธอเองก็จะสามารถมีชีวิตที่มั่นคงได้
เหตุผลที่สิ่งต่าง ๆ เปลี่ยนไปอย่างมากก็คือยาอายุวัฒนะของเย่เฉิน ที่สำหรับคุณท่านซ่งแล้วมันเย้ายวนใจเขามากเกินไป จนทให้ซ่งหรงวี่สองพ่อลูกมองซ่งหวั่นถิงเป็นหนามตำตา
อาจกล่าวได้ว่า เป็นเพราะการผลักดันของเย่เฉินไปตลอดทาง ที่ทำให้ซ่งหวั่นถิงก้าวไปจนถึงตำแหน่งผู้นำตระกูลซ่งได้
และสำหรับเฮเลน่า เธอมีความทะเยอทะยานมาโดยตลอด แต่เธอกลับไม่มีโอกาสทำมันสำเร็จมาเป็นเวลานานแล้ว จนถึงขนาดที่เธอถูกโอลิเวียน้องสาวของเธอกดขี่ถึงขีดสุด และเป็นเย่เฉินที่ให้โอกาสเธอได้พลิกฟื้นขึ้นมาจนเธอสามารถกลับขึ้นไปและพลิกสถานการณ์กลับมาได้อย่างราบรื่น
ส่วนเฟ่ยเข่อซิน ดูเหมือนว่าจะอยู่ระหว่างพวกเธอทั้งสองคน
เย่เฉินชี้ไปที่เฟ่ยซานไห่และเอ่ยเสียงเรียบ “เขายังไม่คิดเลยว่าตนเองไร้ความสามารถ แล้วคุณยังต้องกังวลอะไรอีก?”
การแสดงออกของเฟ่ยซานไห่ในตอนนี้ขมขื่นอย่างมาก
เขาเองก็รู้ว่า ถึงแม้ว่าตนจะแก่กว่าเฟ่ยเข่อซินหลายสิบปี แต่ความสามารถในการจัดการเรื่องต่างๆของเขาไม่ดีเท่ากับเฟ่ยเข่อซินที่อายุยังน้อยจริงๆ
อย่างไรก็ตาม เมื่อเย่เฉินหยิบมันขึ้นมาพูดตรงๆแบบนี้ ตนเองก็รู้สึกไม่รู้จะเอาหน้าไปฝังไว้ที่ไหนอยู่บ้าง
เมื่อเห็นว่าเฟ่ยเข่อซินยังคงไม่มั่นใจ เย่เฉินจึงกล่าวว่า “คุณหนูเฟย ในสถานการณ์ปัจจุบันของตระกูลเฟ่ย มีเพียงคุณในฐานะผู้นำตระกูลเท่านั้นที่จะสามารถประสานงานทุกอย่างภายในได้ คุณลองคิดถึงคุณท่านใหญ่ และนึกถึงพ่อแม่และญาติสนิทของคุณดู ถ้าคุณไม่นั่งในตำแหน่งผู้นำตระกูล แล้วคุณจะเอาอะไรมารับประกันความมั่นคงในชีวิตของพวกเขาในอนาคต?”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ เย่เฉินก็พูดอีกครั้ง “ถ้าผมจำไม่ผิด คืนนี้ท่ามกลางคนในตระกูลเฟ่ย น่าจะไม่มีพ่อแม่ของคุณ?”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
ตอนนี้กุต้องมาอ่านละครลิงโง่ๆ ภายในตระกูลเซียวใช่ไหม กุต้องเลื่อนให้พ้นๆอ่ะ...
ขัดใจกับไแคนครอบครัว เซียวชูหรันชิบหาย ไม่ว่าใครก้โง่จนใสซื่อ ไอฉางควรก็ปิดแหก ไอหม่าหลันก็น่าเงิน สุดท้ายครอบครัวนี้แม่งไม่สมประกอบทุกตัว...
แทนทีจะแยกออกไปอยู่คนเดียว ถ้าก้เป้นฉางควนอยากอยู่กับรักแรกก้ต้องลงทุน แต่นี่มึงยังไม่กล้ากับหม่ากันเลย กลัวจนขึ้นมาสมอง แล้วหวังอยากจะอยุ่กับหานเหมยชิง อยากจะระลึกความหลัง เห้นแก่ตัวเกินไปไอห่า กลัวหม่าหลันแค่ตาย ปอดแหกแบบนี้มึงก้อยุ่กับอีหม่าหลันไปเถอะ สมน้ำหน้าแบ่งทำเพื่อรักแรกมึงยังไม่กล้าทำเลย แล้วหวังจะอยุ่กับเหมยชิง...
ไอเซียวฉาวควนแม่งมาหวงก้างจัด เฮ่อกับหารเหม่ยชิงโครตเหมาะกันอยากให้2คนนี้คบกันมาก ไอเซียวฉางควนกับอีแค่หม่าหลันมคงยังไม่กล้า แล้วนยังจะคิดอยุ่กับหานเหม่อยชิง มึงปอดแหกแบบนี้มึงก้ไม่มีวันสมหวังหรอก ไอโง่...
ผญ.เรื่องนี้แม่งหลงตัวเองทั้ง มีแค่ตงเสวี่นร ชูกรัน กูซิวอี๋ นอกนั้นหลงตัวเองชิบหาย...
นิยายเรื่องนี้สร้างเป็นละครสั้นหรือยัง...
อัพเดตตอนใหม่ทีครับ...
อ่านมาจะ4พันตอนละพระนางยังไม่ำด้กันเลย นิสัยพระเอกก็สุดๆยังดีเนื้อเรื่องสนุก...
อ่านต่อได้ตรงไหนครับ...
สงสารหวังเจิ้งกาง หลังจากมอบบ้านมอบรถให้เย่เฉิน ก้ไม่เห็นเยเฉินพูดถึงเลย เหมือนเป็นตัวประกอบ ตอนแรกๆ 555...