ทันทีที่เขาคิดแบบนี้ เขาก็พูดด้วยความเคารพทันทีว่า "คุณเย่ไม่ต้องกังวล อีกเดี๋ยวผมจะขอให้ทนายเตรียมเอกสารและมอบทรัพย์สินทั้งหมดของผมให้เข่อซิน"
หลังจากนั้น เขาก็เอ่ยด้วยอารมณ์บางอย่างว่า "ผมเองก็อยู่ได้อีกไม่ถึงปีสองปีแล้ว หลังจากผ่านเรื่องราวมาหลากหลาย ผมก็ตาสว่างเรื่องเงินแล้ว"
เย่เฉินพยักหน้าด้วยความพึงพอใจและกล่าวว่า “ผมรู้ นี่ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับคุณที่ทำงานหนักมาทั้งชีวิต ตอนนี้คุณอายุมากแล้ว หาเงินมาได้มากมายขนาดนี้ โดยทั่วไปติแล้ว มันไม่ได้มีความหมายอะไรกับคุณสักเท่าไหร่ ยิ่งไปกว่านั้นก็เพราะเงินที่ทำให้แม้แต่ลูกชายของคุณก็คิดจะฆ่าคุณ พูดไปแล้ว ผมก็รู้สึกเสียใจแทนคุณอยู่บ้าง”
เฟ่ยเจี้ยนจงถอนหายใจและพูดด้วยใบหน้าเศร้าโศก “คุณเย่พูดถูก…อายุมาถึงปูนนี้แล้ว มันไม่มีความหมายอะไรอีกแล้ว…”
เย่เฉินยิ้มน้อยๆและเอ่ยเรียบๆว่า “โดยปกติแล้วมันก็เป็นอย่างนี้แหละ อย่างไรก็ตาม ผมกลับสามารถให้โอกาสคุณได้ใช้จ่ายเงินสักครั้งได้”
เฟ่ยเจี้ยนจงตกตะลึงไปและรีบถาม "คุณเย่ คุณหมายความว่าอย่างไร?"
เย่เฉินพูดด้วยรอยยิ้มอย่างไม่ใส่ใจ “คุณไม่ได้คิดจะซื้อยาอายุวัฒนะมาโดยตลอดไม่ใช่หรือไง? หากผมจำไม่ผิด ในงานประมูลที่จินหลิง คุณเสนอราคาไปที่สองแสนหนึ่งหมื่นล้าน”
เมื่อ เฟ่ยเจี้ยนจงได้ยินแบบนี้ เขาก็ยังไม่แน่ใจว่าเย่เฉินหมายถึงอะไร แต่ก็ตื่นเต้นมากจนควบคุมตัวเองไม่ได้และรีบพูดว่า: "ใช่...ใช่ครับ... คุณเย่...ตอนนั้น...ตอนนั้นผม..เสนอราคาไปสองแสนหนึ่งหมื่นล้านจริงๆ...คุณ...ทำไมคุณถึงได้ถามถึงเรื่องนี้ครับ?"
เย่เฉินยิ้มหยอกและไม่ตอบคำถามของเขา แต่เขากลับมองไปที่เฟ่ยเข่อซินและพูดว่า "คุณหนูเฟ่ย หลังจากที่คุณได้เป็นผู้สืบทอดของตระกูลเฟ่ยแล้วและเข้าครอบครองทรัพย์สินทั้งหมดของคุณท่านเฟ่ยได้เมื่อไหร่ เพื่อเป็นการแสดงความยินดีกับคุณ ผมสามารถยกเว้นและให้โอกาสคุณในการซื้อยาอายุวัฒนะสักครั้งหนึ่ง!"
เมื่อ เฟ่ยเจี้ยนจงได้ยินสิ่งนี้ เขาก็ตกตะลึง!
“ยาอายุวัฒนะ!”
“เย่เฉินยินดีที่จะขายอายุวัฒนะให้เข่อซิน!”
“ถ้าฉันได้ยาอายุวัฒนะนี้ อย่างน้อยก็จะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้อีกสิบถึงยี่สิบปีเป็นอย่างน้อย...”
ดังนั้น เขาจึงมองไปที่เฟ่ยเข่อซินโดยไม่รู้ตัว ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความคาดหวังอันแรงกล้า
และเฟ่ยเข่อซินก็ไม่ทำให้เฟ่ยเจี้ยนจงผิดหวัง
ในเวลานี้เธอเอ่ยปากออกมาอย่างตื่นเต้นมากว่า “คุณเย่ คุณพูดจริงหรือ? คุณจะยกเว้นและให้โอกาสฉันในการซื้อยาอายุวัฒนะจริงๆ?”
เย่เฉินพยักหน้าและเอ่ยเรียบๆ “ผมพูดคำไหนคำนั้น”
ขณะพูด เขาก็มองไปที่เฟ่ยเจี้ยนจงและพูดว่า "ตอนนั้นในงานประมูลพวกคุณประมูลไปที่สองแสนหนึ่งหมื่นล้านดอลลาร์ วันนี้ เห็นแก่หน้าของคุณหนูเฟ่ย ผมจะให้พวกคุณในราคาถ้วนๆ สองแสนล้านดอลลาร์”
เฟ่ยเข่อซินโพล่งออกมาโดยไม่คิดว่า "ตกลง! ฉันจะซื้อมัน!"

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โง่ทั้งพระเอกทั้งหลิวม่านฉง ทำตัวเป้นเมียพระเอกสะงั้น จนต้องเลื่อนผ่านขก.อ่าน ขัดใจ พระเอกแม่งก้จะแคร์ผู้หญิงทั้งโลกเลยรึไง...
ไอหลิวท่านฉง ก้มั่นหน้าเกินน่ะ คิดว่าพระเอกจะชอบมึงรึไง เล่นตัว จะหลุด...
ตระกูลเฟ่ยแม่งก้น่าขยะแขยงกันทุกตัวแหละ มีแค่เฟ่ยเข่อขิน เป้นตระกุลเดียวที่ไม่อยากให้เย่เฉนร่วมมือด้วยเลยจริงๆ เฟ่ยเจี้ยนจงแม่งก้ไม่ใช่คนดีไรนักหรอก ปากก้เอาเครื่องสวรรค์มาอ้าง สุดท้ายก้อยากจะไว้ชีวิตหลานตัวเอง น่าขยะแขยง...
สะใจไอไรอันมากกก...
โง่ก็โง่อยุ่วันยันค่ำ แทนที่จะเอาเรื่องแจ้งความมาพูด ถ้าคน1,000คนแจ้งความ คนที่โดนจับก้คือพวก1,000คนเพราะพวกนี้มันก้รุ้ว่าคนในครอบครัวทำไรแต่ไม่ห้ามไม่แจ้งตำรวจ ถ้าตำรวจรู้ว่าพวกญาติรู้แต่ไม่แจ้งความ ก้โดนข้อหาสมรู้ร่วมคิดแล้ว และพวกนี้ก้ไม่มีหลักฐานเอาผิดเฟนหยุน แต่ดันคืดไม่ได้เนี่ยน่ะ แต่สนุกมาก เป้นนิยายเรื่องแรกที่ติดงอม แหละอินมาก 555...
ตอนนี้กุต้องมาอ่านละครลิงโง่ๆ ภายในตระกูลเซียวใช่ไหม กุต้องเลื่อนให้พ้นๆอ่ะ...