เมื่อเฟ่ยเจี้ยนจงได้ยินการตัดสินใจที่แน่วแน่ของเฟ่ยเข่อซิน เขาก็รู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม เขากลับมีความคิดอีกอย่างหนึ่งเพิ่มขึ้นมา
เนื่องจากเฟ่ยเข่อซินบอกแค่ว่าเธอจะซื้อยาอายุวัฒนะนี้ แต่จะซื้อให้ใครนั้น เธอกลับยังไม่ได้แสดงท่าทีออกมา
ในช่วงเวลาไม่นานมานี้ เฟ่ยเจี้ยนจงพบเจอประสบการณ์ขึ้นๆ ลงๆ อยู่บ่อยครั้ง ดังนั้นในใจของเขาจึงมีความกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้มากขึ้นโดยธรรมชาติ
ในเวลานี้ เฟ่ยเข่อซินก็มองไปที่เขาและพูดอย่างจริงจังว่า "คุณปู่ เดี๋ยวหนูจะจ่ายเงินให้คุณเย่ ส่วนยาอายุวัฒนะนี้ ก็เพื่อให้คุณกิน!"
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เฟ่ยเจี้ยนจงก็โล่งใจในที่สุด เขาตื่นเต้นมากจนน้ำตาไหล
เขาอยากได้ยาอายุวัฒนะมากจริงๆ
เดิมที เขาคิดว่าตนเองคงไม่มีโอกาสได้รับยาอายุวัฒนะแล้วในชีวิตนี้
แต่คิดไม่ถึงว่า เย่เฉินและหลานสาวของเขา จะทำเซอร์ไพรส์ครั้งใหญ่ให้กับตัวเอง!
ในเวลานี้ เขาตื่นเต้นมากจนสำลักและพูดกับเย่เฉินว่า "คุณเย่...ขอบคุณคุณ... ขอบคุณ! ความเมตตาของคุณ ผมจะจดจำไว้ตลอดไป!"
เย่เฉินโบกมือและพูดอย่างจริงจังว่า “คุณท่านเฟ่ย มีเรื่องที่ผมต้องบอกกับคุณก่อน ถึงแม้ว่าผมจะยอมยกเว้นและขายยาอายุวัฒนะให้กับคุณหนูเฟ่ย อีกทั้งคุณหนูเฟ่ยก็เต็มใจที่จะให้คุณกิน แต่ว่ายาเม็ดนี้ผมจะส่งให้คุณโดยแบ่งออกเป็นสี่ครั้ง”
เฟ่ยเจี้ยนจง ถามโดยไม่รู้ตัว "สี่ครั้ง?"
"ใช่" เย่เฉินพูดเสียงเรียบ "ต่อจากนี้ไป ทุกๆสามปี ผมจะส่งยาอายุวัฒนะหนึ่งส่วนสี่มาให้คุณหนูเฟ่ย และจะให้มันจนกว่าจะครบหนึ่งเม็ด”
เย่เฉินรู้ดีอย่างยิ่ง หากคุณท่านเฟ่ยอยู่ได้ไม่นาน ตำแหน่งของเฟ่ยเข่อซินในฐานะผู้นำตระกูลก็จะไม่มั่นคงแน่ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ตาม
ในฐานะผู้ขาย เย่เฉินยอมรับเฟ่ยเข่อซินเป็นผู้ซื้อเท่านั้น ดังนั้น ตราบใดที่เฟ่ยเจี้ยนจงยังคงต้องการยาอายุวัฒนะที่เหลือ เขาจะต้องสนับสนุนเฟ่ยเข่อซินอย่างเต็มที่
มีเพียงวิธีนี้เท่านั้นที่เขาจะได้รับยาอายุวัฒนะที่เหลืออยู่สามส่วนที่เหลือ เพื่อเติมเต็มความปรารถนาที่จะยืดอายุของเขาออกไปอีกกว่าสิบหรือยี่สิบปีนั้นได้
เฟ่ยเจี้ยนจงอาศัยอยู่มานานกว่า 90 ปี เขาเป็นมนุษย์ที่ผ่านมาครบสมบูรณ์แล้ว ทันใดนั้นเขาจึงเข้าใจได้ทันทีว่าที่เย่เฉินทำแบบนี้ก็เพื่อควบคุมตัวเอง
อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้เขาไหนเลยจะกล้าไม่พอใจกับการจัดการของเย่เฉิน?
ในใจของเขาแอบถอนหายใจ: “เย่เฉินควบคุมฉัน อย่างน้อยฉันก็อยู่รอดต่อไปได้ ถ้าเขาไม่ควบคุมฉัน นอกจากตายแล้วฉันยังจะมีทางอื่นให้เลือกอีกหรือ?”
ดังนั้น เขาจึงพูดโดยไม่คิด “คุณเย่ ทุกอย่างเป็นไปตามความเห็นของคุณ! ผมไม่มีความเห็น!”
เย่เฉินพยักหน้า จากนั้นก็มองเฟ่ยเข่อซินและถามเธอว่า "คุณหนูเฟ่ย คุณมีความเห็นอะไรหรือไม่?"

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โง่ทั้งพระเอกทั้งหลิวม่านฉง ทำตัวเป้นเมียพระเอกสะงั้น จนต้องเลื่อนผ่านขก.อ่าน ขัดใจ พระเอกแม่งก้จะแคร์ผู้หญิงทั้งโลกเลยรึไง...
ไอหลิวท่านฉง ก้มั่นหน้าเกินน่ะ คิดว่าพระเอกจะชอบมึงรึไง เล่นตัว จะหลุด...
ตระกูลเฟ่ยแม่งก้น่าขยะแขยงกันทุกตัวแหละ มีแค่เฟ่ยเข่อขิน เป้นตระกุลเดียวที่ไม่อยากให้เย่เฉนร่วมมือด้วยเลยจริงๆ เฟ่ยเจี้ยนจงแม่งก้ไม่ใช่คนดีไรนักหรอก ปากก้เอาเครื่องสวรรค์มาอ้าง สุดท้ายก้อยากจะไว้ชีวิตหลานตัวเอง น่าขยะแขยง...
สะใจไอไรอันมากกก...
โง่ก็โง่อยุ่วันยันค่ำ แทนที่จะเอาเรื่องแจ้งความมาพูด ถ้าคน1,000คนแจ้งความ คนที่โดนจับก้คือพวก1,000คนเพราะพวกนี้มันก้รุ้ว่าคนในครอบครัวทำไรแต่ไม่ห้ามไม่แจ้งตำรวจ ถ้าตำรวจรู้ว่าพวกญาติรู้แต่ไม่แจ้งความ ก้โดนข้อหาสมรู้ร่วมคิดแล้ว และพวกนี้ก้ไม่มีหลักฐานเอาผิดเฟนหยุน แต่ดันคืดไม่ได้เนี่ยน่ะ แต่สนุกมาก เป้นนิยายเรื่องแรกที่ติดงอม แหละอินมาก 555...
ตอนนี้กุต้องมาอ่านละครลิงโง่ๆ ภายในตระกูลเซียวใช่ไหม กุต้องเลื่อนให้พ้นๆอ่ะ...