คำถามของเย่เฉินทำให้หยวนจื่อซูลนลานอยู่บ้าง เขายากจะซ่อนความประหม่าเอาไว้และพูดว่า "คุณเย่ คุณอย่าโกรธเลย...ถ้าคุณยังรู้สึกไม่สะใจ ผมจะตบให้ฟันเขาหลุดสักกี่ซี่...ถ้ายังไม่พออีก ไม่พออีกละก็ผมก็จะหักขาของเขาซะ! จะต้องทำให้คุณพอใจแน่!"
เย่เฉินโบกมือและพูดเสียงเรียบว่า “ไม่จำเป็น ตอนเที่ยวเขาหาเรื่องฉัน ฉันปล่อยให้เขาคุกเข่าในร้านอาหารจนถึงตอนนี้ไปแล้ว ตอนนี้ เขาก็น่าจะรู้ความผิดพลาดของตัวเองแล้ว”
เมื่อได้ยินแบบนี้ จางชวนก็รีบคุกเข่าลงบนพื้นอย่างรวดเร็วและกล่าวอย่างจริงจัง “คุณเย่ ผมรู้ความผิดแล้วจริงๆ! ได้โปรดคุณช่วยละเว้นด้วย…”
เย่เฉินพยักหน้าและเอ่ยเสียงเรียบ "ฉันจะไม่ถือสาเอาความกับนายต่อไปอีก"
จางชวนได้ยินดังนี้ก็ซาบซึ้งสุดขีดและรีบคุกเข่าโขกคำนับลงบนพื้นและตะโกนว่า "ขอบคุณเย่สำหรับความเมตตา! ขอบคุณ!"
เย่เฉินพูดเสียงเรียบ "นายไม่จำเป็นต้องขอบคุณฉันเร็วขนาดนี้ ฉันจะไม่เอาความนายอีกก็จริง แต่ฉันจะไม่ช่วยให้นายกู้คืนพลังวิชากลับมา นั่นเพราะนี่คือสิ่งที่นายต้องจ่ายสำหรับความผิดพลาดของนาย"
การแสดงออกที่ตื่นเต้นในตอนแรกของจางชวนเปลี่ยนเป็นซีดขาวทันที
เขาถึงกับร้องไห้และอ้อนวอนออกมา “คุณเย่ ตั้งแต่เด็กผมก็ฝากตัวเป็นศิษย์เข้าสำนักเพื่อฝึกฝนวิชาบู๊ หลังจากฝึกฝนอย่างยากลำบากมาหลายสิบปีถึงค่อยประสบความสำเร็จเพียงเล็กน้อยเช่นวันนี้ หากคุณไม่สามารถกู้คืนพลังวิชาของผมได้ ยางนั้นผมก็อยู่ไม่สู้ตายแล้ว...”
หยวนจื่อซูซึ่งอยู่อีกด้านเองก็รีบโค้งคำนับและพูดว่า “คุณเย่ แม้ว่าศิษย์น้องจะมีนิสัยมุทะลุไปบ้าง แต่เขาก็เป็นคนที่ซื่อสัตย์จริงๆ ยิ่งไปกว่านั้นเขาฝึกฝนหนักมาหลายปีอย่างยากลำบาก ผมหวังว่าคุณจะเห็นแก่ที่เขาไม่ได้ทำผิดอะไรใหญ่โตนัก ให้โอกาสเขาได้กลับตัวใหม่อีกครั้ง”
เย่เฉินโบกมือแล้วพูดว่า “ถ้าจะพูดเรื่องลำบาก ทุกคนก็ลำบากทั้งนั้น นายคิดว่ามันง่ายสำหรับเฟ่ยฮ่าวหยางที่จะมีชีวิตอยู่หรือไง? 20 ปีมานี้เขาเองก็ผ่านการกินข้าวมาทุกมื้อๆถึงจะโตขึ้นมาได้ไม่ใช่หรือไง? หรือว่านี่ก็เป็นเหตุผลที่จะยกโทษให้เขาได้เหมือนกัน"
หยวนจื่อซูพูดไม่ออก
หยวนจื่อซูพยักหน้าด้วยความตกใจและกล่าวว่า "ถูกต้องครับ...ศิษย์น้องลั่วเป็นนักบู๊หกดาว เดิมทีเขาจะต้องรับหน้าที่รับใช้ตระกูลเฟ่ยต่อจากผม แต่ไม่รู้ว่าเขาไปทำให้คุณเย่ขุ่นเคืองด้วยเหตุใด?”
เย่เฉินยิ้มน้อยๆ "ไม่ถึงกับมาทำให้ฉันขุ่นเคือง แต่ตอนนั้นคุณหนูเฟ่ยพยายามอย่างยิ่งที่จะตรวจสอบฉันในจินหลิง ฉันเห็นว่าบอดี้การ์ดรอบตัวเธอกำลังขัดขวางฉัน ก็เลยเชิญให้เขาไปอยู่ในฟาร์มสุนัขของฉันสักสองสามวัน"
การแสดงออกของหยวนจื่อซูในเวลานี้ขมขื่นเป็นพิเศษ
แม้ว่าที่สำนักของเขาจะมีลูกศิษย์หลายคน แต่ก็มียอดฝีมือเพียงไม่กี่คนที่สามารถลงมือปฏิบัติจริงได้
เขาคนหนึ่ง ลั่วเจียเฉิงคนหนึ่ง บวกกับจางชวนอีกคน ก็แทบจะถือเป็นยอดฝีมือเหนือยอดฝีมือกว่าครึ่งของสำนักไปแล้ว

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
ตอนนี้กุต้องมาอ่านละครลิงโง่ๆ ภายในตระกูลเซียวใช่ไหม กุต้องเลื่อนให้พ้นๆอ่ะ...
ขัดใจกับไแคนครอบครัว เซียวชูหรันชิบหาย ไม่ว่าใครก้โง่จนใสซื่อ ไอฉางควรก็ปิดแหก ไอหม่าหลันก็น่าเงิน สุดท้ายครอบครัวนี้แม่งไม่สมประกอบทุกตัว...
แทนทีจะแยกออกไปอยู่คนเดียว ถ้าก้เป้นฉางควนอยากอยู่กับรักแรกก้ต้องลงทุน แต่นี่มึงยังไม่กล้ากับหม่ากันเลย กลัวจนขึ้นมาสมอง แล้วหวังอยากจะอยุ่กับหานเหมยชิง อยากจะระลึกความหลัง เห้นแก่ตัวเกินไปไอห่า กลัวหม่าหลันแค่ตาย ปอดแหกแบบนี้มึงก้อยุ่กับอีหม่าหลันไปเถอะ สมน้ำหน้าแบ่งทำเพื่อรักแรกมึงยังไม่กล้าทำเลย แล้วหวังจะอยุ่กับเหมยชิง...
ไอเซียวฉาวควนแม่งมาหวงก้างจัด เฮ่อกับหารเหม่ยชิงโครตเหมาะกันอยากให้2คนนี้คบกันมาก ไอเซียวฉางควนกับอีแค่หม่าหลันมคงยังไม่กล้า แล้วนยังจะคิดอยุ่กับหานเหม่อยชิง มึงปอดแหกแบบนี้มึงก้ไม่มีวันสมหวังหรอก ไอโง่...
ผญ.เรื่องนี้แม่งหลงตัวเองทั้ง มีแค่ตงเสวี่นร ชูกรัน กูซิวอี๋ นอกนั้นหลงตัวเองชิบหาย...
นิยายเรื่องนี้สร้างเป็นละครสั้นหรือยัง...
อัพเดตตอนใหม่ทีครับ...
อ่านมาจะ4พันตอนละพระนางยังไม่ำด้กันเลย นิสัยพระเอกก็สุดๆยังดีเนื้อเรื่องสนุก...
อ่านต่อได้ตรงไหนครับ...
สงสารหวังเจิ้งกาง หลังจากมอบบ้านมอบรถให้เย่เฉิน ก้ไม่เห็นเยเฉินพูดถึงเลย เหมือนเป็นตัวประกอบ ตอนแรกๆ 555...