หลี่ญ่าหลินไม่รู้ว่าคำพูดนี้ของเฟ่ยเข่อซินนั้นจริงใจหรือไม่ แต่เขาทำได้แค่พูดอย่างจริงจังว่า "พวกเราตำรวจนิวยอร์กพยายามอย่างเต็มที่เพื่อค้นหาเบาะแสที่เกี่ยวข้องทั้งหมด แต่ผู้ลักพาตัวเหล่านี้เป็นมืออาชีพมากจนเราไม่มีเบาะแสสำคัญเลยในระยะเวลาอันสั้น ดังนั้นตอนนี้ตอนนี้พวกเราจึงยังไม่รู้ว่าคุณชายเฟ่ยอยู่ที่ไหน? แต่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครเป็นคนลักพาตัวเขาไป”
พูดจบ หลี่ญ่าหลินก็กล่าวเสริมว่า "แต่ก่อนหน้านี้ผมเกาว่า คนที่ลักพาตัวคุณชายเฟ่ยไปไม่ได้ทำเพื่อเรียกค่าไถ่ ในความคิดของผม การกระทำที่ต่อเนื่องกันของผู้ลักพาตัวราวกับกำลังเป็นการลงโทษในที่สาธารณะกับตระกูลเฟ่ย พวกเขาอาจกุมเรื่องอื้อฉาวบางอย่างของคุณชายเฟ่ยเอาไว้ จากนั้นก็จงใจทำให้เรื่องการลักพาตัวเป็นที่รู้กันไปทั่ว และยังจงใจชี้นำความคิดเห็นของสาธารณชนให้เห็นอกเห็นใจคุณชายเฟ่ย ด้วยวิธีนี้เวลาที่พวกเขาเปิดเผยเรื่องอื้อฉาวของคุณชายเฟ่ยขึ้นมา ก็จะยิ่งทำให้เรื่องนี้เลวร้ายยิ่งขึ้น แบบนี้ก็จะยิ่งส่งผลเสียอย่างใหญ่หลวงต่อตระกูลเฟ่ย"
ในใจของเฟ่ยเข่อซินรู้สึกตะลึงอยู่บ้างอย่างอดไม่ได้ ดูเหมือนว่านักสืบหลี่จะเข้าใจเหตุและผลของเหตุการณ์แล้ว เพียงแต่ยังไม่มีเบาะแสที่เฉพาะเจาะจงเท่านั้นเอง
อย่างไรก็ตาม เธอทำได้แค่แสร้งทำเป็นสับสนและพูดว่า “นักสืบหลี่ บอกตามตรง ฉันไม่ค่อยเข้าใจความหมายของคุณ ฮ่าวหยางยังเด็กมาก อีกทั้งยังเพิ่งเข้าสู่สังคมไม่นาน เขาจะไปมีเรื่องอื้อฉาวอะไรได้? "
หลี่ญ่าหลินส่ายหัวและพูดว่า "ผมเองก็ไม่รู้แน่ชัดเช่นกัน แต่ผมมั่นใจว่า ตั้งแต่คนลักพาตัวเหล่านี้ลักพาตัวเขา ตัดหูของเขา และประกาศให้ทุกคนรับรู้ อย่างนั้นผมก็แน่ใจว่าบนตัวของเขาจะต้องมีเรื่องอื้อฉาวเกิดขึ้นแน่"
พูดไป เขาก็มองไปที่เฟ่ยซานไห่อย่างจริงจัง “คุณเฟ่ย ในทำนองเดียวกัน ก่อนหน้านี้ผมเคยบอกคุณไปแล้วว่าผมรู้สึกเหมือนคุณรู้อะไรบางอย่าง แต่คุณไม่ได้บอกผมด้วยสาเหตุบางอย่าง อย่างไรก็ตาม ผมอยากเตือนคุณว่า ตอนนี้มีเหลือเวลาน้อยลงทุกทีแล้ว หากผู้ลักพาตัวเปิดเผยเรื่องอื้อฉาวครั้งใหญ่ของเฟ่ยฮ่าวหยางจริง ๆ อย่างนั้นไม่เพียงแต่ชื่อเสียงของตระกูลเฟ่ยเท่านั้นที่จะถูกทำลาย แต่พวกเราตำรวจก็จะเผชิญกับภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกด้วยเช่นกัน! และถึงเวลานั้น เป็นไปได้ว่าประชาชนจะไม่สนับสนุนเราให้ช่วยเหลือเฟ่ยฮ่าวหยางอีกต่อไป และหากพวกเรายังทำต่อไป ก็อาจสูญเสียความเชื่อใจจากประชาชนไป แต่หากพวกเราไม่ช่วยต่อไป ก็จะเสียศักดิ์ศรีความเป็นตำรวจ… "
เฟ่ยซานไห่กล่าวด้วยความอึดอัดสุดขีด "นักสืบหลี่...ผม...ผมไม่รู้จริงๆนะ! หลานชายของฉัน...ไม่ว่าจะแง่ไหนก็ล้วน...ล้วน...”
เฟ่ยซานไห่หลบตาแล้วฝืนพูดต่อไปว่า "ผม...ผมอยากจะบอกว่า... ฮ่าวหยางเด็กคนนั้น...เป็นเด็ก... "
ในเวลานี้ คำว่า "ยอดเยี่ยม" มาถึงริมฝีปากของเฟ่ยซานไห่ แต่เขากลับไม่สามารถพูดคำสองคำนี้ออกมาได้ไม่ว่าจะอยู่หรือตาย
ขณะที่เขากำลังพูดคำสองคำนี้ไม่ออก ตำรวจนายหนึ่งก็รีบเข้ามาและพูดด้วยความตื่นตระหนก "นักสืบ...มีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นแล้ว ... "

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
ตอนนี้กุต้องมาอ่านละครลิงโง่ๆ ภายในตระกูลเซียวใช่ไหม กุต้องเลื่อนให้พ้นๆอ่ะ...
ขัดใจกับไแคนครอบครัว เซียวชูหรันชิบหาย ไม่ว่าใครก้โง่จนใสซื่อ ไอฉางควรก็ปิดแหก ไอหม่าหลันก็น่าเงิน สุดท้ายครอบครัวนี้แม่งไม่สมประกอบทุกตัว...
แทนทีจะแยกออกไปอยู่คนเดียว ถ้าก้เป้นฉางควนอยากอยู่กับรักแรกก้ต้องลงทุน แต่นี่มึงยังไม่กล้ากับหม่ากันเลย กลัวจนขึ้นมาสมอง แล้วหวังอยากจะอยุ่กับหานเหมยชิง อยากจะระลึกความหลัง เห้นแก่ตัวเกินไปไอห่า กลัวหม่าหลันแค่ตาย ปอดแหกแบบนี้มึงก้อยุ่กับอีหม่าหลันไปเถอะ สมน้ำหน้าแบ่งทำเพื่อรักแรกมึงยังไม่กล้าทำเลย แล้วหวังจะอยุ่กับเหมยชิง...
ไอเซียวฉาวควนแม่งมาหวงก้างจัด เฮ่อกับหารเหม่ยชิงโครตเหมาะกันอยากให้2คนนี้คบกันมาก ไอเซียวฉางควนกับอีแค่หม่าหลันมคงยังไม่กล้า แล้วนยังจะคิดอยุ่กับหานเหม่อยชิง มึงปอดแหกแบบนี้มึงก้ไม่มีวันสมหวังหรอก ไอโง่...
ผญ.เรื่องนี้แม่งหลงตัวเองทั้ง มีแค่ตงเสวี่นร ชูกรัน กูซิวอี๋ นอกนั้นหลงตัวเองชิบหาย...
นิยายเรื่องนี้สร้างเป็นละครสั้นหรือยัง...
อัพเดตตอนใหม่ทีครับ...
อ่านมาจะ4พันตอนละพระนางยังไม่ำด้กันเลย นิสัยพระเอกก็สุดๆยังดีเนื้อเรื่องสนุก...
อ่านต่อได้ตรงไหนครับ...
สงสารหวังเจิ้งกาง หลังจากมอบบ้านมอบรถให้เย่เฉิน ก้ไม่เห็นเยเฉินพูดถึงเลย เหมือนเป็นตัวประกอบ ตอนแรกๆ 555...