คำพูดของลูกน้อง ทำให้หลี่ญ่าหลินมีสีหน้าท่าทางที่ตกตะลึงไป
เขารีบเอ่ยถามขึ้น : “พบอะไร?!”
ลูกน้องรีบรายงาน : “สืบเรื่องเส้นทางการเคลื่อนไหวของกู้ชิวอี๋เมื่อวานก่อนหน้าที่จะไปสนามบินได้แล้วครับ เธออยู่ในพื้นที่ที่หัวหน้าอยู่ในเวลาเดียวกันเลยครับ!”
“อะไรนะ?!” หลี่ญ่าหลินในฐานะเป็นตำรวจสืบสวน รู้อยู่แล้วว่าพื้นที่ที่อยู่ในช่วงเวลาเดียวกันนั้นหมายความว่าอะไร นี่แสดงว่าตัวเองเคยอยู่ในพื้นที่เดียวกันกับกู้ชิวอี๋มาแล้ว ทำให้เขาต้องเอ่ยขึ้นด้วยความตกตะลึง : “อยู่ที่ไหนที่เป็นพื้นที่อยู่ในช่วงเวลาเดียวกัน?!”
ลูกน้องว่า : “เมื่อวานตอนกลางวันเธอไปที่ตระกูลเฟ่ยก่อนครับ หลังจากนั้นจากตระกูลเฟ่ยแล้วก็ไปร้านห่านย่างแบบกวางตุ้งที่ไชน่าทาวน์ครับ หลังจากที่เธอถึงที่ร้านแล้ว หัวหน้ากับคุณอานก็ไปถึงร้านห่านย่างร้านนั้นครับ!”
“ชิบหาย!” หลี่ญ่าหลินสบถคำหยาบด่าว่าออกมา : “ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง!”
หลี่ญ่าหลินได้ยินแล้ว ความจริงแล้วในใจก็รู้สึกผิดหวังอยู่บ้าง
เดิมทีแล้วเขาคิดว่า ผ่านการขุดลึกลงไปในเส้นทางของกู้ชิวอี๋แล้วจะสามารถนำบุคคลลึกลับที่ปกป้องอยู่เบื้องหลังของเธอออกมาได้
อีกทั้ง เขารู้สึกอยู่ตลอดว่ากู้ชิวอี๋จะต้องมีหน่วยข่าวกรองที่แข็งแกร่งมากอย่างแน่นอน ดังนั้นถึงได้สามารถได้รับข่าวสารของอาการป่วยหนักของคุณท่านได้ภายในเวลาอันสั้นแบบนั้น
แต่ได้ยินลูกน้องรายงานแบบนี้แล้ว เขาถึงได้รู้สึกว่า แท้ที่จริงแล้วเรื่องราวนั้นเป็นเพียงความบังเอิญเพียงเท่านั้น ตอนนั้นกู้ชิวอี๋ก็อยู่ที่ร้านห่านย่าง ดังนั้นเนื้อหาที่อานโฉงชิวกับตัวเองคุยกันนั้น เธอได้ยินเข้าก็ไม่ใช่เรื่องแปลก......
คิดมาถึงตรงนี้แล้ว เขาก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ พลางเอ่ยถามขึ้นอีกครั้ง : “กู้ชิวอี๋ไปกับใคร? แล้วออกไปตอนไหน?”
ลูกน้องเอ่ยขึ้น : “ผมดูบันทึกจากล้องวงจรปิดรอบๆแล้ว กู้ชิวอี๋ไปกับใครนั้นไม่สามารถแน่ใจได้เลยครับ แต่ตอนนั้นเธอไปถึงก่อนที่พวกหัวหน้าจะไปถึง ตอนที่ออกมานั้นคุณอานออกมาก่อน หัวหน้ารอหลังจากนั้นประมาณสองสามนาทีถึงได้ออกมา แล้วกู้ชิวอี๋ก็ออกมาหลังจากหัวหน้าอีกประมาณ1-2นาที หลังจากที่เธอออกมาแล้ว ก็ไปที่สนามบินเลยครับ”
และผู้ชายคนนั้นก็คือเย่เฉินที่คนตระกูลอานตามหากันอย่างยากลำบากมาเป็นเวลายี่สิบปีแล้วนั่นเอง!
ในคลิปวิดีโอเวลานี้ ในตอนที่รถคนนั้นที่กู้ชิวอี๋และเย่เฉินนั่งมาหยุดลงไม่นาน หลี่ญ่าหลินก็เห็นว่ารถของตัวเองและอานโฉงชิวก็เข้ามาอยู่ในกล้องวงจรปิดแล้วเช่นกัน
หลี่ญ่าหลินเห็นแล้วมีท่าทางหมดหนทางกับปัญหายากนี้ขึ้นมา จากนั้นก็โทรออกไปหาอีกฝ่ายหนึ่ง พลางออกปากขึ้น : “หากล้องวงจรปิดจากตัวอื่นไม่เจอเหรอ? ทางที่ดีที่สุดคืออีกด้านนึงที่สามารถถ่ายเห็นคนได้”
อีกฝ่ายนั้นตอบกลับมา : “ไม่มีแล้วครับ สามารถถ่ายตรงร้านห่านย่างได้มีเพียงบันทึกจากกล้องวงจรปิดตัวนี้ตัวเดียว”
หลี่ญ่าหลินบ่นพึมพำออกมา : “แม่ง เคยแนะนำกับทางนายกเทศมนตรีไปตั้งแต่แรกแล้ว ว่าให้เขาจัดสรรงบประมาณเอาไว้ติดตั้งระบบskynetในนครนิวยอร์ก เขาก็มัวแต่ยืดยาดไม่ยอมอนุมัติซักที ดูที่หัวเซี่ยสิ เมืองหนึ่งการควบคุมและคอยสังเกตการณ์มีอัตราครอบคลุมไปเกิน95%แล้ว แล้วมาดีที่นครนิวยอร์ก แม่งเพิ่งจะมาติดตั้งกล้องวงจรปิดที่สถานีรถไฟใต้ดินทุกที่!”
อีกฝ่ายนั้นเอ่ยขึ้นมาอย่างจนปัญญา : “หัวหน้า ถึงแม้นครนิวยอร์กนี่ติดตั้งระบบskynetนี่ก็ไม่มีประโยชน์อะไรหรอกครับ ต่อให้ในระหว่างคืนนึงจะสามารถติดตั้งได้เป็นแสนตัวก็เถอะ วันรุ่งขึ้นก็จะต้องถูกสมาชิกแก๊งทุบพังเป็นครึ่งนึงแย่ๆ ส่วนที่เหลืออีกครึ่งนึง ก็คาดว่าจะถูกพวกเร่ร่อนที่ไม่มีบ้านให้กลับถอดออกเอาไปแลกบุหรี่แลกแฮมเบอร์เกอร์ไปแล้ว.....”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
ทำไมตอนซ้ำเยอะ ตอนก้ขาดหาย...
เอาตรงๆผมอ่านมา ก้ไม่ได้สงสารหงเยนน่ะ แต่แค่ใจจริงผมให้เลือกว่าใครจะตาย อยากจะให้อีหม่าหลันตายห่าไปมากกว่าอีก ไม่มีหม่าหลันอยู่แม่จะอ่านสนุกกว่านี้มาก...
เองก้อยากให้หม่าหลันเสียสติไม่ใช่หรอเย่เฉิน ส่วนชูหรันมึงก้เข้าข้างแม่ตีวเองเกิ้น รู้ทั้งรู้นิสัย สันดานแม่เป้นงี้ก้ยังเลือกที่จะเข้าข้าง พระเอกทิ้งเองไปหานานาโกะหรือกู้ชิวอี้จะสมน้ำหน้าให้ ดีเกิน กตัญญูจนโง่...
กูไม่เข้าใจจริง ผู้เขียนมึงหลงรักหม่าหลันขนาดนั้นเลย ทำไมต้องให้อีนี่ มันสมหวังที่จะทำร้ายหงเย่นด้วยว่ะ ทำไมไม่ให้อีหม่าหนักใจจนตาย ทำร้านหงเย้นไม่สำเร็จด้วย คนเขี่ยไร อิจฉาตาร้อนขนาดนี้น เมื่อไหร่แม่งจะตายสักที อีท่าเนี่ย...
พาหลิวหม่านฉงชมมหาลัย ไรมันเกี่ยวไรกับการปรับแต่งแล้วสรรหาเพราะเย่เฉิน เย่เฉินไม่ได้สร้างมหาลัยสะหน่อย หรือเป้นเพราะที่ ที่เย่เฉินเคยมาเรียนหรอ...
สมน้ำหน้าไอฉางควน เหมาะกับหม่าหลันดี ขี้โม้เหมือนกัน ว่าคนที่มีความสามารถว่ากระจอกเหมือนกัน หลงตัวเองเหมือนกัน พูดมาได้ไงมึงกับหานเหมยชิงเป้นคู่ฟ้าประทาน 5555 สมล่ะที่คบกังหม่าหลันได้...
ทั้งที่เป็นผู้ชาย แรงเยอะกว่า ตัวใหญ่ก็ว่า แต่กลัวกับอีหม่าหลันพูดขู่แค่นี้เนี่ยน่ะ ไม่น่าเกิดเป็นผู้ชายเลยมึงไอเชียวฉางควน กูคิดว่าเป็นตุ๊ด ปากบอกรอเหมยชิงมานาน อยากจะพัฒนาความสัมพันธ์ อยากจะมีเพศสัมพันธ์อยากจะอยู่กับเหมยชิง อยากแต่งงานกะเหมยชิงอีกครั้ง ทั้งที่เหมยชิงยอมกลับมาหาเพื่อมึง แต่มึงกลับไม่กล้าทำไรกะอีหม่าหลันสักอย่าฃ แค่หม่าหลันพูดขู่ว่าจะไปหาเรื่องเหมยชิง แทนที่จะให้เหมยชิงจ้างบอดีการ์ดมา อีหม่าก้ทำไรไม่ได้ล่ะ หรือไอฉางควนปกป้อง สู้กันจริงๆหม่าหลันก้สู้คงไม่ได้หรอก ทำมึงกลับกลัวหัวหด ชาตินี้ก้คงไม่ได้อยุ่กับคนรักหรอก ฝันไปเถอะมึง กระจอก...
ไม่ใช่ว่าข้อมูลของเย่เฉิน ตอนตั้งแต่9ขวบจนถึงปัจุบัน ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่ลบไปแล้วไม่ใช่หรอหรือเก้บซ่อนไว้ ถ้า้ป้นอย่างงี้ แสดงว่าองกรพั้วชิงก้สามารถหาได้เช่นกันดิ ถ้างั้น ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่มันลบออกข้อมูลตอนเด้กของพระเอกออกไปหรอกหรอ -.-"...
พูดมาได้ไงไม่ได้หวังเกินตัว แต่อยากมีลูกกะเย่เฉิน ถึงกับขนาดที่ว่าจะแอบมีความสัมพันกับพระเอกตอนหลับ แบบนี้ไม่ได้เรียกหวังเกินตัวเลยงั้นอ่าดิ 555 ผมชอบอ่านเรื่องโรงแมนติกน่ะ เพราะมันพอดี แต่เรื่องนี้อ่านแล้วไม่ฟินอ่ะ เรื่องความรักชายหญิง เพราะมันลุกหนักเกินไปจน จนไม่มีให้ลุ้นอาะ...
ไม่เข้าใจจริง ว่าทำไมต้องให้พระเอกชดเชย หรือชดใช้ความรักให้หญิงสาวพวกนี้ ถ้าเป้นกุ้ซิวอี้พอยอมรับได้เพราะ เป้นคู่หมั่นพระเอก แต่พวกที่เข้ามาหาพระเอก พระเอกก้แค่ช่วยไปเท่านั้น ให้จะได้สะดวกต่อการทำงานร่วมกัน ไม่ได้ช่วยเพราะรัก แต่พวกหล่อนกับบอกให้ชดใช้ ทั้งที่ที่พวกหล่อนมารักพระเอกแท้ๆ แต่กลับจะให้พระเอกชดใช้เนี่ยน่ะ...