ยายของเย่เฉินกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ลำบากเธอแล้วเสี่ยวเฉิน ถ้าเธอมีเรื่องอะไรต้องทำก็ไปเถอะ ไม่ต้องกังวลเรื่องของเรา”
ขณะเอ่ย นายหญิงใหญ่ก็นึกอะไรบางอย่างได้และรีบถามว่า "ใช่สิเสี่ยวเฉิน หลังจากจบคอนเสิร์ตแล้ว หนานหนานพอจะมีเวลาไหม? ถ้ามีเวลา พวกเราก็จะรอพบเธอ ถ้าไม่สะดวกสำหรับเธอ อย่างนั้นเราก็จะไม่รบกวนแล้ว”
เฉินตัวตัวรีบพูดว่า “สะดวกค่ะสะดวก ชิวอี๋ขอให้ฉันบอกคุณว่าหลังจากการแสดงถ้าคุณไม่รีบไปไหนก็สามารถรอเธอในห้องสักครู่ หลังจากเธอจัดการเรื่องต่างๆเสร็จเธอก็จะมาที่นี่”
"ดี!" นายหญิงใหญ่เอ่ยว่า "อย่างนั้นพวกเราจะรอเธอที่นี่หลังการแสดงจบ"
บทสนทนาเหล่านี้ เย่เฉินล้วนได้ยินมันทุกคำ
เขารู้ว่า กู้ชิวอี๋จะมาพบตายายหลังจากการแสดงจบลง ด้านหนึ่งก็เพราะความเคารพ ส่วนอีกด้านหนึ่งก็เป็นเพราะพิจารณาถึงตนเอง
นั่นเพราะกู้ชิวอี๋กังวลว่าเมื่อการแสดงจบลง ตนและเซียวชูหรันเวลาออกจากงานอาจจะเจอเข้ากับคนของบ้านคุณยาย ดังนั้นก็เลยตั้งใจจัดการแบบนี้
หลังจากการแสดงจบลง คุณยายและครอบครัวก็จะรอกู้ชิวอี๋อยู่ในห้อง ส่วนพวกเขาก็สามารถใช้ประโยชน์จากเวลานี้เพื่อพา เซียวชูหรันจากไปโดยตรง
แบบนี้ ต่อให้ทั้งสองฝ่ายจะถูกกั้นด้วยกำแพงตั้งแต่ต้นจนจบ แต่ก็จะไม่มีโอกาสได้เผชิญหน้ากัน
ยิ่งไปกว่านั้น เพื่อให้ได้เอฟเฟกต์เสียงที่ดีที่สุด แต่ละห้องล้วนได้ทำการวางระบบเสียงอย่างเข้มงวด ดังนั้นจึงมีฉนวนกันเสียงสองชั้นระหว่างห้องทั้งสอง ในสถานการณ์แบบนี้ ต่อให้เย่เฉินและเซียวชูหรันพูดคุยเสียงดังในห้องก็เป็นไปไม่ได้ที่ห้องข้างๆจะได้ยินพวกเขา
ต่อให้เป็นว่านพั่วจวินที่เป็นผู้เก่งกาจวิชาบู๊ระดับแดนสว่างชั้นสูงสุดที่เข้ามาก็ยังเป็นไปไม่ได้ที่จะได้ยินการสนทนาของห้องข้างๆ
เว้นก็แต่จะเป็นระดับเย่เฉินที่มีปราณทิพย์คุ้มครองร่าง ถึงจะสามารถยืมพลังปราณทิพย์ที่มีสัมผัสทุกย่างก้าวการเคลื่อนไหวของห้องถัดไปได้
เรื่องนี้ทำให้เย่เฉินระมัดระวังมากขึ้นเช่นกัน ตราบใดที่การแสดงยังไม่จบลง อย่างนั้นเขาก็ต้องไม่ออกจากประตูนี้ไปหากไม่จำเป็น
ในห้องข้างๆ
คุณท่านใหญ่และนายหญิงใหญ่นั่งอยู่บนโซฟา ส่วนอานโฉงชิวและภรรยาของเขาอยู่ถัดจากคู่สามีภรรยาสูงวัย ตรงข้ามกับพวกเขาคืออานข่ายเฟิง อานจาวหนานและน้าสาวของเย่เฉิน อานโยวโยว
ส่วนหลี่ญ่าหลิน เขากลับตรงไปที่บาร์และเทวิสกี้แก้วหนึ่ง ก่อนจะนั่งบนเก้าอี้บาร์และดื่มคนเดียว
นอกจากพี่น้องสี่คนของตระกูลอานและน้าสะใภ้สามคนของเย่เฉิน วันนี้ผู้ที่มาด้วยยังมีลูกชายสองคนของอานข่ายเฟิง และลูกสาวคนโตของจาวหนาน รวมถึงลูกสาวอายุ 12 ขวบเพียงคนเดียวของอานโยวโยว

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
ตอนนี้กุต้องมาอ่านละครลิงโง่ๆ ภายในตระกูลเซียวใช่ไหม กุต้องเลื่อนให้พ้นๆอ่ะ...
ขัดใจกับไแคนครอบครัว เซียวชูหรันชิบหาย ไม่ว่าใครก้โง่จนใสซื่อ ไอฉางควรก็ปิดแหก ไอหม่าหลันก็น่าเงิน สุดท้ายครอบครัวนี้แม่งไม่สมประกอบทุกตัว...
แทนทีจะแยกออกไปอยู่คนเดียว ถ้าก้เป้นฉางควนอยากอยู่กับรักแรกก้ต้องลงทุน แต่นี่มึงยังไม่กล้ากับหม่ากันเลย กลัวจนขึ้นมาสมอง แล้วหวังอยากจะอยุ่กับหานเหมยชิง อยากจะระลึกความหลัง เห้นแก่ตัวเกินไปไอห่า กลัวหม่าหลันแค่ตาย ปอดแหกแบบนี้มึงก้อยุ่กับอีหม่าหลันไปเถอะ สมน้ำหน้าแบ่งทำเพื่อรักแรกมึงยังไม่กล้าทำเลย แล้วหวังจะอยุ่กับเหมยชิง...
ไอเซียวฉาวควนแม่งมาหวงก้างจัด เฮ่อกับหารเหม่ยชิงโครตเหมาะกันอยากให้2คนนี้คบกันมาก ไอเซียวฉางควนกับอีแค่หม่าหลันมคงยังไม่กล้า แล้วนยังจะคิดอยุ่กับหานเหม่อยชิง มึงปอดแหกแบบนี้มึงก้ไม่มีวันสมหวังหรอก ไอโง่...
ผญ.เรื่องนี้แม่งหลงตัวเองทั้ง มีแค่ตงเสวี่นร ชูกรัน กูซิวอี๋ นอกนั้นหลงตัวเองชิบหาย...
นิยายเรื่องนี้สร้างเป็นละครสั้นหรือยัง...
อัพเดตตอนใหม่ทีครับ...
อ่านมาจะ4พันตอนละพระนางยังไม่ำด้กันเลย นิสัยพระเอกก็สุดๆยังดีเนื้อเรื่องสนุก...
อ่านต่อได้ตรงไหนครับ...
สงสารหวังเจิ้งกาง หลังจากมอบบ้านมอบรถให้เย่เฉิน ก้ไม่เห็นเยเฉินพูดถึงเลย เหมือนเป็นตัวประกอบ ตอนแรกๆ 555...