ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน นิยาย บท 44

บทที่ 44 เปิดโปงเธอให้หมดเปลือก

จ้าวลี่ฉิงไม่ทันสังเกตเห็นสีหน้าของเซียวชูหรัน พลางลากชายข้างๆ ตัวเองเข้ามา เพื่อทักทาย : “เดี๋ยวแนะนำให้เธอรู้จัก นี่คือเจิ้งเหา สามีฉันเอง!”

หล่อนพูดพลางชมเขา : “เขาน่ะ เป็นคุณชายใหญ่ของตระกูลจินหลิงเจิ้ง และยังเป็นคนสืบทอดของตระกูลเจิ้งอีก!”

เซียวชูหรันพยักหน้ารับอยากให้เกียรติ

แต่เย่เฉินกลับมีท่าทางนิ่งๆ

เขาพาภรรยามาฉลองครบรอบแต่งงาน แต่ใครจะไปรู้ว่าจะมาเจอกับคนที่น่ารังเกียจแบบนี้!

จ้าวลี่ฉิงจึงพูดด้วยความอวดดี : “เออใช่ สามีของฉันเป็นแขกวีไอพีของที่นี่ มีอำนาจเยอะมาก ฉันเดาว่าเย่เฉินอย่างมากก็คงจองได้แค่ห้องธรรมดาหรือเปล่า? ไม่สู้รอสักหน่อยเดี๋ยวฉันช่วยพวกเธอจองห้องพรีเมี่ยมให้ ดีมั้ย?”

เซียวชูหรันที่กำลังนิ่งเงียบอยู่นั้น แต่เย่เฉินกลับหัวเราะออกมา แล้วพูดขึ้น : “ห้องที่ผมจองไว้ก็ดีอยู่ เรื่องนั้นไม่เป็นไรหรอก”

ถ้าหากว่าหล่อนรู้ว่าที่ที่เขาจองนั้นคือชั้นสูงสุดของตึกที่เป็นสวนดอกไม้กลางอากาศ เพื่อประดับตกแต่งเหมือนกับงานแต่ง แต่ของหล่อนนั้นเป็นแค่บัตรพิเศษของที่นี่ มันมีอะไรน่าอวดนัก?

ยิ่งไปกว่านั้น โรงแรมป๋ายจินฮ่านกงนั้นเป็นบ้านของเขาเอง ถ้าเขายังพาภรรยาไปที่ห้องของลูกค้าวีไอพี นั่นก็ไม่ใช่ว่าเป็นการลดชนชั้นหรอกหรือ?

และในตอนนี้จ้าวลี่ฉิงจึงพูดขึ้นอย่างไม่พอใจ : “ชูหรัน เธอดูสามีเธอสิ ไม่สนใจความหวังดีของคนอื่นที่มีต่อตัวเองเลย ปกติเธอสอนเขายังไงกัน?”

พูดไปพลาง หล่อนก็หันไปจับมือเจิ้งเหา พลางซบลงที่ไหล่ของเขา พร้อมหัวเราะแล้วพูดขึ้น : “เย่เฉินดูไม่เหมาะที่จะมาโผล่ในที่แห่งนี้ ต่อจากนี้ก็ให้เขามาฝึกเรื่องมารยาทของตระกูลชั้นสูงกับสามีฉันก็ได้นะ ยังไงสามีฉันก็จบมาจากประเทศอังกฤษ”

เจิ้งเหาหันไปมองเหยียดเย่เฉินทีหนึ่ง พลางหัวเราะแล้วพูดขึ้น : “ที่รัก คุณอย่าหางานที่ผมไม่สามารถทำให้สำเร็จแบบนี้สิ คุณชายเย่ดูเป็นคนมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองแบบนี้ คิดจะสอนมารยาทของชนชั้นสูงให้ เกรงว่าคงยากหน่อยนะ”

จ้าวลี่ฉิงพยักหน้ารับ พลันถอนหายใจ แล้วหันไปพูดกับเซียวชูหรัน : “ถ้าให้ฉันแนะนำละก็ เธอรีบหย่าซะเถอะ อยู่กับผู้ชายที่ไม่มีเงินอย่างเย่เฉินทั้งชีวิตแบบนี้ มันเป็นการทำร้ายตัวเองนะ!”

จ้าวลี่ฉิงพูดออกมาอย่างไม่อ้อมค้อมใดๆ เลย แทบจะไม่สนใจความรู้สึกของเซียวชูหรันสักนิด

เซียวชูหรันอดทนจนอดต่อไปไม่ไหว จึงพูดขึ้นเสียงแข็ง : “จ้าวลี่ฉิง เธอหมายความว่ายังไง? สามีของฉันไม่จำเป็นต้องให้เธอมาพินิจพิเคราะห์หรอกนะ”

จ้าวลี่ฉิงเอามือปิดปากพลางหัวเราะ แล้วพูดขึ้น : “ตอนนี้ขึ้นมหาลัยฉันก็ไม่ชอบเธอ ถ้าตอนนั้นครอบครัวเธอไม่ยัดเงิน เธอจะเป็นดาวมหาลัยได้ยังไง? พอตอนนี้ตัวเองแต่งงานไม่ดีเท่าไหร่ กลับไม่ยอมให้ฉันพูดบ้างเหรอ?”

เย่เฉินได้ยินคำนั้น ก็รู้สึกไม่พอใจอย่างมาก

จ้าวลี่ฉิงคนนี้ ตอนมหาลัยก็เป็นคนไม่เอาไหน ยังมีหน้าทำเป็นตัวเองดีหนักหนา ตอนนั้นล่อลวงผู้ชายรวยๆ ไปเท่าไหร่ละ พอตอนนี้โชคดีได้แต่งเข้าตระกูลเศรษฐี ก็คิดว่าตัวเองเป็นเศรษฐีนีไปแล้วเหรอ?

แล้วยังกล้ามาหัวเราะเยาะภรรยาเขาอีก?

ช่างรนหาที่ตาย!

พอคิดได้แบบนี้ ไฟความแค้นก็ลุกขึ้นภายในใจของเขาทันที

ดังนั้น เขาจึงหยิบโทรศัพท์ออกมา พลันทักไปหาเฉินจื๋อข่ายผู้จัดการเก่าของป๋ายจินฮ่านกง

“ฉันต้องการข้อมูลของจ้าวลี่ฉิง ลูกสะใภ้ตระกูลจินหลิงเจิ้ง ภายในสามนาที!”

จ้าวลี่ฉิงเห็นเย่เฉินไม่พูดอะไรแล้วเอาแต่มองโทรศัพท์ หล่อนจึงหัวเราะแล้วพูดขึ้น : “เธอดูสามีเธอสิ ขนาดฉันพูดว่าเธอแบบนี้ เขากลับไม่กล้าแม้แต่จะออกรับให้เธอ น่าตลกจริงๆ ฮ่าฮ่าฮ่า!”

และในขณะนั้นเอง เย่เฉินก็ได้รับข้อความตอบกลับจากเฉินจื๋อข่ายทันที : “คุณชาย ผมได้ส่งข้อมูลของจ้าวลี่ฉิงให้แล้ว”

เย่เฉินอ่านข้อมูลยาวเหยียดนั่น แล้วหันไปมองจ้าวลี่ฉิง รวมถึงเจิ้งเหา พลางหัวเราะออกมา : “ฉันมีข้อมูลที่น่าสนใจบางอย่าง พวกคุณอยากฟังมั้ย?”

จ้าวลี่ฉิงขมวดคิ้วแล้วพูดขึ้น : “ข้อมูลอะไร?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน