ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน นิยาย บท 4404

สรุปบท บทที่ 4404 มาเป็นเจ้าภาพงานสำคัญ: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

ตอน บทที่ 4404 มาเป็นเจ้าภาพงานสำคัญ จาก ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 4404 มาเป็นเจ้าภาพงานสำคัญ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายนิยาย จีน ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน ที่เขียนโดย เมฆทอง เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

“ครับคุณเย่ เคยสืบมาแล้วครับ” ว่านพั่วจวินเอ่ยพูด “จงจื่อทาวคือลูกชายของมหาเศรษฐีแห่งเกาะฮ่องกางอย่างจงหยุนชิว ถึงทรัพย์สมบัติของจงหยุนชิวจะไม่ติดอันดับหนึ่งในสามของเกาะฮ่องกาง แต่เขาก็มีความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับสำนักฮงเหมิน ซึ่งคนที่เป็นหัวหน้าของสำนักฮงเหมินในปัจจุบัน ก็คือพ่อบุญธรรมของเขา”

ขณะที่พูด ว่านพั่วจวินก็เอ่ยขึ้นมาอีกว่า “จริงสิ การที่สำนักฮงเหมินแอบเล่นงานเฉินจ้างโจงในครั้งนี้น่าสนใจมาก หลายปีมานี้กฎหมายในเกาะฮ่องกางดีขึ้นเรื่อยๆ พวกเขาเหล่านี้จึงทำได้ต้องกำจัดกลุ่มแก๊งออก เพราะธุรกิจหดตัวค่อนข้างรุนแรง อีกอย่างพวกลูกน้องลูกสมุนก็มีอยู่เยอะ ค่าใช้จ่ายก็จึงมากตามไปด้วย สภาพการณ์เศรษฐกิจโดยรวมค่อนข้างจะที่วิกฤติเอาการ”

เย่เฉินเอ่ยถาม “สำนักฮงเหมินขัดสนขนาดนี้ จงหยุนชิวไม่ยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือหน่อยเหรอ?”

“ก็ช่วยอยู่ครับ” ว่านพั่วจวินเอ่ย “ถ้าจงหยุนชิวไม่ช่วย ป่านนี้สำนักฮงเหมินก็คงเริ่มปลดพนักงานออกแล้ว ตอนนั้นจงหยุนชิวช่วยสำนักฮงเหมินเอาไว้มาก ดังนั้นสำนักฮงเหมินจึงยึดจุดนี้ คอยยื่นมือช่วยเหลือเขา ต่อมาพอจงหยุนชิวได้เป็นใหญ่ ก็คิดจะตัดความสัมพันธ์กับสำนักฮงเหมินทิ้ง จึงเริ่มช่วยสำนักฮงเหมินปรับเปลี่ยนโครงสร้าง รายได้หลักในปัจจุบันของสำนักฮงเหมินมีทั้งหมดสี่ช่องทาง หนึ่งคือร้านจำนำ สองคือร้านกลางคืน สามคือลักลอบค้าเนื้อสัตว์แช่แข็ง และอีกช่องทางคือพนันใต้ดิน ซึ่งที่กล่าวมานี้ นอกจากพนันใต้ดิน ธุรกิจสามอย่างแรกจงหยุนชิวเป็นคนริเริ่มช่วยเหลือทั้งนั้น”

เย่เฉินตอบอืม “ร้านกลางคืนที่ใหญ่ที่สุดของสำนักฮงเหมินคือร้านไหน?”

ว่านพั่วจวินตอบกลับ “คลับซีเวฟครับ อยู่ที่หลานกุ้ยฝ่าง”

“ซีเวฟ.....” เย่เฉินพึมพำเสียงเบา เอ่ยพูดยิ้มๆว่า “โอเค ฉันรู้แล้ว”

เมื่อเย่เฉินวางสาย ก็หันมาพูดกับหลิวม่านฉงที่อยู่ข้างๆว่า “คุณม่านฉง เอาอย่างนี้เป็นไง คืนนี้หลังจากทานข้าวเสร็จ คุณพาผมไปเดินเล่นที่ร้านกลางคืนได้ไหม”

ได้ยินแบบนั้นหัวของหลิวม่านฉงก็แทบจะระเบิดออกมา เธอเอ่ยขึ้นมาในทันที “เย่เฉิน คุณเพิ่งพูดถึงร้านกลางคืนของสำนักฮงเหมินไปเมื่อกี้ คงไม่ใช่ว่าจะไปที่นั่นหรอกนะ?!”

“ใช่” เย่เฉินยิ้มออกมาเล็กน้อย “ว่าจะไปสัมผัสชีวิตยามค่ำคืนอันเลื่องลือของเกาะฮ่องกางสักหน่อย”

หลิวม่านฉงหลุดปากพูดออกไป “แต่คุณก็ไม่ควรเจาะจงว่าจะไปที่ร้านกลางคืนของสำนักฮงเหมินสิ! เมื่อกี้คุณเพิ่งไปยั่วโมโหจงจื่อทาวมา ที่นั่นมันอันตรายมากนะ!”

เย่เฉินพูดยิ้มๆ “แน่นอนว่ามันอันตรายอยู่แล้ว แต่ใครกันแน่ที่จะเป็นอันตราย ก็ต้องมาดูกัน”

เมื่อเห็นสีหน้าสนุกและท่าทางสบายๆของเย่เฉิน หลิวม่านฉงก็ยิ่งสงสัยที่มาที่ไปของเย่เฉินมากกว่าเดิม

พอมาเจอจงจื่อทาว เธอก็รู้สึกว่าเย่เฉินคนนี้เหมือนจะขาดไหวพริบ แล้วก็ดูเลินเล่อด้วย ไม่รู้จักประเมินสถานการณ์เอาซะเลย

อีกอย่าง พฤติกรรมจับมือเธออย่างอุกอาจแบบนี้ ในความคิดของเธอ มันค่อนข้างที่จะบุ่มบ่ามไปหน่อย

แล้วไหนจะ ท่าทีที่ไม่ยอมไปจากเกาะฮ่องกางง่ายๆ มันทำให้เธอรู้สึกว่าคนคนนี้ไม่รู้ถึงความอันตรายที่มีอยู่บนโลก เธออุตส่าห์พูดมาถึงขนาดนี้แล้ว เขากลับยังนิ่งเฉย ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวและไม่กลัวอะไรทั้งนั้น

แต่จนถึงตอนนี้ เธอก็รู้สึกว่า เหมือนสิ่งที่เธอคิดกับเย่เฉินเอาไว้มันจะผิดคาดไปซะหมด

เย่เฉินไม่กลัวก็จริง แต่ที่ไม่กลัวไม่ใช่เพราะไม่รู้ กลับกัน เพราะเขารู้แล้วต่างหากเขาถึงได้ไม่กลัว

คิดมาถึงตรงนี้ เธอก็มองมาที่เย่เฉิน อดถามขึ้นมาไม่ได้ว่า “งั้น….งั้นคุณบอกฉันได้ไหม ว่าคุณมาที่เกาะฮ่องกาง เพื่อมาเป็นเจ้าภาพงานสำคัญอะไร?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน