“ครับคุณเย่ เคยสืบมาแล้วครับ” ว่านพั่วจวินเอ่ยพูด “จงจื่อทาวคือลูกชายของมหาเศรษฐีแห่งเกาะฮ่องกางอย่างจงหยุนชิว ถึงทรัพย์สมบัติของจงหยุนชิวจะไม่ติดอันดับหนึ่งในสามของเกาะฮ่องกาง แต่เขาก็มีความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับสำนักฮงเหมิน ซึ่งคนที่เป็นหัวหน้าของสำนักฮงเหมินในปัจจุบัน ก็คือพ่อบุญธรรมของเขา”
ขณะที่พูด ว่านพั่วจวินก็เอ่ยขึ้นมาอีกว่า “จริงสิ การที่สำนักฮงเหมินแอบเล่นงานเฉินจ้างโจงในครั้งนี้น่าสนใจมาก หลายปีมานี้กฎหมายในเกาะฮ่องกางดีขึ้นเรื่อยๆ พวกเขาเหล่านี้จึงทำได้ต้องกำจัดกลุ่มแก๊งออก เพราะธุรกิจหดตัวค่อนข้างรุนแรง อีกอย่างพวกลูกน้องลูกสมุนก็มีอยู่เยอะ ค่าใช้จ่ายก็จึงมากตามไปด้วย สภาพการณ์เศรษฐกิจโดยรวมค่อนข้างจะที่วิกฤติเอาการ”
เย่เฉินเอ่ยถาม “สำนักฮงเหมินขัดสนขนาดนี้ จงหยุนชิวไม่ยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือหน่อยเหรอ?”
“ก็ช่วยอยู่ครับ” ว่านพั่วจวินเอ่ย “ถ้าจงหยุนชิวไม่ช่วย ป่านนี้สำนักฮงเหมินก็คงเริ่มปลดพนักงานออกแล้ว ตอนนั้นจงหยุนชิวช่วยสำนักฮงเหมินเอาไว้มาก ดังนั้นสำนักฮงเหมินจึงยึดจุดนี้ คอยยื่นมือช่วยเหลือเขา ต่อมาพอจงหยุนชิวได้เป็นใหญ่ ก็คิดจะตัดความสัมพันธ์กับสำนักฮงเหมินทิ้ง จึงเริ่มช่วยสำนักฮงเหมินปรับเปลี่ยนโครงสร้าง รายได้หลักในปัจจุบันของสำนักฮงเหมินมีทั้งหมดสี่ช่องทาง หนึ่งคือร้านจำนำ สองคือร้านกลางคืน สามคือลักลอบค้าเนื้อสัตว์แช่แข็ง และอีกช่องทางคือพนันใต้ดิน ซึ่งที่กล่าวมานี้ นอกจากพนันใต้ดิน ธุรกิจสามอย่างแรกจงหยุนชิวเป็นคนริเริ่มช่วยเหลือทั้งนั้น”
เย่เฉินตอบอืม “ร้านกลางคืนที่ใหญ่ที่สุดของสำนักฮงเหมินคือร้านไหน?”
ว่านพั่วจวินตอบกลับ “คลับซีเวฟครับ อยู่ที่หลานกุ้ยฝ่าง”
“ซีเวฟ.....” เย่เฉินพึมพำเสียงเบา เอ่ยพูดยิ้มๆว่า “โอเค ฉันรู้แล้ว”
เมื่อเย่เฉินวางสาย ก็หันมาพูดกับหลิวม่านฉงที่อยู่ข้างๆว่า “คุณม่านฉง เอาอย่างนี้เป็นไง คืนนี้หลังจากทานข้าวเสร็จ คุณพาผมไปเดินเล่นที่ร้านกลางคืนได้ไหม”
ได้ยินแบบนั้นหัวของหลิวม่านฉงก็แทบจะระเบิดออกมา เธอเอ่ยขึ้นมาในทันที “เย่เฉิน คุณเพิ่งพูดถึงร้านกลางคืนของสำนักฮงเหมินไปเมื่อกี้ คงไม่ใช่ว่าจะไปที่นั่นหรอกนะ?!”
“ใช่” เย่เฉินยิ้มออกมาเล็กน้อย “ว่าจะไปสัมผัสชีวิตยามค่ำคืนอันเลื่องลือของเกาะฮ่องกางสักหน่อย”
หลิวม่านฉงหลุดปากพูดออกไป “แต่คุณก็ไม่ควรเจาะจงว่าจะไปที่ร้านกลางคืนของสำนักฮงเหมินสิ! เมื่อกี้คุณเพิ่งไปยั่วโมโหจงจื่อทาวมา ที่นั่นมันอันตรายมากนะ!”
เย่เฉินพูดยิ้มๆ “แน่นอนว่ามันอันตรายอยู่แล้ว แต่ใครกันแน่ที่จะเป็นอันตราย ก็ต้องมาดูกัน”
เมื่อเห็นสีหน้าสนุกและท่าทางสบายๆของเย่เฉิน หลิวม่านฉงก็ยิ่งสงสัยที่มาที่ไปของเย่เฉินมากกว่าเดิม
พอมาเจอจงจื่อทาว เธอก็รู้สึกว่าเย่เฉินคนนี้เหมือนจะขาดไหวพริบ แล้วก็ดูเลินเล่อด้วย ไม่รู้จักประเมินสถานการณ์เอาซะเลย
อีกอย่าง พฤติกรรมจับมือเธออย่างอุกอาจแบบนี้ ในความคิดของเธอ มันค่อนข้างที่จะบุ่มบ่ามไปหน่อย
แล้วไหนจะ ท่าทีที่ไม่ยอมไปจากเกาะฮ่องกางง่ายๆ มันทำให้เธอรู้สึกว่าคนคนนี้ไม่รู้ถึงความอันตรายที่มีอยู่บนโลก เธออุตส่าห์พูดมาถึงขนาดนี้แล้ว เขากลับยังนิ่งเฉย ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวและไม่กลัวอะไรทั้งนั้น
แต่จนถึงตอนนี้ เธอก็รู้สึกว่า เหมือนสิ่งที่เธอคิดกับเย่เฉินเอาไว้มันจะผิดคาดไปซะหมด
เย่เฉินไม่กลัวก็จริง แต่ที่ไม่กลัวไม่ใช่เพราะไม่รู้ กลับกัน เพราะเขารู้แล้วต่างหากเขาถึงได้ไม่กลัว
คิดมาถึงตรงนี้ เธอก็มองมาที่เย่เฉิน อดถามขึ้นมาไม่ได้ว่า “งั้น….งั้นคุณบอกฉันได้ไหม ว่าคุณมาที่เกาะฮ่องกาง เพื่อมาเป็นเจ้าภาพงานสำคัญอะไร?”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
สมน้ำหน้าไอฉางควน เหมาะกับหม่าหลันดี ขี้โม้เหมือนกัน ว่าคนที่มีความสามารถว่ากระจอกเหมือนกัน หลงตัวเองเหมือนกัน พูดมาได้ไงมึงกับหานเหมยชิงเป้นคู่ฟ้าประทาน 5555 สมล่ะที่คบกังหม่าหลันได้...
ทั้งที่เป็นผู้ชาย แรงเยอะกว่า ตัวใหญ่ก็ว่า แต่กลัวกับอีหม่าหลันพูดขู่แค่นี้เนี่ยน่ะ ไม่น่าเกิดเป็นผู้ชายเลยมึงไอเชียวฉางควน กูคิดว่าเป็นตุ๊ด ปากบอกรอเหมยชิงมานาน อยากจะพัฒนาความสัมพันธ์ อยากจะมีเพศสัมพันธ์อยากจะอยู่กับเหมยชิง อยากแต่งงานกะเหมยชิงอีกครั้ง ทั้งที่เหมยชิงยอมกลับมาหาเพื่อมึง แต่มึงกลับไม่กล้าทำไรกะอีหม่าหลันสักอย่าฃ แค่หม่าหลันพูดขู่ว่าจะไปหาเรื่องเหมยชิง แทนที่จะให้เหมยชิงจ้างบอดีการ์ดมา อีหม่าก้ทำไรไม่ได้ล่ะ หรือไอฉางควนปกป้อง สู้กันจริงๆหม่าหลันก้สู้คงไม่ได้หรอก ทำมึงกลับกลัวหัวหด ชาตินี้ก้คงไม่ได้อยุ่กับคนรักหรอก ฝันไปเถอะมึง กระจอก...
ไม่ใช่ว่าข้อมูลของเย่เฉิน ตอนตั้งแต่9ขวบจนถึงปัจุบัน ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่ลบไปแล้วไม่ใช่หรอหรือเก้บซ่อนไว้ ถ้า้ป้นอย่างงี้ แสดงว่าองกรพั้วชิงก้สามารถหาได้เช่นกันดิ ถ้างั้น ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่มันลบออกข้อมูลตอนเด้กของพระเอกออกไปหรอกหรอ -.-"...
พูดมาได้ไงไม่ได้หวังเกินตัว แต่อยากมีลูกกะเย่เฉิน ถึงกับขนาดที่ว่าจะแอบมีความสัมพันกับพระเอกตอนหลับ แบบนี้ไม่ได้เรียกหวังเกินตัวเลยงั้นอ่าดิ 555 ผมชอบอ่านเรื่องโรงแมนติกน่ะ เพราะมันพอดี แต่เรื่องนี้อ่านแล้วไม่ฟินอ่ะ เรื่องความรักชายหญิง เพราะมันลุกหนักเกินไปจน จนไม่มีให้ลุ้นอาะ...
ไม่เข้าใจจริง ว่าทำไมต้องให้พระเอกชดเชย หรือชดใช้ความรักให้หญิงสาวพวกนี้ ถ้าเป้นกุ้ซิวอี้พอยอมรับได้เพราะ เป้นคู่หมั่นพระเอก แต่พวกที่เข้ามาหาพระเอก พระเอกก้แค่ช่วยไปเท่านั้น ให้จะได้สะดวกต่อการทำงานร่วมกัน ไม่ได้ช่วยเพราะรัก แต่พวกหล่อนกับบอกให้ชดใช้ ทั้งที่ที่พวกหล่อนมารักพระเอกแท้ๆ แต่กลับจะให้พระเอกชดใช้เนี่ยน่ะ...
เฮเลน่า แม่งก่น่ารังเกียจเกิ้น...
เฮเลน่ามึงก้ฝันกลางวันเกิ้น ถามหน่อยสู้ไรกับนานาโกะหรือกู้ซิวอิ้วอีกได้บ้าง เรื่องนี้ผู้หญิงแม่งก้มโนเก่งเกิน คิดว่าจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับพระเอก 555...
แล้วตู้ไหชิง ไม่ใช่ผู้หญิงที่ไอซูเต้าขอแต่งงานหรอ ไม่รู้คนเขียน หรือคนแปลที่แปลมั่ว ซูเต้า ไม่เคยขอใครแต่งงาน แล้วไห่ชิงนั้นไม่ได้เรียกว่าขอแต่งงานหรอกหรอ 555...
พระเอกมันเป้นห่วงความรุ้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น ไม่อยากให้เศร้าใจมากขนาดนี้น ทำไมไม่แต่งงานกับนานาโกะไปเลยล่ะ ขัดใจ ถ้าเป้นครอบครัวอื่นอยากยกความดีความชอบให้ลูกสาวอีกฝ่ายก้ไมาแปลก แต่ครอบครัวนานาโกะยังไงต่อให้ไม่ยกความดีความชอบให้นานาโกะ พ่อนานาโกะก้รักนานาโกะมากอยุ่ล่ะ แคร์ความรู้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น แต่งงานไปนานาโกะไปเลย ได้จบๆ 555...
บางที อ.ก้เขียนลำเอียงเกินไป วานพั่วจวิ้นทำงานแค่ตายจนกว่าจะได้ยามา แต่ซูรั่วรี่ไม่ได้ทำไรเลย มาถึงก้ได้ยาล่ะ 555...