เมื่อเห็นสีหน้าอ้างว้างของหลิวม่านฉง จู่ๆเย่เฉินก็รู้สึกเห็นใจคุณหนูตระกูลแนวหน้าในเกาะฮ่องกางคนนี้
แม้ว่าหลิวเจียฮุยจะรวย แต่หลิวม่านฉง ก็ยังไม่สามารถมีวัยเด็กที่สมบูรณ์ได้
การทรยศของพ่อเธอและการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรของแม่เธอได้ทำลายวัยเด็กของเธออย่างสมบูรณ์แบบ
ซึ่งจุดนี้ เย่เฉินเองก็เคยผ่านอะไรคล้ายๆหลิวม่านฉงมาเหมือนกัน
แม้ว่าพ่อแม่ของเขาจะมีความสัมพันธ์ที่ดี แต่หลังจากที่ทั้งสองท่านล่วงลับไป วัยเด็กของเย่เฉินก็พังทลายลงไม่เหลือชิ้นดี
หลังจากนั้น เย่เฉินก็อาศัยอยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเป็นเวลา 10 ปี แม้ว่าป้าหลี่จะดูแลเขาอย่างดี แต่สำหรับเย่เฉินแล้ว มันช่างเป็นเวลา 10 ปีที่แสนเจ็บปวด
ตลอดเวลา 10 ปีที่ผ่านมา ช่วง 5 ปีแรกเขาต้องยอมรับความจริงให้ได้ว่าพ่อกับแม่จากไปแล้ว ในช่วง 5 ปีต่อมา เขาต้องต่อสู้กับความโศกเศร้าเมื่อคิดถึงพ่อกับแม่
และสิ่งที่ทำให้เย่เฉินหายเป็นปกติในช่วง20ปีต่อมา และทำให้เขาสงบสติอารมณ์ ไม่เคยหลงทางคือคำสอนและความทรงจำที่ดีที่พ่อแม่ของเขามอบให้เขาก่อนที่เขาจะอายุแปดขวบ
พอมาลองคิดดู ความทรงจำดีๆของหลิวม่านฉงก็น่าจะมาจากตอนที่เธอยังเป็นเด็กเหมือนกัน แม่ของเธอพาเธอมาที่นี่ทุกวัน และพยายามทุกวิถีทางที่จะเกลี้ยกล่อมให้เธอกินข้าว ต่อมาคนที่รักเธอมากที่สุดได้จากไป ดังนั้น เธอจึงมาที่นี่เพื่อบรรเทาความคิดถึง
ในเวลานี้ พ่อค้าที่สวมผ้ากันเปื้อนกำลังผัดบะหมี่เนื้ออยู่ เมื่อเห็นหลิวม่านฉงเดินเข้ามา เขาก็ทักทายอย่างรวดเร็วด้วยรอยยิ้ม: "คุณม่านฉงมาแล้วเหรอ!"
หลิวม่านฉงกลับมารู้สึกตัว แล้วแย้มยิ้มอย่างรวดเร็ว เอ่ยพูดว่า "อาหนาน ทำไมสองวันก่อนไม่เปิดร้านล่ะ"
พ่อค้าพูดจ้ออย่างอารมณ์ดี "ลูกสะใภ้คลอดหลานน่ะสิ จ้ำม่ำเชียวล่ะ น้ำหนักแรกเกิดตั้งเจ็ดกิโล!"
“ว้าว!” หลิวม่านฉงพูดด้วยความประหลาดใจ: “ดีจัง! เดี๋ยวครั้งหน้าคงต้องเอาซองแดงมาให้เจ้าตัวเล็กซะแล้ว!”
พ่อค้ารีบพูดว่า: “ไม่เป็นไรหรอกคุณม่านฉง เราได้รับความเมตตาจากคุณทุกปี เราจะกล้ารับเงินจากคุณอีกได้ยังไง”
หลังจากพูดจบ เธอก็หันไปพูดกับเย่เฉินอย่างรวดเร็ว: “คุณเย่ ไปกันเถอะ”
เย่เฉินพยักหน้ากับพ่อค้า จากนั้นเดินไปที่ส่วนลึกของถนนคนเดินกับหลิวหม่านฉง
หลังจากออกจากร้านของอาหนาน เย่เฉินก็ถามเธอด้วยความสงสัย “คุณหม่านฉง ฟังจากที่อาหนานพูดเมื่อกี้ ดูเหมือนคุณจะเป็นเจ้าของที่นี่ใช่ไหม?”
หลิวม่านฉงกะพริบตา มือที่เรียวยาวของเธอชี้ไปที่หัวและหางของถนนคนเดิน และพูดด้วยรอยยิ้มอย่างพอใจว่า "ถนนเส้นนี้เป็นของฉัน!"
“โอ้!” เย่เฉินอดไม่ได้ที่จะยกนิ้วโป้งให้ “เจ้าของมือทองนี่นา!”
หลิวม่านฉงยิ้มและพูดว่า “ถ้าอยากเก็บผู้คนและเรื่องราวไว้ ก็ต้องลงทุนหน่อยสิ”
หลังจากพูดจบ เหล่าพ่อค้าแม่ขยริมถนนหลายคนเห็นหลิวหม่านฉง ต่างก็กล่าวทักทายอย่างเคารพ: “สวัสดีคุณหม่านฉง!”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
เอาตรงๆน่ะ ผมชอบที่พระเอกมีสาวมาติด แบบเป็นปกติ หลงรักพระเอกโงหัวไม่ขึ้นผมไม่ขัดใจหรอก มาขัดใจตอนคือแบบผญ เรื่องนี้มีนลุกหนักเกินไป จนทำใจอ่านแล้วขัดใจ ถ้าลุกพอประมาณแบบนี้คืออ่านสนุกเว่อร์ แต่นี่อ่อยหนักจนเกิน เกิดอาการขัดใจสุดๆ 555...
ห๊า พระเอกไปเป็นหนี้พวกหล่อนตรงไหน พวกตัวเองชอบเย่เฉินเอง เย่เฉินไม่ได้บังคับ แล้วจะให้พระเอกคืนความรักให้พวกเอ็งเนี่ยน่ะ ส่วนพระเอกกุเห้นมึงก้ปวดใจกับผู้หญิงทุกคนแหละ -.-"...
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โง่ทั้งพระเอกทั้งหลิวม่านฉง ทำตัวเป้นเมียพระเอกสะงั้น จนต้องเลื่อนผ่านขก.อ่าน ขัดใจ พระเอกแม่งก้จะแคร์ผู้หญิงทั้งโลกเลยรึไง...
ไอหลิวท่านฉง ก้มั่นหน้าเกินน่ะ คิดว่าพระเอกจะชอบมึงรึไง เล่นตัว จะหลุด...
ตระกูลเฟ่ยแม่งก้น่าขยะแขยงกันทุกตัวแหละ มีแค่เฟ่ยเข่อขิน เป้นตระกุลเดียวที่ไม่อยากให้เย่เฉนร่วมมือด้วยเลยจริงๆ เฟ่ยเจี้ยนจงแม่งก้ไม่ใช่คนดีไรนักหรอก ปากก้เอาเครื่องสวรรค์มาอ้าง สุดท้ายก้อยากจะไว้ชีวิตหลานตัวเอง น่าขยะแขยง...
สะใจไอไรอันมากกก...