ว่านพั่วจวินมองมาที่เขา ชี้ฮงหยวนซานที่กำลังหวาดกลัวอยู่ แล้วถามอีกครั้งว่า:"แม้ว่าเจ้าจะถูกไล่ออกจากสำนักว่านหลง แต่ไม่ว่ายังไงเจ้าก็เคยเป็นสมาชิกของสำนักว่านหลงของข้า และทุกคนที่เคยเป็นสมาชิกของสำนักว่านหลง สมาชิกของเผ่า ต่างก็มีความหยิ่งในศักดิ์ศรี แต่ทำไมเจ้าถึงยอมตกเป็นเหยื่อขยะเช่นนี้!"
ครูฝึกหลินร้องไห้และพูดสำนึกผิด:"ท่านประมุข……ข้าแค่ก็มีช่วงเวลาที่โง่เขลา และโลภมากจนขาดสติชั่วขณะหนึ่งเท่านั้น ถึงได้ถูกไอ้สุนัขแก่ตัวนี้ชักชวน และกลายเป็นครูฝึกของสำนักฮงเหมิน…... ข้าทำให้ท่านประมุขและพี่น้องนับไม่ถ้วนในสำนักว่านหลงขายขี้หน้า ขอให้ท่านประมุขลงโทษด้วยขอรับ!"
ว่านพั่วจวินพูดว่า:"เจ้าไม่ใช่สมาชิกของสำนักว่านหลงอีกต่อไป สิ่งที่เจ้าทำไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสำนักว่านหลงของข้า ดังนั้นจึงไม่ถึงขั้นทำให้สำนักว่างหลงขายขี้หน้า"
หลังจากพูดเช่นนั้น ว่านพั่วจวินก็มองไปที่เย่เฉิน กำหมัดเคารพ และพูดอย่างเคารพว่า:"คุณเย่ แม้ว่าคนนี้จะไม่ใช่สมาชิกของสำนักว่านหลงอีกต่อไป แต่ก็เคยรับใช้ให้ผม และตอนนี้เขาก็ตัดสินใจด้วยเหตุผลแต่แรก และช่วยคนชั่วก่อกรรมทำเข็ญ และมีแววตาหามีแววไม่ ถึงได้ทำให้คุณขุ่นเคือง ผมก็ปัดความรับผิดชอบไม่ได้ จะลงโทษอย่างไร เชิญคุณเย่เป็นผู้ตัดสินได้เลยครับ!"
คำพูดของว่านพั่วจวิน ทำให้ทุกคนมุ่งความสนใจไปที่เย่เฉินอีกครั้ง
ในขณะนี้ ผู้คนเหล่านี้เพิ่งเข้าใจว่า ทำไมเย่เฉินถึงไม่เคยสนใจฮงหยวนซานเลย ที่แท้เขาเป็นหัวหน้าใหญ่ตัวจริง
แม้แต่ว่านพั่วจวิน ที่มีชื่อเสียงและทรงพลังไปทั่ว ยังแทนตัวเองว่าผมต่อหน้าเขา มันชัดเจนมากแล้ว ว่าสิ่งนี้หมายถึงอะไร
ซึ่งหมายความว่าทุกคนในสำนักว่านหลง รวมถึงว่านพั่วจวินด้วย ต่างก็ภักดีต่อเน่เฉิน
ฮงหยวนซานที่เหมือนจิ้งจอกเจ้าเล่ห์เข้าใจทันทีว่า วันนี้ตนได้ทำให้ใครขุ่นเคืองแล้ว
คนที่ทำวันนี้ได้ทำให้ขุ่นเคือง กลายเป็นเจ้านายที่แท้จริงของสำนักว่านหลง!
ฮงหยวนซานตกใจกลัวจนตัวสั่นสะท้านราวกับตะแกรง และพูดตะกุกตะกัก:"ผม…...ผม……นั่นผมพูดไม่ทันคิดเอง…...ไม่…...ไม่ใช่…...นั่นผมแค่ตด…...พูดจาเหมือนหมาตด…..."
เย่เฉินโบกมือ:"ฮงหยวนซานคุณเป็นคนแก่อยู่แล้ว คุณใช้ประสบการณ์ของคุณมาวิเคราะห์เหตุการณ์ในวันนี้ดู คุณคิดว่าคุณคุกเข่าลงบนพื้น และขอร้องฉันสักสองสามคำ แล้วฉันพูดให้คุณอับอายขายหน้า เรื่องนี้ก็จะผ่านมาแบบนี้เลยเหรอ? คุณอยู่มาตั้งหลายปีแล้ว คงมีคนมาคุกเข่าอ้อนวอนคุณมากมายแน่นอน แล้วคุณทำยังไงล่ะ?"
เมื่อมองไปที่สีหน้าสยดสยองของเย่เฉิน ฮงหยวนซานรู้ดีในใจทันทีว่า เขาไม่สามารถเอาชีวิตรอดจากภัยพิบัติในวันนี้ได้อย่างแน่นอน
เมื่อคิดเช่นนี้ เขาถามเย่เฉินทั้งน้ำตา:"คุณเย่…...คุณ…...ต้องทำยังไงคุณถึงจะยอม?"
เย่เฉินเลิกคิ้ว และพูดนิ่ง ๆ :"ง่ายมาก ฉันอยากจะใช้วิธีหนามยอกเอาหนามบ่ง!"

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
ห๊า พระเอกไปเป็นหนี้พวกหล่อนตรงไหน พวกตัวเองชอบเย่เฉินเอง เย่เฉินไม่ได้บังคับ แล้วจะให้พระเอกคืนความรักให้พวกเอ็งเนี่ยน่ะ ส่วนพระเอกกุเห้นมึงก้ปวดใจกับผู้หญิงทุกคนแหละ -.-"...
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โง่ทั้งพระเอกทั้งหลิวม่านฉง ทำตัวเป้นเมียพระเอกสะงั้น จนต้องเลื่อนผ่านขก.อ่าน ขัดใจ พระเอกแม่งก้จะแคร์ผู้หญิงทั้งโลกเลยรึไง...
ไอหลิวท่านฉง ก้มั่นหน้าเกินน่ะ คิดว่าพระเอกจะชอบมึงรึไง เล่นตัว จะหลุด...
ตระกูลเฟ่ยแม่งก้น่าขยะแขยงกันทุกตัวแหละ มีแค่เฟ่ยเข่อขิน เป้นตระกุลเดียวที่ไม่อยากให้เย่เฉนร่วมมือด้วยเลยจริงๆ เฟ่ยเจี้ยนจงแม่งก้ไม่ใช่คนดีไรนักหรอก ปากก้เอาเครื่องสวรรค์มาอ้าง สุดท้ายก้อยากจะไว้ชีวิตหลานตัวเอง น่าขยะแขยง...
สะใจไอไรอันมากกก...
โง่ก็โง่อยุ่วันยันค่ำ แทนที่จะเอาเรื่องแจ้งความมาพูด ถ้าคน1,000คนแจ้งความ คนที่โดนจับก้คือพวก1,000คนเพราะพวกนี้มันก้รุ้ว่าคนในครอบครัวทำไรแต่ไม่ห้ามไม่แจ้งตำรวจ ถ้าตำรวจรู้ว่าพวกญาติรู้แต่ไม่แจ้งความ ก้โดนข้อหาสมรู้ร่วมคิดแล้ว และพวกนี้ก้ไม่มีหลักฐานเอาผิดเฟนหยุน แต่ดันคืดไม่ได้เนี่ยน่ะ แต่สนุกมาก เป้นนิยายเรื่องแรกที่ติดงอม แหละอินมาก 555...