เย่เฉินพยักหน้า และเอ่ยปากกล่าวว่า “คุณหลิวไม่ต้องลำบากขนาดนี้หรอก คุณม่านฉงพาฉันไปทานอาหารเย็นที่ดีมาก และฉันก็ไม่ทานอาหารมื้อดึกแล้ว อีกอย่างวันนี้มันก็ดึกแล้ว มีเรื่องอะไร พวกเราสามารถไปคุยกันที่บริษัทของท่านในวันพรุ่งนี้ได้”
หลิวเจียฮุยโบกมือและพูดว่า “ไม่เป็นไร เรื่องธุรกิจสามารถคุยกันได้เมื่อ วันพรุ่งนี้ให้ม่านฉงพาคุณไปเดินเที่ยวอีกสักหน่อยก็ได้ คนหนุ่มสาวอยู่ด้วยกันก็ต้องมีเรื่องพูดคุยร่วมกันมากมายอย่างแน่นอน”
หลังจากพูดจบ เขาก็รีบถามหลิวม่านฉงว่า “ม่านฉง ในวันพรุ่งนี้คุณน่าจะไม่ติดงานอะไรใช่ไหม? ถ้าไม่ติดงานอะไรก็อยู่เป็นเพื่อนกับคุณเย่ต่อไป”
หลิวม่านฉงแอบดีใจ และแทบจะตอบตกลงในทันที แต่เธอยังไม่ทันได้พูดอะไร เย่เฉินก็เอ่ยปากกล่าวโดยตรงว่า “คุณม่านฉงจะมีการขายเพื่อการกุศลในจิมซาจุ่ยในวันพรุ่งนี้ ฉันก็ไม่รบกวนเวลาของเธอแล้ว.........”
หลิวม่านฉงรู้สึกเสียใจเล็กน้อย
อันที่จริงเธออยากจะบอกว่า เรื่องที่ขายเพื่อการกุศลนั้น เธอสามารถบอกกล่าวกับเพื่อนร่วมชั้นได้ ไม่ต้องไปก็ไม่มีปัญหาอะไร
อย่างไรก็ตาม ในเมื่อเย่เฉินก็พูดอย่างนั้นแล้ว ตัวเองก็คงไม่สามารถพูดหักล้างอย่างหน้าด้านได้ ดังนั้นจึงทำได้เพียงพยักหน้าและพูดว่า “คุณพ่อ ในวันพรุ่งนี้ฉันมีธุระที่ต้องไปทำในที่จิมซาจุ่ย หลังจากเสร็จสิ้นแล้วฉันจะพาคุณเย่ไปทานข้าวเย็น ตอนกลางวันพวกพ่อก็คุยเรื่องธุรกิจกันเถอะ”
เมื่อเห็นเช่นนี้ หลิวเจียฮุยก็ทำได้เพียงต้องพยักหน้าและพูดว่า “โอเค งั้นในวันพรุ่งนี้ฉันก็จะพาคุณเย่ไปที่บริษัท ถ้าลูกเสร็จธุระแล้วก็มาหาเราที่บริษัทโดยตรง”
“โอเค” หลิวม่านฉงพยักหน้าเบาๆ
หลังจากที่ทั้งสามคนกลับถึงวิลล่าแล้ว หลิวเจียฮุยก็พูดกับเย่เฉินว่า “คุณเย่ วันนี้ก็ค่ำแล้ว ให้ม่านฉงพาคุณไปพักผ่อนที่ห้องรับแขก ฉันได้สั่งให้คนจัดห้องรับแขกเรียบร้อยแล้ว มันอยู่ตรงกันข้ามกับห้องของม่านฉงเลย”
เมื่อได้ยินเช่นนี้หลิวม่านฉงก็ประหลาดใจอย่างยิ่ง ห้องรับแขกของที่บ้านไม่ได้อยู่ชั้นเดียวกับห้องของตัวเองเลย และห้องตรงข้ามของห้องตัวเองก็เตรียมไว้สำหรับเพื่อต้อนรับเพื่อนสนิทมาเที่ยวที่บ้านโดยเฉพาะ
แต่ไม่คาดคิดว่า พ่อจะจัดห้องนี้ให้เย่เฉิน
“เร็วขนาดนี้เลยเหรอ?” หลิวเจียฮุยถามด้วยความประหลาดใจว่า “ไหนบอกว่ากระบวนการนี้อาจต้องรออีกสองวันไม่ใช่หรือ?”
ไอ้หมิงอธิบายว่า “ได้ยินมาว่ามีงานมากมายติดอยู่ในมือของผู้อพยพผิดกฎหมายอยู่ที่นั่น ดังนั้นจึงต้องเร่งดำเนินการ”
หลิวเจียฮุยรีบถามว่า “เครื่องบินจะถึงเกาะฮ่องกางตอนไหน?”
ไอ้หมิงบอกว่า “ประมาณบ่ายสองของวันพรุ่งนี้”
“โอเค! เยี่ยมมาก! มีแต่สิ่งดีๆ เกิดขึ้นในช่วงเวลานี้ ช่างเป็นความโชคดีที่ยิ่งใหญ่นัก!” หลิวเจียฮุยกล่าวด้วยความตื่นเต้นอย่างยิ่งว่า “เมื่อเขามาถึงตอนบ่ายสองในวันพรุ่งนี้ จะต้องถูกส่งมอบไปดำเนินกับด่านศุลกากรก่อนอย่างแน่นอน และหลังจากผ่านศุลกากรแล้วก็จะถูกปล่อยตัว และคาดว่าจะใช้เวลาไม่นานสักเท่าไหร่ ทันทีที่ไอ้สารเลวคนนั้นออกมาจากสนามบิน ชีวิตของเขาก็เข้าสู่การนับถอยหลังวินาทีสุดท้ายแล้ว!”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โง่ทั้งพระเอกทั้งหลิวม่านฉง ทำตัวเป้นเมียพระเอกสะงั้น จนต้องเลื่อนผ่านขก.อ่าน ขัดใจ พระเอกแม่งก้จะแคร์ผู้หญิงทั้งโลกเลยรึไง...
ไอหลิวท่านฉง ก้มั่นหน้าเกินน่ะ คิดว่าพระเอกจะชอบมึงรึไง เล่นตัว จะหลุด...
ตระกูลเฟ่ยแม่งก้น่าขยะแขยงกันทุกตัวแหละ มีแค่เฟ่ยเข่อขิน เป้นตระกุลเดียวที่ไม่อยากให้เย่เฉนร่วมมือด้วยเลยจริงๆ เฟ่ยเจี้ยนจงแม่งก้ไม่ใช่คนดีไรนักหรอก ปากก้เอาเครื่องสวรรค์มาอ้าง สุดท้ายก้อยากจะไว้ชีวิตหลานตัวเอง น่าขยะแขยง...
สะใจไอไรอันมากกก...
โง่ก็โง่อยุ่วันยันค่ำ แทนที่จะเอาเรื่องแจ้งความมาพูด ถ้าคน1,000คนแจ้งความ คนที่โดนจับก้คือพวก1,000คนเพราะพวกนี้มันก้รุ้ว่าคนในครอบครัวทำไรแต่ไม่ห้ามไม่แจ้งตำรวจ ถ้าตำรวจรู้ว่าพวกญาติรู้แต่ไม่แจ้งความ ก้โดนข้อหาสมรู้ร่วมคิดแล้ว และพวกนี้ก้ไม่มีหลักฐานเอาผิดเฟนหยุน แต่ดันคืดไม่ได้เนี่ยน่ะ แต่สนุกมาก เป้นนิยายเรื่องแรกที่ติดงอม แหละอินมาก 555...
ตอนนี้กุต้องมาอ่านละครลิงโง่ๆ ภายในตระกูลเซียวใช่ไหม กุต้องเลื่อนให้พ้นๆอ่ะ...