เมื่อได้ยินคำถามของเย่เฉิน หลิวเจียฮุยก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “คุณเย่ ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดของม่านฉงเจ้าเด็กคนนี้ ก็คือไม่เคยมีความรักมาก่อน”
เย่เฉินขมวดคิ้วและพูดว่า “คุณต้องการจะรื้อทำลายถนนคนเดิน เกี่ยวอะไรกับคุณม่านฉงที่ไม่เคยมีความรัก?”
หลิวเจียฮุยพูดอย่างเร่งรีบว่า “คุณดูสิ อย่ามองว่าเด็กคนนี้อายุเพียงแค่ยี่สิบปีในปีนี้ และเธอก็ถึงวัยที่ต้องแต่งงานแล้ว แต่ก็เพราะเธอไม่เคยมีความรักมาก่อน และอยู่ในสถานะความรักที่ว่างเปล่า ดังนั้นเธอจึงคิดถึงเรื่องเก่าๆ อยู่เสมอ เธออายุก็ยี่สิบกว่าปีแล้ว ยังทำตัวเหมือนในช่วงวัยรุ่นและยังคงไปกินข้าวที่ถนนคนเดินทุกวัน และออกไปเที่ยวเล่นกับพวกไม่เอาการเอางานเป็นวันๆ ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นว่าความว่างเปล่าทางอารมณ์ของเธอ ยังอยู่กับการคิดถึงแม่ของเธอมาช่วยเติมเต็ม”
เมื่อพูดเช่นนี้แล้ว หลิวเจียฮุยก็มองไปที่เย่ฉิน และพูดอย่างมีความหมายว่า “อันที่จริงแล้ว วิธีที่ดีที่สุดในตอนนี้ก็คือ ปล่อยให้เธอเติบโตขึ้นมาอย่างรวดเร็ว และปล่อยให้เธอไปมีความรักอย่างจริงจังสักครั้ง เมื่อเธอเริ่มมีความรัก ก็จะเติมเต็มความว่างทางอารมณ์ของเธอ มันก็จะเปลี่ยนไปเติมเต้มกับเด็กผู้ชายที่เธอรัก และเมื่อถึงตอนนั้น ถนนคนเดินทั้งสายนี้ก็ไม่มีความสำคัญสำหรับเธออีกต่อไปแล้ว”
เย่เฉินฮัมและพูดว่า “คุณหลิว ฉันได้ยินจากคุณม่านฉงว่า ถนนคนเดินสายนั้นคุณเป็นคนซื้อและมอบให้เธอ หากพูดกันตรงๆ ว่า นี่ก็คืออุตสาหกรรมของเธอ ถ้าจะรื้อถอนและพัฒนาใหม่ ควรต้องปรึกษาความเห็นของเธอก่อน”
หลิวเจียฮุยก็พอฟังออกว่าเย่เฉินค่อนข้างที่จะปกป้องหลิวม่านฉง และแทนที่จะโกรธ เขากลับมีความสุขอย่างยิ่ง
ดังนั้น เขาจึงมองไปที่เย่เฉิน และสัญญาอย่างจริงจังว่า “คุณเย่ไม่ต้องกังวล ฉันจะขอความเห็นชอบจากม่านฉงในเรื่องนี้อย่างแน่นอน และฉันไม่ต้องการที่จะรื้อมันทิ้งและสร้างใหม่ทันที รอให้ม่านฉงได้พบสามีที่ชื่นชอบของเธอ และเริ่มต้นชีวิตใหม่ของเธอเองแล้ว ถึงจะไปขอความเห็นจากเธอ”
หลังจากพูดไป เขาก็จงใจพูดอย่างจริงจังว่า “นอกจากนี้ ฉันได้วางแผนไว้แล้วว่า หุ้นทั้งหมดของฉันที่อยู่ในศูนย์กลางจะถูกใช้เป็นสินสอดทองหมั้นของม่านฉงในอนาคต ใครก็ตามที่แต่งงานกับเธอ จะได้เป็นเจ้านายของที่นี่!”
เย่เฉินยิ้ม และไม่พูดอะไร
เขารู้สึกว่า คำพูดของหลิวเจียฮุยน่าจะพูดให้ตัวเองฟังเท่านั้น เขาน่าจะวางแผนไว้นานแล้ว แม้ว่าหลิวม่านฉงจะไม่เห็นด้วย เขาก็จะไปตามทางของเขาในการพัฒนาขื้นใหม่
อย่างไรก็ตาม เย่เฉินไม่ได้สนใจดาราหญิงบนเกาะฮ่องกางเลย เขาโบกมือด้วยท่าทางเย็นชา และกล่าวว่า “ไม่เป็นไร คุณหลิว ฉันเคยได้ยินเกี่ยวกับความโกลาหลในแวดวงของคุณมาแล้ว และฉันเย่เฉินไม่กล้าที่จะพูดว่าออกจากโคลนดินโดยไม่ได้ปนเปื้อน แต่อย่างน้อยก็จะไม่กระโดดลงไปในส้วมซึมแน่นอน”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลิวเจียฮุยก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง โดยรู้ว่าเย่เฉินต้องดูหมิ่นดาราหญิงที่วุ่นวายในวงการบันเทิงแน่นอน เขาประจบผิดที่ไปโดนขาม้าโดยไม่ได้ตั้งใจ ดังนั้นเขาจึงพูดอย่างเขินอายว่า “คุณเย่เข้าใจผิดแล้ว” ความจริงแล้วฉันก็ไม่ผสมปนเปกันในแวดวงของพวกเขา ผมก็เหมือนกับคุณเย่ เป็นคนที่ค่อนข้างสงวนตัว!”
“เอาล่ะๆๆ” เย่เฉินพูดอย่างไม่เต็มใจ ส่ายหัวและหัวเราะ ทำให้หลิวเจียฮุยรู้สึกละอายใจเล็กน้อย
ในเวลานี้ ลิฟต์ระบุว่าถึงชั้นบนสุดแล้ว จากนั้นประตูลิฟต์ก็เปิดออก หลิวม่านฉงก็พูดอย่างประจบว่า “คุณเย่มา เชิญทางนี้ เราไปนั่งเล่นที่ออฟฟิศด้านล่างกันก่อน”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โง่ทั้งพระเอกทั้งหลิวม่านฉง ทำตัวเป้นเมียพระเอกสะงั้น จนต้องเลื่อนผ่านขก.อ่าน ขัดใจ พระเอกแม่งก้จะแคร์ผู้หญิงทั้งโลกเลยรึไง...
ไอหลิวท่านฉง ก้มั่นหน้าเกินน่ะ คิดว่าพระเอกจะชอบมึงรึไง เล่นตัว จะหลุด...
ตระกูลเฟ่ยแม่งก้น่าขยะแขยงกันทุกตัวแหละ มีแค่เฟ่ยเข่อขิน เป้นตระกุลเดียวที่ไม่อยากให้เย่เฉนร่วมมือด้วยเลยจริงๆ เฟ่ยเจี้ยนจงแม่งก้ไม่ใช่คนดีไรนักหรอก ปากก้เอาเครื่องสวรรค์มาอ้าง สุดท้ายก้อยากจะไว้ชีวิตหลานตัวเอง น่าขยะแขยง...
สะใจไอไรอันมากกก...
โง่ก็โง่อยุ่วันยันค่ำ แทนที่จะเอาเรื่องแจ้งความมาพูด ถ้าคน1,000คนแจ้งความ คนที่โดนจับก้คือพวก1,000คนเพราะพวกนี้มันก้รุ้ว่าคนในครอบครัวทำไรแต่ไม่ห้ามไม่แจ้งตำรวจ ถ้าตำรวจรู้ว่าพวกญาติรู้แต่ไม่แจ้งความ ก้โดนข้อหาสมรู้ร่วมคิดแล้ว และพวกนี้ก้ไม่มีหลักฐานเอาผิดเฟนหยุน แต่ดันคืดไม่ได้เนี่ยน่ะ แต่สนุกมาก เป้นนิยายเรื่องแรกที่ติดงอม แหละอินมาก 555...
ตอนนี้กุต้องมาอ่านละครลิงโง่ๆ ภายในตระกูลเซียวใช่ไหม กุต้องเลื่อนให้พ้นๆอ่ะ...