เซวียซือหยู่พยักหน้าเล็กน้อย และพูดอย่างอับอายว่า “ฉันก็ไม่ได้คาดคิดว่า หลังจากเซ็นต์สัญญาเข้าบริษัทแล้วจะได้รับคำขอดังกล่าว......แต่คุณหยางกล่าวแล้วว่า สัญญาของฉันเป็นสัญญานายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์แบบสิบปีเต็ม และบริษัทก็ได้จ่ายเงินล่วงหน้าหนึ่งล้านเหรียญฮ่องกงให้ฉันแล้ว และฉันต้องปฏิบัติตามข้อตกลงของบริษัท มิฉะนั้น บริษัทก็จะกีดกันฉัน และเมื่อถึงเวลานั้นฉันก็ไม่เพียงแต่จะไม่มีรายได้ แม้ฉันเองก็จะไม่สามารถหางานทำได้
เมื่อพูดอย่างนั้น น้ำตาของเซวียซือหยู่ก็ไหลรินลงมา และเธอก็สำลักและพูดว่า “ถ้าสัญญาถูกยกเลิก ฉันก็จะต้องชดใช้ค่าเสียหายที่ชำระแล้วเป็นยี่สิบเท่าให้กับบริษัท ฉันไม่สามารถเอาเงินออกมาได้มากขนาดนั้น ดังนั้นฉันจึงทำได้เพียงเชื่อฟังคำสั่งของหยางเท่านั้น........”
เย่เฉินขมวดคิ้วและถามว่า “ทำไมคุณถึงต้องการเงินหนึ่งล้านนี้ล่ะ? เจอปัญหาอะไรหรือเปล่า?”
เซวียซือหยู่พยักหน้าและพูดด้วยเสียงต่ำว่า “ตอนแรกฉันอยากจะเรียนต่อ แต่มีบางอย่างเกิดขึ้นกับครอบครัวของฉัน และติดหนี้ภายนอกเป็นจำนวนมาก ดังนั้นฉันจึงไม่สามารถเรียนต่อได้.......”
เมื่อพูดอย่างนั้น เซวียซือหยู่ก็พูดถึงเรื่องนี้อีกครั้งว่า “เดิมทีฉันวางแผนว่า จะหางานทำเงินเพื่อเลี้ยงดูครอบครัวทันทีหลังเรียนจบ และช่วยพ่อแม่ของฉันชำระหนี้นอกที่ค้างชำระโดยเร็วที่สุด แต่ไม่คิดว่า จะได้เจอกับคุณหยางอยู่บนถนนในโตเกียว เขาบอกว่าเขาจะเซ็นสัญญากับฉัน และปั้นให้ฉันเป็นนักร้องคนหนึ่ง”
“อีกอย่าง คุณหยางยังให้สัญญาค่าธรรมเนียมการเซ็นต์สัญญาหนึ่งล้านเหรียญฮ่องกง ค่าธรรมเนียมการเซ้นต์สัญญาก้อนนี้ มันเพียงพอสำหรับฉันที่จะช่วยครอบครัวของฉันแก้ไขวิกฤตทั้งหมดได้แล้ว ดังนั้นฉันจึงเซ็นต์ไปเลย........”
เย่เฉินยังคงถามต่อไปว่า “เขาได้เซ็นสัญญานายหน้าซื้อขายสิบปีเต็มกับคุณ และให้เงินเพียงหนึ่งล้านดอลลาร์ฮ่องกงงั้นเหรอ?”
เซวียซือหยู่รีบพูดว่า “ใช่......แต่สำหรับฉันแล้ว หนึ่งล้านมันก็มากพอแล้ว........และในเวลานั้นฉันก็ไม่มีทางเลือกอื่น........”
เย่เฉินพยักหน้า และถามว่า “ถ้าคุณไม่ต้องพิจารณาถึงค่าผิดสัญญา และก็หนี้สินในครอบครัว คุณอยากจะเป็นดารามากกว่า หรือไปเรียนต่อมากกว่า?”
เซวียซือหยู่พูดโพล่งออกมาโดยจิตสำนึกว่า “ฉันอยากจะไปเรียนต่อ......แม้ว่าฉันจะชื่นชอบดนตรี แต่ฉันก้ไม่เคยอยากเป็นดารา หลังจากเซ็นสัญญามาที่นี่แล้ว ฉันก็รู้เรื่องราววงในมากมายที่คนทั่วไปไม่รู้ในวงการนี้ ฉันรู้สึกว่าไม่สามารถเข้าไปปนเปื้อนอยู่กับพวกเขาได้หรอก หากมีโอกาสที่จะเลือกได้ ฉันยินดีจะกลับไปเรียนต่อ......”
ขณะที่เธอพูดอย่างนั้น น้ำตาของเธอก็ไหลออกมาเรื่อยๆ และเธอก็สำลักและกล่าวว่า “อันที่จริงฉันได้รับจดหมายตอบรับปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยโตเกียวแล้ว เพียงแต่.......เพียงแต่สถานการณ์ของฉันไม่เปิดโอกาสให้ฉันได้เรียนต่อ.......”
ในเวลานี้ เลขามารายงานอีกครั้งว่า “ท่านประธาน มีกลุ่มคนที่อยากพบท่านที่ชั้นล่าง และคนที่เป็นผู้นำบอกว่าเขาแซ่ฮง.......”
หยางเทียนหัวเราะ “ฮ่าฮ่า! คุณฮงมาถึงแล้ว! ยังไม่รีบให้คนไปเชิญขึ้นมาอีก!”
หลิวเจียฮุยเหลือบมองเขาด้วยความสงสาร และพูดอย่างจริงจังว่า “เทียนเซิง เสียใจตอนนี้ บางทีมันอาจจะยังไม่สายเกินไป.......”
“หยุดพูดเรื่องไร้สาระได้แล้ว!” หยางเทียนเซิงพูดอย่างโกรธเคืองว่า “ตอนนี้คุณอยากจะขอร้องอ้อนวอนแทนเจ้าเด็กคนนั้นเหรอ? มันสายเกินไปแล้ว!”
หลิวเจียฮุยพยักหน้า และพูดกับเลขานุการอย่างช่วยไม่ได้ว่า “โอเค เชิญให้พวกเขาขึ้นมาเถอะ.......”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โง่ทั้งพระเอกทั้งหลิวม่านฉง ทำตัวเป้นเมียพระเอกสะงั้น จนต้องเลื่อนผ่านขก.อ่าน ขัดใจ พระเอกแม่งก้จะแคร์ผู้หญิงทั้งโลกเลยรึไง...
ไอหลิวท่านฉง ก้มั่นหน้าเกินน่ะ คิดว่าพระเอกจะชอบมึงรึไง เล่นตัว จะหลุด...
ตระกูลเฟ่ยแม่งก้น่าขยะแขยงกันทุกตัวแหละ มีแค่เฟ่ยเข่อขิน เป้นตระกุลเดียวที่ไม่อยากให้เย่เฉนร่วมมือด้วยเลยจริงๆ เฟ่ยเจี้ยนจงแม่งก้ไม่ใช่คนดีไรนักหรอก ปากก้เอาเครื่องสวรรค์มาอ้าง สุดท้ายก้อยากจะไว้ชีวิตหลานตัวเอง น่าขยะแขยง...
สะใจไอไรอันมากกก...
โง่ก็โง่อยุ่วันยันค่ำ แทนที่จะเอาเรื่องแจ้งความมาพูด ถ้าคน1,000คนแจ้งความ คนที่โดนจับก้คือพวก1,000คนเพราะพวกนี้มันก้รุ้ว่าคนในครอบครัวทำไรแต่ไม่ห้ามไม่แจ้งตำรวจ ถ้าตำรวจรู้ว่าพวกญาติรู้แต่ไม่แจ้งความ ก้โดนข้อหาสมรู้ร่วมคิดแล้ว และพวกนี้ก้ไม่มีหลักฐานเอาผิดเฟนหยุน แต่ดันคืดไม่ได้เนี่ยน่ะ แต่สนุกมาก เป้นนิยายเรื่องแรกที่ติดงอม แหละอินมาก 555...
ตอนนี้กุต้องมาอ่านละครลิงโง่ๆ ภายในตระกูลเซียวใช่ไหม กุต้องเลื่อนให้พ้นๆอ่ะ...