เย่เฉินคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าเฟ่ยเข่อซินจะสังเกตได้ละเอียดยิบถึงเพียงนี้ อีกทั้งยังพิจารณาอย่างเหนือความคาดหมาย
ทว่า แม้ภายในใจเย่เฉินจะประหลาดใจ ครั้นก็ยังมีความรู้สึกขอบคุณแก่เฟ่ยเข่อซินด้วย
อันที่จริงเขาเองก็อยากพูดคุยกับหลิวม่านฉงดีๆ สักครั้งก่อนจะไปจากเกาะฮ่องกางมากเหมือนกัน ไม่ใช่หมายต้องการบังคับให้เธอต้องมาเข้าใจตน แต่อย่างน้อยๆ ก็ขอให้มีโอกาสได้กล่าวคำขอโทษต่อหน้าสักนิด
เพราะเย่เฉินรู้สึกผิดต่อหลิวม่านฉงอยู่ในใจแน่นอนอยู่แล้ว
ทว่า วันนี้ตอนบ่าย ขณะที่อยู่สนามบิน เมื่อเห็นว่าหลิวม่านฉงเหมือนจะผิดหวังกับตนมากๆ เย่เฉินก็ไม่รู้ว่าควรอธิบายกับเธออย่างไรดี เพราะถึงกระนั้น เธอจะยินยอมฟังคำอธิบายจากตนหรือไม่ก็ยังไม่อาจทราบได้
ประจวบกับอีกไม่นานก็ต้องกลับสหรัฐอเมริกาแล้ว เพราะฉะนั้นเย่เฉินลึกๆ ในใจก็มีความคิดที่อยากปล่อยให้เป็นไปตามยถากรรม
เขาคิดว่าเรื่องราวดำเนินไปถึงขั้นนี้แล้วก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงแก้ไขอะไรได้อีกเรื่องเลยไปแล้วก็ต้องปล่อยให้เลยตามเลย จะเป็นอย่างไรก็ให้มันเป็นไป แม้จะบอกว่าตนไม่ได้พูดความจริงกับหลิวม่านฉง ทว่าท้ายที่สุดแล้วตนก็เห็นแก่หน้าของหลิวม่านฉง ที่แสดงท่าทีเมตตากับหลิวเจียฮุย
เพียงแต่ว่า ขณะที่มายังสตรีทฟู้ดเส้นนี้อีกครั้ง ภายในใจของเย่เฉินกลับนึกถึงหลิวม่านฉงอย่างช่วยไม่ได้
เมื่อนึกขึ้นได้ ภายในใจของเย่เฉินก็มีความทุกข์ระทมอยู่บ้าง
ความรู้สึกเช่นนี้ คล้ายคลึงกับตอนที่เห็นนานาโกะถูกฉินเอ้าเสวี่ยนทำร้ายร่างกาย จากนั้นก็ถูกนำตัวกลับไปรักษาที่ญี่ปุ่นอย่างไรอย่างนั้น
แม้เย่เฉินจะไม่ใช่คนจิตใจดีที่เป็นห่วงเป็นใยผู้อื่น ทว่าไม่ใช่คนชั่วร้ายเช่นกัน หากมีความแค้น เขาก็จะต้องโต้กลับ หากมีบุญคุณ เขาจะต้องคืนกลับ หากมีความรู้สึกผิดแล้วไม่สามารถอธิบายชัดเจนได้ ภายในใจของเขาก็จะปล่อยวางไม่ได้ไปตลอด
ขณะที่กำลังคิดไปเรื่อยเปื่อย หลิวม่านฉงก็เดินมาอยู่เบื้องหน้าเรียบร้อย ภายในใจเย่เฉินรู้สึกลนลานเล็กน้อย ส่วนภายในใจหลิวม่านฉงยิ่งแล้วใหญ่
ดังนั้น เธอจึงติดต่อกับเฟ่ยเข่อซินเอง หมายนัดเฟ่ยเข่อซินออกมารับประทานอาหาร
ทว่าความคิดจริงๆ ของเธอ ก็คือต้องการคุยเรื่องเย่เฉินกับเฟ่ยเข่อซิน ทำความเข้าใจเกี่ยวกับตัวเย่เฉิน อีกอย่างก็ต้องการถือโอกาสสงบอารมณ์ของตัวเองด้วย รอหลังจากที่สงบจิตใจได้แล้ว ค่อยไปหาเย่เฉินเพื่อเปิดใจคุยกัน
ทว่าอยู่ๆ ก็มาเจอกับเย่เฉินที่นี่ ทันใดนั้นเธอก็สงบเสงี่ยมตัวเอง ไม่รู้ว่าควรจะทำลายบรรยากาศที่น่าอึดอัดระหว่างเย่เฉินอย่างไร
ผลสุดท้ายก็คือผู้หญิงฉลาดอย่างเฟ่ยเข่อซินเป็นผู้จัดการแก้ปัญหา
เธอคร้านที่จะอธิบายที่มาที่ไปเรื่องที่ทั้งสองคนมาอยู่ตรงนี้ได้ จึงยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า: “คุณหลิวและคุณเย่นี่ใจตรงกันจริงๆ เลยนะคะ ไม่นึกเลยว่าทั้งสองจะเลือกสถานที่นี้เหมือนกัน คงไม่ใช่ว่าหารือกันก่อนหน้านี้หรอกนะคะ?”
คำพูดหนึ่งประโยค ไม่เพียงแค่เปิดเผยเรื่องที่ตนจัดฉากให้ทั้งสองคน แถมยังเป็นการทำลายบรรยากาศอันน่าอึดอัดของระหว่างสองคนนี้ด้วยชั่วพริบตา

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โง่ทั้งพระเอกทั้งหลิวม่านฉง ทำตัวเป้นเมียพระเอกสะงั้น จนต้องเลื่อนผ่านขก.อ่าน ขัดใจ พระเอกแม่งก้จะแคร์ผู้หญิงทั้งโลกเลยรึไง...
ไอหลิวท่านฉง ก้มั่นหน้าเกินน่ะ คิดว่าพระเอกจะชอบมึงรึไง เล่นตัว จะหลุด...
ตระกูลเฟ่ยแม่งก้น่าขยะแขยงกันทุกตัวแหละ มีแค่เฟ่ยเข่อขิน เป้นตระกุลเดียวที่ไม่อยากให้เย่เฉนร่วมมือด้วยเลยจริงๆ เฟ่ยเจี้ยนจงแม่งก้ไม่ใช่คนดีไรนักหรอก ปากก้เอาเครื่องสวรรค์มาอ้าง สุดท้ายก้อยากจะไว้ชีวิตหลานตัวเอง น่าขยะแขยง...
สะใจไอไรอันมากกก...
โง่ก็โง่อยุ่วันยันค่ำ แทนที่จะเอาเรื่องแจ้งความมาพูด ถ้าคน1,000คนแจ้งความ คนที่โดนจับก้คือพวก1,000คนเพราะพวกนี้มันก้รุ้ว่าคนในครอบครัวทำไรแต่ไม่ห้ามไม่แจ้งตำรวจ ถ้าตำรวจรู้ว่าพวกญาติรู้แต่ไม่แจ้งความ ก้โดนข้อหาสมรู้ร่วมคิดแล้ว และพวกนี้ก้ไม่มีหลักฐานเอาผิดเฟนหยุน แต่ดันคืดไม่ได้เนี่ยน่ะ แต่สนุกมาก เป้นนิยายเรื่องแรกที่ติดงอม แหละอินมาก 555...
ตอนนี้กุต้องมาอ่านละครลิงโง่ๆ ภายในตระกูลเซียวใช่ไหม กุต้องเลื่อนให้พ้นๆอ่ะ...