“สี่ปี” เย่เฉินเอ่ย: “ตั้งแต่อายุสิบแปด ทำจนถึงยี่สิบสองปี”
หลิวม่านฉงตะลึงจนขีดสุด เธอรู้ว่าปีนี้เย่เฉินอายุยี่สิบแปดปี เพราะงั้นเลยอดไม่ได้ที่จะเบิกตากว้าง แล้วถามว่า: “เมื่อหกปีก่อนคุณยังทำงานที่ไซต์ก่อสร้างงั้นเหรอ?”
“ถูกต้อง” เย่เฉินอธิบายต่อว่า: “เมื่อหกปีก่อน ไซต์ที่ผมอยู่ได้รับงานก่อสร้างใหม่มา แล้วบังเอิญที่ไซต์ก่อสร้างได้รับการชื่นชมผลงานจากเถ้าแก่ฝั่งลูกค้า เขาดันทุรังจะให้ผมไปเรียนที่มหาวิทยาลัยให้ได้เป็นเวลาหนึ่งปีครั้ง จากนั้นก็ต้องการให้หลานสาวที่รักของเขาที่สุดแต่งงานกับผม...”
หลิวม่านฉงมองเย่เฉินอย่างอึ้งๆ พูดไม่ออก จึงถามว่า: “คุณไม่ได้ล้อเล่นกับฉันใช่ไหม? ทำไมเถ้าแก่คนนั้นถึงต้องดีกับคุณขนาดนี้ด้วย แถมยังต้องการให้หลานสาวของตัวเองแต่งงานกับคุณด้วย?”
เย่เฉินยิ้มเบาๆ เอ่ยว่า: “พูดไปก็บังเอิญมาก บรรพบุรุษของเขาเป็นคนใช้ของตระกูลเย่มาโดยตลอด เพราะงั้นก็เลยจำตัวตนของผมได้ แม้ตอนนั้นผมจะไม่มีอะไรเลย แต่เขาก็ยังอยากให้บ้านที่เป็นบ้านจริงๆ กับผม”
หลิวม่านฉง มองรอยยิ้มที่เข้าอกเข้าใจของเย่เฉิน รู้สึกว่าหัวใจของตนเต้นระรัวขึ้นกว่าเดิมเยอะมาก จากนั้นจึงเอ่ยถามเย่เฉินด้วยความกระส่ายกระสับ: “คุณ...คุณคงยังไม่รับปากหรอกใช่ไหม?”
“ใช่แล้ว ผมรับปากแล้ว” เย่เฉินเอ่ยอย่างไม่รู้สึกอะไร: “ผมในตอนนั้น ไม่มีอะไรเลย และผมก็ใช้ชีวิตลำบากมาพอแล้ว อยากจะมีบ้านเป็นของตัวเองเหมือนกัน”
ชั่ววินาทีนี้ หลิวม่านฉงรู้สึกเหมือนฟ้าผ่า!
เธอกักเก็บความเจ็บปวดในใจของตัวเองไว้ ถามเย่เฉินว่า: “เพราะงั้นคุณเคยแต่งงานแล้ว ใช่ไหมคะ?”
“ใช่ครับ” เย่เฉินเอ่ยอย่างราบเรียบ: “ตอนนั้นเขาให้ผมไปเรียนมหาลัย อันที่จริงก็คือให้ผมไปเรียนเป็นเพื่อนภรรยาผมจนจบ เมื่อภรรยาผมเรียนจบแล้ว พวกเราก็จัดงานแต่งงานกัน”
หลิวม่านฉงรู้สึกเพียงกรอบตาร้อนก่ำขึ้นมา สายตาก็เลือนรางขึ้นมา
เธอไม่คิดไม่ฝันเลยจริงๆ ว่าเย่เฉินจะแต่งงานแล้ว
เธอในเวลานี้ ไม่มีเวลาสนใจความเสียหายของโทรศัพท์เลยด้วยซ้ำ ความน้อยใจและความเศร้าโศกในใจ ทำให้เดิมทีที่กักเก็บไว้ลำบากมากอยู่แล้ว แทบจะอดน้ำตาไหลนองออกมาอีกครั้ง
เย่เฉินคิดไม่ถึงว่าหลิวม่านฉงก้มลงไปเก็บโทรศัพท์แล้วจะร้องไห้ จึงรีบถามว่า: “คุณม่านฉง ทำไมร้องไห้ล่ะ? เกิดอะไรขึ้น?”
หลิวม่านฉงใช้ดวงตาอันเลือนรางของตัวเองมองหน้าเขา เธอควบคุมน้ำตาไว้ไม่อยู่ จึงปล่อยโฮออกมาเสียเลย จากนั้นก็สะอื้นพูดว่า: “โทร...โทรศัพท์ของฉันหล่นพังน่ะค่ะ...”
เย่เฉินไม่ถือว่าเป็นคนฉลาดเรื่องความรัก
อย่ามองว่าเขาแต่งงานกับเซียวชูหรันมาสี่ปีแล้ว แต่เขาไม่เคยคบใครเป็นแฟนจริงๆ มาก่อนเลยสักครั้ง

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โง่ทั้งพระเอกทั้งหลิวม่านฉง ทำตัวเป้นเมียพระเอกสะงั้น จนต้องเลื่อนผ่านขก.อ่าน ขัดใจ พระเอกแม่งก้จะแคร์ผู้หญิงทั้งโลกเลยรึไง...
ไอหลิวท่านฉง ก้มั่นหน้าเกินน่ะ คิดว่าพระเอกจะชอบมึงรึไง เล่นตัว จะหลุด...
ตระกูลเฟ่ยแม่งก้น่าขยะแขยงกันทุกตัวแหละ มีแค่เฟ่ยเข่อขิน เป้นตระกุลเดียวที่ไม่อยากให้เย่เฉนร่วมมือด้วยเลยจริงๆ เฟ่ยเจี้ยนจงแม่งก้ไม่ใช่คนดีไรนักหรอก ปากก้เอาเครื่องสวรรค์มาอ้าง สุดท้ายก้อยากจะไว้ชีวิตหลานตัวเอง น่าขยะแขยง...
สะใจไอไรอันมากกก...
โง่ก็โง่อยุ่วันยันค่ำ แทนที่จะเอาเรื่องแจ้งความมาพูด ถ้าคน1,000คนแจ้งความ คนที่โดนจับก้คือพวก1,000คนเพราะพวกนี้มันก้รุ้ว่าคนในครอบครัวทำไรแต่ไม่ห้ามไม่แจ้งตำรวจ ถ้าตำรวจรู้ว่าพวกญาติรู้แต่ไม่แจ้งความ ก้โดนข้อหาสมรู้ร่วมคิดแล้ว และพวกนี้ก้ไม่มีหลักฐานเอาผิดเฟนหยุน แต่ดันคืดไม่ได้เนี่ยน่ะ แต่สนุกมาก เป้นนิยายเรื่องแรกที่ติดงอม แหละอินมาก 555...
ตอนนี้กุต้องมาอ่านละครลิงโง่ๆ ภายในตระกูลเซียวใช่ไหม กุต้องเลื่อนให้พ้นๆอ่ะ...