เฟ่ยเข่อซินได้ยินคำนี้ ทันใดนั้นก็เข้าใจว่าหลิวม่านฉงไม่ได้ร้องไห้เพราะว่าโทรศัพท์ตก
ดังนั้น เธอจึงพูดกับเย่เฉินว่า:“โอ๊ย คุณเย่ คุณนี่ไม่เข้าใจพวกผู้หญิงอย่างเราจริงๆ พวกผู้หญิงน่ะแรงการกระทำไม่แข็งแกร่งแบบผู้ชาย ดังนั้นคุณจะเสนอทางแก้ไขอย่างเดียวไม่ได้ คุณควรจะช่วยแก้ไขโดยตรง ฉันเห็นหน้าห้างสรรพสินค้าตรงถนนด้านตรงข้ามมีคนตั้งแผงลอยขายอุปกรณ์เสริมโทรศัพท์อะไรด้วย คุณรีบไปซื้อเคสโทรศัพท์ตามทรงโทรศัพท์ของคุณม่านฉงมาเถอะ”
เย่เฉินได้ยินคำนี้ ก็พูดอย่างไม่คิดเลยว่า:“โอเค คุณอยู่กับคุณม่านฉงนะ ผมจะไปซื้อเอง”
พูดไป ก็ลุกขึ้นวิ่งออกไป
พอเย่เฉินเดินไปไกลแล้ว เฟ่ยเข่อซินจึงจูงมือของหลิวม่านฉง ถามเธอด้วยรอยยิ้มว่า:“คุณรู้เรื่องที่ คุณเย่แต่งงานแล้วใช่ไหม?ไม่เป็นไร ฉันรู้นานแล้ว”
ร่างของหลิวม่านฉงสั่น เงยหน้าขึ้นมองเฟ่ยเข่อซิน พยักหน้าเบาๆ พูดอย่างน้อยเนื้อต่ำใจว่า:“ก่อนหน้านี้ที่เขาอยู่ที่นี่ไม่เคยบอกฉันเลย……”
เฟ่ยเข่อซินถาม:“เขาบอกคุณแล้วไงล่ะ?เขาบอกคุณ คุณก็จะไม่รักเขาแล้วงั้นหรือ?”
ถึงแม้เสียงของหลิวม่านฉงจะสะอึกสะอื้น แต่ก็พูดด้วยน้ำเสียงแน่วแน่:“ถ้าเขารีบบอกฉันหน่อย ฉันคงรักษาระยะห่างกับเขาตั้งแต่แรก ชีวิตนี้สิ่งที่ฉันเกลียดมากที่สุดก็คือมือที่สาม ถึงแม้ฉันจะรักเขาจริงๆ ฉันก็จะไม่เข้าใกล้เขาเด็ดขาด ……”
เฟ่ยเข่อซินพูดด้วยรอยยิ้ม:“คุณนี่นะ คิดมากไปแล้ว!คุณใสซื่อน่ารักแบบนี้ จะเป็นมือที่สามได้ไงล่ะ?”
หลิวม่านฉงถามอย่างไม่เข้าใจ:“เขาแต่งงานแล้ว ถ้าฉันเข้าใกล้เขา ก็เป็นมือที่สามไม่ใช่หรือคะ?นี่มันเกี่ยวอะไรกับ……ใสซื่อน่ารักงั้นหรือ……”
พูดไป เฟ่ยเข่อซินก็พูดเสริมไปอีกว่า:“ถ้าฉันไม่รักเขา ทำไมฉันถึงบินจากสหรัฐอเมริกามาที่นี่โดยไม่กลัวต่อความยากลำบากและอุปสรรคเลยล่ะ?”
“ฉันเพิ่งรับช่วงตระกูลเฟ่ย ต้องทำความคุ้นเคยกับหลายๆ เรื่อง ต้องเจอคนรับผิดชอบธุรกิจที่ไม่เหมือนกัน อ่านงบการเงินของบริษัทต่างๆ จัดแผนพัฒนาของบริษัทต่างๆ ทุกวัน ยุ่งจนตกอยู่ในสภาพกดดัน ถ้าไม่ใช่เพราะว่ามีเขาอยู่ในใจ ฉันจะทิ้งเรื่องสำคัญมากมายขนาดนั้น เพื่อมากินของข้างทางกับเขาที่เกาะฮ่องกางได้อย่างไร?ไม่ใช่เพราะว่าอยากเจอเขางั้นหรือ?”
“อ๋า?!”หลิวม่านฉงทำอะไรไม่ถูกเพราะเฟ่ยเข่อซินเลย เธอไม่เคยเห็นผู้หญิงที่ตรงไปตรงมาขนาดนี้ และก็ไม่เคยเห็นผู้หญิงที่ใจกว้างแบบนี้ด้วย
เธออดไม่ได้ที่จะถามว่า:“แต่คุณก็รู้นานแล้วไม่ใช่หรือว่าเขาเคยแต่งงานแล้ว……”
เฟ่ยเข่อซินได้ยินคำนี้ ก็พูดอย่างจริงจังว่า:“เขาแต่งหรือไม่แต่งเป็นเรื่องของเขา ฉันรักเขาหรือไม่เป็นเรื่องของฉัน อีกอย่าง รักแท้ถ้ามันมาจริงๆ แต่งหรือไม่แต่งหยุดได้ด้วยหรือ?”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โง่ทั้งพระเอกทั้งหลิวม่านฉง ทำตัวเป้นเมียพระเอกสะงั้น จนต้องเลื่อนผ่านขก.อ่าน ขัดใจ พระเอกแม่งก้จะแคร์ผู้หญิงทั้งโลกเลยรึไง...
ไอหลิวท่านฉง ก้มั่นหน้าเกินน่ะ คิดว่าพระเอกจะชอบมึงรึไง เล่นตัว จะหลุด...
ตระกูลเฟ่ยแม่งก้น่าขยะแขยงกันทุกตัวแหละ มีแค่เฟ่ยเข่อขิน เป้นตระกุลเดียวที่ไม่อยากให้เย่เฉนร่วมมือด้วยเลยจริงๆ เฟ่ยเจี้ยนจงแม่งก้ไม่ใช่คนดีไรนักหรอก ปากก้เอาเครื่องสวรรค์มาอ้าง สุดท้ายก้อยากจะไว้ชีวิตหลานตัวเอง น่าขยะแขยง...
สะใจไอไรอันมากกก...
โง่ก็โง่อยุ่วันยันค่ำ แทนที่จะเอาเรื่องแจ้งความมาพูด ถ้าคน1,000คนแจ้งความ คนที่โดนจับก้คือพวก1,000คนเพราะพวกนี้มันก้รุ้ว่าคนในครอบครัวทำไรแต่ไม่ห้ามไม่แจ้งตำรวจ ถ้าตำรวจรู้ว่าพวกญาติรู้แต่ไม่แจ้งความ ก้โดนข้อหาสมรู้ร่วมคิดแล้ว และพวกนี้ก้ไม่มีหลักฐานเอาผิดเฟนหยุน แต่ดันคืดไม่ได้เนี่ยน่ะ แต่สนุกมาก เป้นนิยายเรื่องแรกที่ติดงอม แหละอินมาก 555...
ตอนนี้กุต้องมาอ่านละครลิงโง่ๆ ภายในตระกูลเซียวใช่ไหม กุต้องเลื่อนให้พ้นๆอ่ะ...