ช่วงเวลาที่หม่าหลันมาที่สหรัฐอเมริกา เธอทำความคุ้นเคยกับเมืองพรอวิเดนซ์แล้ว ไม่เพียงแค่สามารถออกไปเดินเล่นและช้อปปิ้งด้วยตนเองได้เท่านั้น แต่ยังได้รู้จักผู้หญิงชาวหัวเซี่ยที่อาศัยอยู่ในพื้นที่มากมาย และสนิทกับพวกเธออย่างรวดเร็ว
เวลาเพียงไม่กี่วัน หม่าหลันเป็นสมาชิกของหลายกลุ่มแล้ว ตอนแรกเธอเข้าร่วมกลุ่มเต้นแอโรบิคในสนามที่จัดโดยกลุ่มหญิงชรา ทุกคืนเธอจะไปที่สวนสาธารณะใจกลางเมืองเพื่อเต้นแอโรบิคกับพวกเธอ หลังจากนั้นเธอก็ร่วมเป็นสมาชิกกลุ่มเดินวิบาก ซึ่งจัดโดยกลุ่มชายหญิงชาวหัวเซี่ยวัยกลางคน สวมชุดวอร์มเหมือนกันทุกวัน ตะโกนคำขวัญและเดินอย่างบ้าคลั่งบนถนนของพรอวิเดนซ์
หม่าหลันยังกำหนดตารางเวลาสำหรับตนเองอีกด้วย โดยบอกว่าเธอจะไปเต้นแอโรบิคทุกคืนวันจันทร์ วันพุธ วันศุกร์ และคืนวันอังคารกับวันเสาร์จะไปเดินวิบาก ส่วนวันอาทิตย์จะพักผ่อนอยู่ที่โรงแรม
คืนนี้ เป็นคืนที่จะไปเดินวิบาก
หลังจากทานอาหารเสร็จ หม่าหลันเช็ดปากและกล่าวกับเซียวชูหรันว่า “ชูหรัน แม่จะเปลี่ยนเสื้อแล้วจะไปเดินวิบาก ลูกจะไปด้วยกันไหม”
“หนูไม่ไปค่ะ” เซียวชูหรันส่ายศีรษะและกล่าวว่า “ห้องสูทที่เย่เฉินจองก็มีห้องออกกำลังกายขนาดเล็กแล้ว หากคุณแม่อยากเดินหรือวิ่ง คุณแม่ไม่จำเป็นต้องไปเดินกับกลุ่มเดินวิบากที่ถนนหรอก”
“ลูกไม่รู้อะไร?” หม่าหลันกล่าวอย่างจริงจัง “แม่ไปเพื่อเข้าสังคมเป็นหลัก แม่เพิ่งมาที่นี่ นอกจากลูกกับเย่เฉินแล้ว แม่ก็ไม่รู้จักใครเลย ลูกต้องไปเรียนทุกวัน ส่วนเย่เฉินก็ออกไปดูฮวงจุ้ยให้คนอื่น ปล่อยให้แม่อยู่ในห้องสูทขนาดใหญ่นี้คนเดียว ทำให้แม่รู้สึกแปลก ๆ ลูกจะอยู่ที่นี่อีกครึ่งเดือนกว่า ถ้าแม่ไม่ออกไปทำความรู้จักเพื่อน ต่อไปคงจะเบื่อแย่ ถ้าอยู่ที่เมืองจินหลิงก็ยังมีเฉียนหงเย่นเป็นเพื่อน พอมาอยู่ที่นี่ ไม่รู้จักใครสักคน มันน่าเบื่อจริง ๆ..... ”
เซียวชูหรันกล่าวด้วยความจำใจ “คุณแม่ เพิ่งมาที่นี่ไม่กี่วันเอง ก็เริ่มเบื่อที่นี่แล้ว.....ถ้ารู้แต่แรก ให้แม่อยู่ที่เมืองจินหลิงดีกว่า...”
เพื่อมาที่พรอวิเดนซ์แล้ว ทำให้หม่าหลันสูญเสียโอกาสพักอาศัยอยู่ในบ้านหรูและขับรถหรูตามลำพัง ซึ่งทำให้เธอเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง จึงกล่าวโพล่งออกมาโดยไม่รู้ตัว “แม่คิดอย่างนั้นจริง ๆ!”
หลังจากนั้น เธอรีบเปลี่ยนเรื่องและกล่าวว่า “แม่ไม่คุยกับลูกแล้ว ถึงเวลาเปลี่ยนเสื้อผ้าและไปรวมตัวกับกลุ่มเดินวิบากแล้ว
ขณะที่หม่าหลันกำลังจะไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องของตนเอง ทันใดนั้นเสียงกริ่งประตูก็ดังขึ้น
หม่าหลันกล่าวด้วยความไม่พอใจว่า “ติดป้ายห้ามรบกวนแล้วไม่ใช่เหรอ? ทำไมยังมากดกริ่งอีก น่ารำคาญจริง ๆ!”
หลังจากนั้น เธอก็เดินบ่นไปที่ประตู.......

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
ตอนนี้กุต้องมาอ่านละครลิงโง่ๆ ภายในตระกูลเซียวใช่ไหม กุต้องเลื่อนให้พ้นๆอ่ะ...
ขัดใจกับไแคนครอบครัว เซียวชูหรันชิบหาย ไม่ว่าใครก้โง่จนใสซื่อ ไอฉางควรก็ปิดแหก ไอหม่าหลันก็น่าเงิน สุดท้ายครอบครัวนี้แม่งไม่สมประกอบทุกตัว...
แทนทีจะแยกออกไปอยู่คนเดียว ถ้าก้เป้นฉางควนอยากอยู่กับรักแรกก้ต้องลงทุน แต่นี่มึงยังไม่กล้ากับหม่ากันเลย กลัวจนขึ้นมาสมอง แล้วหวังอยากจะอยุ่กับหานเหมยชิง อยากจะระลึกความหลัง เห้นแก่ตัวเกินไปไอห่า กลัวหม่าหลันแค่ตาย ปอดแหกแบบนี้มึงก้อยุ่กับอีหม่าหลันไปเถอะ สมน้ำหน้าแบ่งทำเพื่อรักแรกมึงยังไม่กล้าทำเลย แล้วหวังจะอยุ่กับเหมยชิง...
ไอเซียวฉาวควนแม่งมาหวงก้างจัด เฮ่อกับหารเหม่ยชิงโครตเหมาะกันอยากให้2คนนี้คบกันมาก ไอเซียวฉางควนกับอีแค่หม่าหลันมคงยังไม่กล้า แล้วนยังจะคิดอยุ่กับหานเหม่อยชิง มึงปอดแหกแบบนี้มึงก้ไม่มีวันสมหวังหรอก ไอโง่...
ผญ.เรื่องนี้แม่งหลงตัวเองทั้ง มีแค่ตงเสวี่นร ชูกรัน กูซิวอี๋ นอกนั้นหลงตัวเองชิบหาย...
นิยายเรื่องนี้สร้างเป็นละครสั้นหรือยัง...
อัพเดตตอนใหม่ทีครับ...
อ่านมาจะ4พันตอนละพระนางยังไม่ำด้กันเลย นิสัยพระเอกก็สุดๆยังดีเนื้อเรื่องสนุก...
อ่านต่อได้ตรงไหนครับ...
สงสารหวังเจิ้งกาง หลังจากมอบบ้านมอบรถให้เย่เฉิน ก้ไม่เห็นเยเฉินพูดถึงเลย เหมือนเป็นตัวประกอบ ตอนแรกๆ 555...