ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน นิยาย บท 4589

สรุปบท บทที่ 4589 ตั้งหน้าตั้งตารอ: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

ตอน บทที่ 4589 ตั้งหน้าตั้งตารอ จาก ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 4589 ตั้งหน้าตั้งตารอ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายนิยาย จีน ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน ที่เขียนโดย เมฆทอง เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

หลังจากนั้น เธอวิเคราะห์อย่างจริงจังว่า “ที่รัก คุณคิดดูสิ ฉันรู้จักนิสัยของคุณแม่ดีที่สุด และคุณก็น่าจะรู้เช่นกัน คุณแม่เป็นคนที่ชอบโอ้อวด อย่าพูดถึงว่าคุณมอบสร้อยคอให้คุณแม่หนึ่งเส้น แค่คุณมอบโซฟาที่แพง ๆ ให้คุณแม่ คุณแม่ก็แทบอยากจะลากออกไปโชว์กลางถนน แต่เมื่อสักครู่คุณมอบสร้อยคอราคาแพงให้คุณแม่ นึกไม่ถึงว่าคุณแม่จะไม่สวมทันที แต่กลับเก็บมันไว้เอาไว้.....นี่.....นี่มันไม่แปลกเหรอ?”

เมื่อเย่เฉินได้ยินการวิเคราะห์ของเซียวชูหรันแล้ว เขาอดไม่ได้ที่จะชื่นชมภรรยาที่โง่เขลาของตนเอง

ดูเหมือนว่าเซียวชูหรันจะรู้จักแม่ของตนเองเป็นอย่างดี ด้วยนิสัยของหม่าหลันแล้ว เมื่อเธอมีของมีค่าแล้วจะเก็บไว้ มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้

ดังนั้น เมื่อสักครู่หม่าหลันเก็บสร้อยคอที่ตนเองมอบให้อย่างระมัดระวัง สำหรับเธอแล้วการกระทำเช่นนี้ค่อนข้างจะผิดปกติ

แต่เย่เฉินรู้อย่างชัดเจนว่าทำไมหม่าหลันถึงทำเช่นนั้น

เหตุผลไม่มีอะไรมากไปกว่าคำพูดเมื่อสักครู่ของตนเอง ที่บอกว่ายิ่งสภาพดี ขายมือสองก็จะได้ราคาดียิ่งขึ้น

เดาว่าหม่าหลันเสียดายที่จะใส่ ต้องการนำมันกลับในสภาพสินค้าใหม่ เพื่อจะขายได้ราคาดีขึ้น

ดังนั้นเย่เฉินกล่าวกับเซียวชูหรันด้วยรอยยิ้มว่า “ผมวิเคราะห์แล้ว คุณแม่อาจคิดว่าตอนนี้เวลาค่ำแล้ว ถึงแม้ว่าจะใส่ออกไปคนอื่นก็มองไม่ออก อีกอย่างคุณแม่ไปที่กลุ่มเดินวิบากอาจจะต้องเคลื่อนไหวมาก ซึ่งไม่เหมาะกับการสวมใส่เครื่องประดับ คุณอย่าคิดมาก”

เซียวชูหรันส่ายศีรษะและกล่าวอย่างจริงจัง “ฉันคิดว่าเรื่องมันไม่ง่ายขนาดนั้น คุณคอยดูสิว่าพรุ่งนี้คุณแม่จะสวมสร้อยเส้นนั้นไหม ถ้าพรุ่งนี้คุณแม่ไม่สวม ฉันเดาว่าคุณแม่อยากจะขายสร้อยคอเส้นนั้นอย่างแน่นอน”

เย่เฉินคิดไม่ถึงว่าเซียวชูหรันจะทำนายหม่าหลันได้แม่นยำขนาดนี้ เขาจึงกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “คุณอย่าคิดมากขนาดนั้น ในเมื่อผมมอบให้คุณแม่แล้ว คุณแม่จะทำอย่างไรมันก็เป็นสิทธิ์ของคุณแม่ พวกเราไม่มีสิทธิ์ยุ่ง”

นับตั้งแต่ตอนที่เฟ่ยเข่อซินกับเย่เฉินนั่งเครื่องบินจากเกาะฮ่องกง เฟ่ยเจี้ยนจงก็ตั้งหน้าตั้งตารออยู่ที่บ้านอย่างใจจดใจจ่อ และรอเป็นเวลาทั้งวัน

ถึงแม้ว่าเฟ่ยเจี้ยนจงอาศัยยาช่วยหัวใจครึ่งเม็ดที่เย่เฉินมอบให้จนสามารถช่วยชีวิตตนเองเอาไว้ได้ แต่เขารู้อย่างชัดเจนว่าตอนนั้นตนเองกำลังจะตาย ประสิทธิภาพของยามากกว่าครึ่งเป็นการช่วยชีวิต ไม่ใช่ช่วยยืดชีวิต

นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมตอนนั้นเย่เฉินจึงกล่าวว่ายาเม็ดครึ่งเม็ดสามารถทำให้เขามีชีวิตอยู่ได้อีกหนึ่งปี อย่างมากที่สุดก็สองปี

เป็นเพราะเหตุนี้เอง ทำให้เฟ่ยเจี้ยนจงได้เริ่มนับถอยหลังชีวิตของตนเอง เขาตั้งความหวังส่วนใหญ่ไว้ที่การประมูลยาอายุวัฒนะในปีหน้า แต่เขายังคงกังวลเรื่องนี้มาก

เพราะตอนนี้ตนเองไม่ใช่ผู้นำตระกูลเฟ่ยแล้ว เมื่อก่อนตอนที่ตนเองเป็นผู้นำตระกูลเฟ่ย ก็ยังไม่สามารถประมูลยาอายุวัฒนะได้สำเร็จ ตอนนี้ตนเองได้สละตำแหน่งแล้ว สถานการณ์ปีหน้ายังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน