หม่าหลันอดที่จะรำพึงรำพันในใจไม่ได้ว่า “มนุษย์เรานี่ช่างแตกต่างกันมากจริงๆ! แค่ฉันได้สะพายกระเป๋าแอร์แมสรุ่นทั่วไป และนั่งเครื่องบินส่วนตัวก็คลั่งไม่ไหวแล้ว แต่เธอที่มีทรัพย์สินตั้งพันล้าน กลับถ่อมตัวขนาดนี้”
ในระหว่างที่ทอดถอนหายใจอยู่นั้น จู่ๆหม่าหลันก็คิดอะไรขึ้นมาได้ จึงแอบงึมงำว่า “เธอรวยขนาดนี้ ทำไมไม่นั่งเครื่องบินส่วนตัวล่ะ?”
คิดมาถึงตรงนี้ หม่าหลันก็เตรียมที่จะถาม
ไม่ใช่ว่าเธอเคลือบแคลงเรื่องฐานะของจงชิวฮวา แต่เธอแค่รู้สึกว่า ถ้าอีกฝ่ายมีเครื่องบินส่วนตัว หรือเช่าเหมาลำเครื่องบินส่วนตัวได้จริงๆ เธอพอจะเกาะๆไปกับอีกฝ่ายได้ไหมนะ?
ในตอนที่หม่าหลันกำลังจะถามนั้น อีกฝ่ายก็ส่งข้อความมาอีก หม่าหลันรีบกดเข้าไป อีกฝ่ายส่งข้อความเสียงมาว่า “ไอ้หยา ไหนๆคุณก็เป็นเพื่อนของพี่เฉินแล้ว ฉันก็ว่าจะพาคุณนั่งเครื่องบินส่วนตัวกลับด้วยกันอยู่ แบบนี้จะได้ไม่ต้องเมื่อยระหว่างเดินทางมาก สำหรับฉันแล้ว พาขึ้นเครื่องบินส่วนตัวหนึ่งคนหรือสองคนก็เหมือนๆกัน เพียงแต่ว่าเวลามันไม่เป็นใจเท่าไหร่ เครื่องบินของฉันครบกำหนดซ่อมบำรุงพอดี ตอนนี้เอาไปเข้าอู่ที่จอร์เจียแล้ว แถมช่วงนี้ที่บริษัทกัลฟ์สตรีมมีเครื่องบินรอซ่อมบำรุงอยู่เยอะ ก็เลยยังเอากลับมาไม่ได้”
เมื่อหม่าหลันได้ยินประโยคนี้ ในใจก็รู้สึกผิดหวังนิดหน่อย แต่ขณะเดียวกันก็รู้สึกว่าอีกฝ่ายเงินหนามากๆจริง ถึงขนาดมีเครื่องบินส่วนตัวเป็นของตัวเอง คนธรรมดาที่ไหนจะมีแบบนี้กัน
เมื่อนึกขึ้นมาได้ว่าอีกฝ่ายพูดถึงบริษัทกัลฟ์สตรีม เธอก็พูดขึ้นมายิ้มๆว่า “ว้าวเครื่องบินส่วนตัวของคุณคือรุ่นกัลฟ์สตรีมเหมือนกันเหรอ? ฉันมาอเมริกาครั้งนี้ ก็นั่งกัลฟ์สตรีมG650มาจากเมืองจินหลิงเหมือนกัน เครื่องบินลำนั้นไม่เลวเลย บินเร็วแล้วก็นิ่ง อีกอย่างสภาพแวดล้อมภายในตัวเครื่องก็ดีสุดๆ!”
อีกฝ่ายพูดยิ้มๆ “ไม่ถึงดีสุดๆหรอก ในเครื่องบินส่วนตัว ก็แค่กลางๆ”
ขณะที่พูด อีกฝ่ายก็กล่าวเสริมว่า “ขอโทษนะหม่าหลัน ฉันมีธุระนิดหน่อย พอดีเจ้าหน้าที่ธนาคารซิตี้แบงค์มาเยี่ยมที่บ้านน่ะ ฉันต้องออกไปต้อนรับสักหน่อย เอาไว้คุณมาถึงนิวยอร์กแล้วเดี๋ยวค่อยคุยกันอีกทีนะ!”
หม่าหลันได้ยินแบบนั้น ก็ยิ่งรู้สึกนับถือเธอมากกว่าเดิม
หน้าไทม์ไลน์ของผู้หญิงคนนี้ แทบจะมีแต่รูปท่องเที่ยว ทั้งเที่ยวภูเขาเที่ยวทะเล และเที่ยวคลับ
มีทั้งรูปที่อีกฝ่ายถ่ายบนเครื่องบินส่วนตัว ทั้งรูปที่ถ่ายบนเรือสำราญ ยังมีรูปขี่ม้า ตีกอล์ฟ และรูปท่องเที่ยวในประเทศต่างๆ
ถึงขนาดที่ว่า นั่งเรือวิจัยไปที่ขั้วโลกเหนือ!
เมื่อหม่าหลันเห็นอีกฝ่ายใช้ชีวิตอย่างมีสีสัน ก็อดพึมพำขึ้นมาในใจไม่ได้ว่า “ให้ตาย เกิดมามีชาติเดียวเหมือนกันแท้ๆ ทำไมอีกฝ่ายใช้ชีวิตได้อย่างโอ่อ่า แต่ฉันกลับต้องมาเสียเวลาชีวิตอยู่กับคนไม่ได้เรื่องอย่างเซียวฉางควาน จนช่วงเวลาดีๆของชีวิตหดหายไปหมด….”
ขณะที่กำลังโอดครวญอยู่นั้น หม่าหลันไม่รู้ตัวเลยว่า ตัวเองตกหลุมกับดักการสร้างสถานการณ์เข้าให้แล้ว

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
หม่าหลันมันไม่ได้ไร้เดียงสาต่อโลกหรอก แต่เขียนให้ถูกคือหม่าหลันมันโง่นั้นเอง เข้ามหาลัยมีชื่อเสียงได้ไง โง่ดักดานขนาดนี้ อาจารย์ที่เขียน ก้เขียนให้อีหม่าหลันดูดีเกิ้น 555...
เอาตรงๆน่ะ ผมชอบที่พระเอกมีสาวมาติด แบบเป็นปกติ หลงรักพระเอกโงหัวไม่ขึ้นผมไม่ขัดใจหรอก มาขัดใจตอนคือแบบผญ เรื่องนี้มีนลุกหนักเกินไป จนทำใจอ่านแล้วขัดใจ ถ้าลุกพอประมาณแบบนี้คืออ่านสนุกเว่อร์ แต่นี่อ่อยหนักจนเกิน เกิดอาการขัดใจสุดๆ 555...
ห๊า พระเอกไปเป็นหนี้พวกหล่อนตรงไหน พวกตัวเองชอบเย่เฉินเอง เย่เฉินไม่ได้บังคับ แล้วจะให้พระเอกคืนความรักให้พวกเอ็งเนี่ยน่ะ ส่วนพระเอกกุเห้นมึงก้ปวดใจกับผู้หญิงทุกคนแหละ -.-"...
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โง่ทั้งพระเอกทั้งหลิวม่านฉง ทำตัวเป้นเมียพระเอกสะงั้น จนต้องเลื่อนผ่านขก.อ่าน ขัดใจ พระเอกแม่งก้จะแคร์ผู้หญิงทั้งโลกเลยรึไง...
ไอหลิวท่านฉง ก้มั่นหน้าเกินน่ะ คิดว่าพระเอกจะชอบมึงรึไง เล่นตัว จะหลุด...
ตระกูลเฟ่ยแม่งก้น่าขยะแขยงกันทุกตัวแหละ มีแค่เฟ่ยเข่อขิน เป้นตระกุลเดียวที่ไม่อยากให้เย่เฉนร่วมมือด้วยเลยจริงๆ เฟ่ยเจี้ยนจงแม่งก้ไม่ใช่คนดีไรนักหรอก ปากก้เอาเครื่องสวรรค์มาอ้าง สุดท้ายก้อยากจะไว้ชีวิตหลานตัวเอง น่าขยะแขยง...