เฟ่ยเจี้ยนจงรีบกล่าว “ไม่มีปัญหา งั้นเรียนเชิญคุณเย่ที่ห้องหนังสือ!”
ต่อมา เฟ่ยเข่อซินก็พยุงเฟ่ยเจี้ยนจง เดินเข้าไปในคฤหาสน์พร้อมเย่เฉิน
คนอื่นๆที่เหลือ ยังคงยืนอยู่กับที่
พวกเขารู้ ที่เย่เฉินมาหาคุณท่านเฟ่ยและเฟ่ยเข่อซินต้องมีเรื่องจะพูดแน่นอน พวกเขาไม่มีสิทธิ์ตามเข้าไปอยู่แล้ว และตั้งแต่ที่เฟ่ยฮ่าวหยางถูกเล่นงานจนตาย เย่เฉินในสายตาของคนตระกูลเฟ่น ก็ได้กลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่เหนือธรรมชาติ ดังนั้นพวกเขาจึงยืนอยู่กับที่โดยไม่ได้นัดหมาย รอจนกว่าเย่เฉินจะออกมา และส่งเขากลับบ้านพร้อมทำความเคารพ
ด้านเย่เฉิน มาถึงห้องหนังสือพร้อมสองปู่หลาน
เมื่อทั้งสามเดินมาถึงโต๊ะหนังสือราคาแพง เฟ่ยเจี้ยนจงก็เ่อยแนะนำว่า “คุณเย่ ปัจจุบันเฟ่ยเข่อซินเป็นผู้นำตระกูลแล้ว ตำแหน่งเจ้าของโต๊ะตัวนี้ ผมก็มอบให้เธอแล้ว เพราะงั้นเรียนเชิญคุณนั่งที่นั่งสำหรับแขกตรงข้ามเข่อซินได้เลย!”
เย่เฉินพยักหน้าเบาๆ เขาเข้าใจความหมายที่คุณท่านเฟ่ยจะสื่อ ไม่มีอะไรมากไปกว่าการอยากบอกเขาว่า ตอนนี้อีกฝ่ายได้มอบทุกอำนาจทุกอย่างในตระกูลเฟ่ยให้เฟ่ยเข่อซินหมดแล้ว
ตำแหน่งที่นั่งของโต๊ะหนังสือตัวนี้มีลำดับความสำคัญ เนื่องจากตำแหน่งที่นั่งของเจ้าบ้านเป็นที่นั่งสำหรับแค่คนเดียว ดังนั้นเมื่อเปรียบเทียบกับที่นั่งของแขกตรงข้ามจึงถือว่ากว้างกว่ามาก แถมยังอยู่สูงกว่าด้วย
การออกแบบในลักษณะนี้ เป็นการออกแบบให้เหมือนบัลลังก์ของจักรพรรดิ เพื่อแสดงให้เห็นถึงตำแหน่งผู้นำตระกูล
ในตอนนี้เองเฟ่ยเข่อซินก็พูดออกมาอย่างประหม่าว่า “คุณเย่ คุณก็อยู่ด้วย เข่อซินจะกล้านั่งสูงกว่าคุณได้ยังไง…..เรียนเชิญคุณนั่งในตำแหน่งผู้นำตระกูลเถอะ”
เย่เฉินยิ้มออกมาเล็กน้อย โบกมือเบาๆพร้อมกับเอ่ยว่า “คุณเป็นผู้นำของตระกูลนี้ ไม่ว่าใครมาก็เหมือนกันหมดนั่นแหละ คุณใหญ่ที่สุดที่นี่ ผมเป็นแค่แขกไม่กล้าถือสิทธิ์แสดงบทบาทเจ้าบ้านหรอก”
ดังนั้น เขาจึงอดถามเย่เฉินขึ้นมาไม่ได้ว่า “คุณเย่ ไม่ทราบว่าที่คุณมาในวันนี้ มีเรื่องอะไรหรือเปล่า?”
เย่เฉินยิ้มออกมาบางๆ “ระยะนี้ผมได้รับความช่วยเหลือจากเข่อซินและตระกูลเฟ่ยมาไม่น้อยเลย ทั้งช่วยผมจัดการสะสางเรื่องต่างๆให้ ผมมาในครั้งนี้ หลักๆแล้วก็เพื่อมาขอบคุณถึงที่”
เฟ่ยเข่อซินรีบเอ่ยขึ้น “คุณเย่….การที่ได้ช่วยเหลือคุณ ถือเป็นเกียรติของตระกูลเฟ่ยยิ่งนัก จะคู่ควรได้รับคำขอบคุณของคุณได้ยังไง…..”
เย่เฉินโบกมือ “ได้รับความช่วยเหลือจากใคร ก็ต้องขอบคุณทั้งนั้น นี่คือคำสอนที่พ่อแม่สอนผมมาตั้งแต่เด็ก”
ขณะที่พูด เขาก็หันไปมองเฟ่ยเจี้ยนจง เอ่ยพูดอย่างจริงจังว่า “คุณท่านเฟ่ย ตั้งแต่ที่กลับมาจากเกาะฮ่องกาง ผมเคยถามคุณเฟ่ย ว่ามีอะไรให้ผมช่วยไหม เธอบอกว่า นอกจากเป็นห่วงเรื่องสุขภาพของคุณท่านแล้ว เธอก็ไม่มีเรื่องอื่นให้ทุกข์ใจ ดังนั้นที่ผมมาในครั้งนี้ ก็เพื่อทำตามความปรารถนาของคุณเฟ่ย มาเพื่อแก้ปัญหาที่ตามติดตัวมาตลอดให้คุณ”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
ตอนนี้กุต้องมาอ่านละครลิงโง่ๆ ภายในตระกูลเซียวใช่ไหม กุต้องเลื่อนให้พ้นๆอ่ะ...
ขัดใจกับไแคนครอบครัว เซียวชูหรันชิบหาย ไม่ว่าใครก้โง่จนใสซื่อ ไอฉางควรก็ปิดแหก ไอหม่าหลันก็น่าเงิน สุดท้ายครอบครัวนี้แม่งไม่สมประกอบทุกตัว...
แทนทีจะแยกออกไปอยู่คนเดียว ถ้าก้เป้นฉางควนอยากอยู่กับรักแรกก้ต้องลงทุน แต่นี่มึงยังไม่กล้ากับหม่ากันเลย กลัวจนขึ้นมาสมอง แล้วหวังอยากจะอยุ่กับหานเหมยชิง อยากจะระลึกความหลัง เห้นแก่ตัวเกินไปไอห่า กลัวหม่าหลันแค่ตาย ปอดแหกแบบนี้มึงก้อยุ่กับอีหม่าหลันไปเถอะ สมน้ำหน้าแบ่งทำเพื่อรักแรกมึงยังไม่กล้าทำเลย แล้วหวังจะอยุ่กับเหมยชิง...
ไอเซียวฉาวควนแม่งมาหวงก้างจัด เฮ่อกับหารเหม่ยชิงโครตเหมาะกันอยากให้2คนนี้คบกันมาก ไอเซียวฉางควนกับอีแค่หม่าหลันมคงยังไม่กล้า แล้วนยังจะคิดอยุ่กับหานเหม่อยชิง มึงปอดแหกแบบนี้มึงก้ไม่มีวันสมหวังหรอก ไอโง่...
ผญ.เรื่องนี้แม่งหลงตัวเองทั้ง มีแค่ตงเสวี่นร ชูกรัน กูซิวอี๋ นอกนั้นหลงตัวเองชิบหาย...
นิยายเรื่องนี้สร้างเป็นละครสั้นหรือยัง...
อัพเดตตอนใหม่ทีครับ...
อ่านมาจะ4พันตอนละพระนางยังไม่ำด้กันเลย นิสัยพระเอกก็สุดๆยังดีเนื้อเรื่องสนุก...
อ่านต่อได้ตรงไหนครับ...
สงสารหวังเจิ้งกาง หลังจากมอบบ้านมอบรถให้เย่เฉิน ก้ไม่เห็นเยเฉินพูดถึงเลย เหมือนเป็นตัวประกอบ ตอนแรกๆ 555...