เฟ่ยเข่อซินฟังมาถึงตรงนี้ ก็รู้ว่าเย่เฉินต้องการที่จะตอบแทนน้ำใจเธอ
ส่วนเฟ่ยเจี้ยนจงเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ ก็ยิ่งรู้สึกประทับใจและยอมรับหลานสาวคนนี้มากขึ้น
นอกจากนี้ สิ่งที่เขาคาดหวังมากยิ่งกว่าก็คือท่าทีต่อไปของเย่เฉิน เขาไม่หวังว่าเย่เฉินจะให้ยาอายุวัฒนะกับเขาอยู่แล้ว แต่กับยาช่วยหัวใจ เขาก็แอบหวังอยู่นิดหน่อย
ในตอนที่เขากำลังลุ้นอยู่นั้น เย่เฉินก็เอ่ยพูดขึ้นมาว่า “คุณท่านเฟ่ย เราก็รู้จักกันมานานถือว่าคุ้นเคยกันแล้ว ดังนั้นผมจะไม่อ้อมค้อมเลยแล้วกัน ในเมื่อสิ่งที่คุณเฟ่ยเป็นห่วงมากที่สุดคือปัญหาเรื่องสุขภาพของคุณ เพราะงั้นวันนี้ ผมเย่เฉินคนนี้ขอประกาศไว้ ณ ที่นี่ว่า ถ้าคุณสนับสนุนให้การช่วยเหลือคุณเฟ่ยดูแลตระกูลเฟ่ยอย่างดี เพื่อเป็นการตอบแทน นอกจากผมจะให้คุณผ่อนจ่ายยาอายุวัฒนะแล้ว ก็จะคุ้มครองคุณไปอีกสิบปีด้วย!”
ชั่วขณะนั้นเฟ่ยเจี้ยนจงก็ตื่นเต้นขึ้นมาในทันที ก่อนหน้านี้เขาซื้อยาอายุวัฒนะแบบแบ่งขายหนึ่งส่วนสี่ยังสามารถยืดอายุตัวเองได้ตั้งหลายปี ถ้าบวกเพิ่มกับสิบปีที่เย่เฉินให้มา แบบนั้นก็ไม่ใช่ว่าเขาจะสามารถอยู่ต่อได้อีกอย่างน้อยยี่สิบปีเลยเหรอ?!
คิดมาถึงตรงนี้ เขาก็รีบพูดว่า “คุณ…..คุณเย่……คุณพูด….พูดจริงเหรอ?!”
เย่เฉินพยักหน้า กล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “คนอย่างผม พูดคำไหนคำนั้น”
ชั่วขณะนั้นน้ำตาของเฟ่ยเจี้ยนจงก็ไหลพรากเป็นทาง
โควต้าสิบปี สำหรับเขาแล้ว มันเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่เทียบเท่าภูเขาเลย!
ดังนั้น เขาจึงยืนขึ้น ประกบมือทั้งสองข้างเข้าหากัน แล้วเอ่ยอย่างนอบน้อม “เฟ่ยเจี้ยนจง ขอขอบพระคุณความกรุณาของคุณเย่ ผมจะจดจำบุญคุณอันใหญ่หลวงของคุณไม่ลืมเลือน!”
พูดจบ เขาก็กำลังจะคุกเข่าลง
ในตอนนี้เองเย่เฉินก็ยื่นมือออกมาจับเขาไว้ กล่าวอย่างจริงจังว่า “คุณท่านเฟ่ยอย่าเพิ่งรีบขอบคุณ เพราะผมมีข้อแม้ และคุณก็ต้องตอบตกลง”
ซึ่งมันหมายความว่า เขาสูญเสียสิทธิ์ที่จะประมูลยาอายุวัฒนะแล้ว
แต่ถึงอย่างนั้น สำหรับเขาแล้ว ต่อให้ไม่สามารถประมูลยาอายุวัฒนะมาได้ อย่างน้อยก็ยังสามารถไปช่วงชิง ยาอายุวัฒนะที่แบ่งขายแบบหนึ่งส่วนสี่ได้
ถ้าได้ยามาครอบครองแม้จะแค่นิดเดียว แต่อย่างน้อยก็ยังสามารถทำให้ตัวเองมีอายุได้อีกตั้งสี่ห้าปี
ถึงแม้เย่เฉินจะรับปากเขาแล้วว่าจะคุ้มครองเขาไปอีกสิบปี แต่เรื่องอายุขัย ไม่มีใครมักน้อยหรอก
ถ้าให้เขาหยุดประมูลยาอายุวัฒนะจริงๆ นั่นก็เท่ากับว่าเขาต้องตัดช่องทางสำคัญในการต่ออายุขัยตัวเอง

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
บางที อ.ก้เขียนลำเอียงเกินไป วานพั่วจวิ้นทำงานแค่ตายจนกว่าจะได้ยามา แต่ซูรั่วรี่ไม่ได้ทำไรเลย มาถึงก้ได้ยาล่ะ 555...
หม่าหลังนเอ๋ย หม่าหลัน!! คุณมึงมีสิทธิ์ไปสอนคนอื่นด้วยหรอ ตัวคุณมึงเองยังทำที่พูดไม่ได้เลย ยังมีน่าไปสอนคนอื่น 555 สนุกมาๆเลยครับ เรื่องแรกเลยที่อ่านแล้วอินขนาดนี้ ขอบคุณที่ทำออกมาให้อ่านครับ แต่ปรับให้ผญ.ที่เข้าหาพระเอก ไม่ต้องลุกหนักเกินไป มันดูน่าเบื่อ ดูขัดใจกับคนอ่าน เรื่องรักที่มีแต่พระเอกเข้าใจได้ แต่เรื่องที่อ่อยพระเอกขั้นสุด มันดูน่าเบื่อเกินไป ไม่ฟิน...
หม่าหลังนมากก...
สะใจมากกก...
หม่าหลันมันไม่ได้ไร้เดียงสาต่อโลกหรอก แต่เขียนให้ถูกคือหม่าหลันมันโง่นั้นเอง เข้ามหาลัยมีชื่อเสียงได้ไง โง่ดักดานขนาดนี้ อาจารย์ที่เขียน ก้เขียนให้อีหม่าหลันดูดีเกิ้น 555...
เอาตรงๆน่ะ ผมชอบที่พระเอกมีสาวมาติด แบบเป็นปกติ หลงรักพระเอกโงหัวไม่ขึ้นผมไม่ขัดใจหรอก มาขัดใจตอนคือแบบผญ เรื่องนี้มีนลุกหนักเกินไป จนทำใจอ่านแล้วขัดใจ ถ้าลุกพอประมาณแบบนี้คืออ่านสนุกเว่อร์ แต่นี่อ่อยหนักจนเกิน เกิดอาการขัดใจสุดๆ 555...
ห๊า พระเอกไปเป็นหนี้พวกหล่อนตรงไหน พวกตัวเองชอบเย่เฉินเอง เย่เฉินไม่ได้บังคับ แล้วจะให้พระเอกคืนความรักให้พวกเอ็งเนี่ยน่ะ ส่วนพระเอกกุเห้นมึงก้ปวดใจกับผู้หญิงทุกคนแหละ -.-"...
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...