ในขณะที่เขากำลังลังเลอยู่นั้น จู่ๆเย่เฉินก็พูดขึ้นมาว่า “คุณท่านเฟ่ยต้องรู้ไว้อย่างหนึ่ง งานประมูลยาอายุวัฒนะในอนาคตจะได้จัดขึ้นอีกหรือไม่นั้น มันขึ้นอยู่กับความเห็นชอบของผม ถ้าวันใดวันหนึ่งผมไม่อยากจัดอะไรแบบนี้อีก ทุกคนบนโลกก็จะไม่มีที่ที่ให้ซื้อยาอายุวัฒนะ ถึงตอนนั้น คุณก็จะรู้ว่า มีแค่คำสัญญาของผมเท่านั้นที่มีค่า และคุณก็มีสิทธิ์ผ่อนซื้อยาอายุวัฒนะอยู่ในมือแล้ว แล้วไหนจะสัญญายืดอายุสิบปีนั่นอีก คุณมีอายุอยู่ถึงร้อยยี่สิบกว่าปี ภาพรวมก็ถือว่ามากแล้ว แค่นี้ยังไม่พอสำหรับคุณอีเหรอ?”
คำพูดของเย่เฉิน ทำให้เฟ่ยเจี้ยนจงฉุกคิดขึ้นมาทันที
เย่เฉินสัญญาว่าจะคุ้มครองเขาให้มีอายุต่อไปอีกสิบปี แลกกับการที่เขาต้องช่วยสนับสนุนเฟ่ยเข่อซิน พร้อมกันนั้นก็ต้องให้ทั้งตระกูลเฟ่ยหยุดเอาเงินไปประมูลยาอายุวัฒนะ
ส่วนการประมูลยาอายุวัฒนะ จะจัดขึ้นหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเย่เฉินทั้งหมด เรื่องจำนวนของยาอายุวัฒนะยิ่งแล้วใหญ่ ยิ่งประมูลจำนวนก็ยิ่งน้อยลงเรื่อยๆ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องสภาพการเงินเหมือนที่เย่เฉินว่าเลย ดูท่าแล้วน่าจะใช้ได้อีกไม่นาน เขาถึงได้ดูถูกรายได้ในการประมูลยาอายุวัฒนะของตระกูลเฟ่ยแบบนี้
ไม่ว่าจะซื้อจนเงินหมด หรือไม่ซื้อเลย เขาก็ไม่สามารถควบคุมปริมาณเงินได้อยู่ดี
ถ้าเกิดเย่เฉินตัดหัวตัดหางกลางคัน เขาก็คงไม่เหลือโอกาสอะไรแล้ว
จะว่าไป เงื่อนไขที่เย่เฉินบอกว่าจะคุ้มครองเขาไปอีกสิบปี เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดแล้ว ตราบใดที่เขาให้ความร่วมมือแต่โดยดี เรื่องนี้ก็จะมั่นคง ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
มีอายุจนถึงหนึ่งร้อยยี่สิบปี เป็นเรื่องที่คนทั่วไปไม่คิดไม่ฝันแน่นอน คำนวณดูคนทั่วไปอายุก็เฉลี่ยอยู่ที่อย่างน้อยหกสิบปี ถ้ามีชีวิตจนถึงร้อยยี่สิบปีจริงๆ ชาตินี้ก็ถือว่าคุ้มแล้ว!
คิดมาถึงตรงนี้ เฟ่ยเจี้ยนจงก็คุกเข่าลงบนพื้น เอ่ยพูดขอบคุณว่า “ขอบพระคุณคุณเย่ บุญคุณนี้ผมจะไม่ลืมไปตลอดชีวิต!”
และในวันนี้ เย่เฉินก็มอบยาช่วยหัวใจให้เขา สำหรับเฟ่ยเจี้ยนจงแล้ว เหมือนเจอแหล่งน้ำกลางทะเลทรายเลยล่ะ!
เฟ่ยเจี้ยนจงที่ตกอยู่ในอาการดีใจ รีบใช้มือสั่นๆทั้งสองข้างวางไว้เหนือหัว แล้วเอ่ยพูดอย่างเคารพนอบน้อมว่า “ขอบพระคุณที่คุณเย่เฉินให้ยา!”
เย่เฉินนำยาวางไว้บนฝ่ามือของอีกฝ่าย เอ่ยพูดอย่างเรียบนิ่งว่า “คุณท่านเฟ่ยไม่ต้องเกรงใจกันขนาดนี้ก็ได้ ลุกขึ้นมากินยาก่อนเถอะ”
เฟ่ยเจี้ยนจงไม่กล้าลุกขึ้น จึงนำยาช่วยหัวใจเข้าปากอย่างระมัดระวังขณะที่คุกเข่าอยู่บนพื้น

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
บางที อ.ก้เขียนลำเอียงเกินไป วานพั่วจวิ้นทำงานแค่ตายจนกว่าจะได้ยามา แต่ซูรั่วรี่ไม่ได้ทำไรเลย มาถึงก้ได้ยาล่ะ 555...
หม่าหลังนเอ๋ย หม่าหลัน!! คุณมึงมีสิทธิ์ไปสอนคนอื่นด้วยหรอ ตัวคุณมึงเองยังทำที่พูดไม่ได้เลย ยังมีน่าไปสอนคนอื่น 555 สนุกมาๆเลยครับ เรื่องแรกเลยที่อ่านแล้วอินขนาดนี้ ขอบคุณที่ทำออกมาให้อ่านครับ แต่ปรับให้ผญ.ที่เข้าหาพระเอก ไม่ต้องลุกหนักเกินไป มันดูน่าเบื่อ ดูขัดใจกับคนอ่าน เรื่องรักที่มีแต่พระเอกเข้าใจได้ แต่เรื่องที่อ่อยพระเอกขั้นสุด มันดูน่าเบื่อเกินไป ไม่ฟิน...
หม่าหลังนมากก...
สะใจมากกก...
หม่าหลันมันไม่ได้ไร้เดียงสาต่อโลกหรอก แต่เขียนให้ถูกคือหม่าหลันมันโง่นั้นเอง เข้ามหาลัยมีชื่อเสียงได้ไง โง่ดักดานขนาดนี้ อาจารย์ที่เขียน ก้เขียนให้อีหม่าหลันดูดีเกิ้น 555...
เอาตรงๆน่ะ ผมชอบที่พระเอกมีสาวมาติด แบบเป็นปกติ หลงรักพระเอกโงหัวไม่ขึ้นผมไม่ขัดใจหรอก มาขัดใจตอนคือแบบผญ เรื่องนี้มีนลุกหนักเกินไป จนทำใจอ่านแล้วขัดใจ ถ้าลุกพอประมาณแบบนี้คืออ่านสนุกเว่อร์ แต่นี่อ่อยหนักจนเกิน เกิดอาการขัดใจสุดๆ 555...
ห๊า พระเอกไปเป็นหนี้พวกหล่อนตรงไหน พวกตัวเองชอบเย่เฉินเอง เย่เฉินไม่ได้บังคับ แล้วจะให้พระเอกคืนความรักให้พวกเอ็งเนี่ยน่ะ ส่วนพระเอกกุเห้นมึงก้ปวดใจกับผู้หญิงทุกคนแหละ -.-"...
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...