เมื่อยาช่วยหัวใจเข้าปากก็ละลาย กลายเป็นกระแสอุ่นๆไหลสู่จุดตันเถียนของเขา จากนั้นก็แทรกซึมไปยังเส้นประสาททั่วร่างกายของเขา
เพียงแค่พริบตา เฟ่ยเจี้ยนจงก็รู้สึกว่าสภาพร่างกายดีขึ้นเยอะ ก่อนหน้านี้จะลุกจะเดินก็ยังลำบาก แต่ตอนนี้ พลันรู้สึกสบายไปทั่วร่างกายทันที
ขณะที่เขากำลังตกอยู่ในความดีใจ เพราะรู้สึกว่าร่างกายขยับตัวได้คล่องอยู่นั้น เย่เฉินที่อยู่ตรงหน้าก็เอ่ยพูดขึ้นมาว่า “คุณท่านเฟ่ยดูแลร่างกายตัวเองให้ดีๆ อีกสองปี ผมจะให้ยาช่วยหัวใจอีกครึ่งเม็ดกับคุณ”
เฟ่ยเจี้ยนจงกล่าวอย่างซาบซึ้งในบุญคุณ “ขอบคุณคุณเย่ที่เป็นห่วง ผมจะดูแลร่างกายตัวเองให้ดีๆ ให้สมกับที่คุณเย่กำชับมา”
เย่เฉินพยักหน้าเบาๆ แล้วยื่นมือออกไปประคองเฟ่ยเจี้ยนจงให้ลุกขึ้น จากนั้นก็พูดอย่างเรียบนิ่งว่า “เอาล่ะ วันนี้ก็ดึกมากแล้ว ผมขอตัวกลับก่อน”
เฟ่ยเข่อซินเอ่ยถามว่า “คุณเย่ เพิ่งมาก็จะกลับแล้วเหรอคะ? ดูรีบจัง”
เย่เฉินพูดยิ้มๆ “หมดธุระแล้ว ผมไม่อยู่รบกวนนานหรอก”
เฟ่ยเจี้ยนจงรีบเอ่ยขึ้นมาว่า “คุณเย่ นานๆทีกว่าจะมานิวยอร์ก อยู่ที่นี่อีกสักวันสองวันค่อยกลับไม่ดีกว่าเหรอ ผมจะได้ต้อนรับดีๆในฐานะเจ้าบ้านด้วย”
เย่เฉินโบกมือ “ที่ผมมานิวยอร์กในครั้งนี้ ก็เพราะพาภรรยามาส่งแม่ของเธอกลับประเทศ พรุ่งนี้หลังจากไปส่งที่สนามบินแล้ว พวกผมก็จะกลับพรอวิเดนซ์เลย”
เฟ่ยเข่อซินที่อยู่ข้างๆอดที่จะผิดหวังไม่ได้ แต่ถึงอย่างนั้นก็พยักหน้าแล้วพูดว่า “งั้นเดี๋ยวฉันเดินไปส่งค่ะ”
เฟ่ยเจี้ยนจงรีบพูดว่า “คุณเย่ เดี๋ยวผมเดินไปส่งด้วย!”
เฟ่ยเข่อซินที่อยู่ข้างๆจึงอดถามขึ้นมาไม่ได้ว่า “คุณปู่ เป็นอะไรไป?”
เฟ่ยเจี้ยนจงส่ายหน้า ยิ้มออกมาเล็กน้อย “ไม่มีอะไร จู่ๆก็แค่รู้สึกว่า การได้รู้จักคุณเย่ คือความโชคดีอันยิ่งใหญ่ในชีวิตนี้แล้ว ถ้าไม่ได้คุณเย่ ป่านนี้ พวกเราคงตายไปนานแล้ว”
เฟ่ยซานไห่ได้ยินคำพูดนี้ ก็มีสีหน้าอึดอัด จากนั้นก็ทิ้งทรุดตัวคุกเข่าบนพื้น พูดออกมาพร้อมร้องห่มร้องไห้ “พ่อครับ เมื่อก่อนผมหลงผิด ทำเรื่องเลวร้ายพวกนั้นขึ้นมา พ่อลงโทษผมได้เลย!
เฟ่ยเจี้ยนจงโบกมือ เอ่ยพูดเสียงนิ่งว่า “ในเมื่อคุณเย่พูดละ ว่าหลังจากนี้ให้แกทำตัวดีๆ ฉันก็จะไม่พูดซ้ำ เรื่องทุกอย่างในอดีต ขอแค่แกตั้งใจคิดไตร่ตรองเกี่ยวกับมันดีๆ ก็พอจะปัดผ่านไปได้ และถ้าแกทุ่มเททำประโยชน์ให้ตระกูลเฟ่ย ฉันเชื่อว่าเข่อซินเองก็จะไม่ด้อยค่าแกเหมือนกัน!”
เฟ่ยซานไห่โขกหัวกับพื้น พูดกลั้วสะอื้นว่า “พ่อ ขอบคุณที่พ่อให้อภัย หลังจากนี้ผมจะทุ่มเททำประโยชน์ให้ตระกูลเฟ่ยจนกว่าจะตาย!”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
บางที อ.ก้เขียนลำเอียงเกินไป วานพั่วจวิ้นทำงานแค่ตายจนกว่าจะได้ยามา แต่ซูรั่วรี่ไม่ได้ทำไรเลย มาถึงก้ได้ยาล่ะ 555...
หม่าหลังนเอ๋ย หม่าหลัน!! คุณมึงมีสิทธิ์ไปสอนคนอื่นด้วยหรอ ตัวคุณมึงเองยังทำที่พูดไม่ได้เลย ยังมีน่าไปสอนคนอื่น 555 สนุกมาๆเลยครับ เรื่องแรกเลยที่อ่านแล้วอินขนาดนี้ ขอบคุณที่ทำออกมาให้อ่านครับ แต่ปรับให้ผญ.ที่เข้าหาพระเอก ไม่ต้องลุกหนักเกินไป มันดูน่าเบื่อ ดูขัดใจกับคนอ่าน เรื่องรักที่มีแต่พระเอกเข้าใจได้ แต่เรื่องที่อ่อยพระเอกขั้นสุด มันดูน่าเบื่อเกินไป ไม่ฟิน...
หม่าหลังนมากก...
สะใจมากกก...
หม่าหลันมันไม่ได้ไร้เดียงสาต่อโลกหรอก แต่เขียนให้ถูกคือหม่าหลันมันโง่นั้นเอง เข้ามหาลัยมีชื่อเสียงได้ไง โง่ดักดานขนาดนี้ อาจารย์ที่เขียน ก้เขียนให้อีหม่าหลันดูดีเกิ้น 555...
เอาตรงๆน่ะ ผมชอบที่พระเอกมีสาวมาติด แบบเป็นปกติ หลงรักพระเอกโงหัวไม่ขึ้นผมไม่ขัดใจหรอก มาขัดใจตอนคือแบบผญ เรื่องนี้มีนลุกหนักเกินไป จนทำใจอ่านแล้วขัดใจ ถ้าลุกพอประมาณแบบนี้คืออ่านสนุกเว่อร์ แต่นี่อ่อยหนักจนเกิน เกิดอาการขัดใจสุดๆ 555...
ห๊า พระเอกไปเป็นหนี้พวกหล่อนตรงไหน พวกตัวเองชอบเย่เฉินเอง เย่เฉินไม่ได้บังคับ แล้วจะให้พระเอกคืนความรักให้พวกเอ็งเนี่ยน่ะ ส่วนพระเอกกุเห้นมึงก้ปวดใจกับผู้หญิงทุกคนแหละ -.-"...
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...