วันต่อมา เป็นวันที่หม่าหลันต้องกลับประเทศ
เย่เฉินพาหม่าหลันไปซื้อของฝากมากมายหลายอย่างในนิวยอร์กเป็นพิเศษ แม้ว่าเขาจะไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่ในใจก็ถือเสียว่าเป็นค่าเหนื่อยที่หม่าหลันมาอยู่เป็นเพื่อนเซียวชูหรันที่อเมริกาแล้วกัน
เวลาห้าโมงเย็น เย่เฉินและเซียวชูหรันพาหม่าหลันมาส่งที่ท่าอากาศยานนานาชาติจอห์น เอฟ. เคนเนดี
เนื่องจากซื้อตั๋วชั้นเฟิร์สคลาสไว้ หม่าหลันเลยไม่ต้องรีบไปเช็กอิน หันมาพูดกับเย่เฉินและเซียวชูหรันว่า “ชูหรัน ลูกเขย พวกแกส่งฉันแค่ตรงนี้พอไม่ต้องเข้าไปส่งข้างในหรอก เพื่อนที่พี่เฉินแนะนำมาบังเอิญนั่งไฟลท์เดียวกับฉันพอดี เมื่อกี้เธอส่งข้อความมาบอกฉันว่า เดินเข้าไปจะมีห้องรับรองของผู้โดยสารชั้นเฟิร์สคลาส ให้ฉันไปรอเธออยู่ที่นั่น ถ้าเธอมาถึงแล้วค่อยเข้าไปเช็กอินขึ้นเครื่องด้วยกัน”
เซียวชูหรันไม่ได้คิดอะไรมาก คิดแค่ว่าแม่เดินทางตั้งหลายชั่วโมงมีเพื่อนร่วมสักคนหนึ่งก็คงดี แม้ว่าจะทำได้แค่คุยกันเล่นไปพลางๆแต่ก็น่าจะผ่อนคลายได้เยอะ
แต่ในขณะนี้เองเซียวชูหรันก็นึกถึงพี่เฉินคนนั้นของแม่ รวมไปถึงคนในครอบครัวที่มีท่าทางแปลกๆขึ้นมา จึงรีบกำชับผู้เป็นมารดาว่า “แม่ นั่งเครื่องกลับกับคนอื่นไม่เป็นไรก็จริง แต่แม่ก็ต้องระวังตัวด้วยนะ อย่าเชื่อใจใครง่ายๆเด็ดขาด โดยเฉพาะพวกที่บอกว่าจะพาไปหาเงิน หรือไปลงทุนอะไรเทือกๆนั้น แล้วก็ห้ามให้คนอื่นยืมเงินสุ่มสี่สุ่มห้าเด็ดขาด เข้าใจไหม?”
หม่าหลันพูดยิ้มๆ “ไอ้หยา จนๆอย่างงฉัน ใครเขาจะมาหลอกเอาเงินกัน ฐานะทางบ้านอีกฝ่ายร่ำรวยกว่าฉันอีก”
ขณะที่พูด ก็กลัวว่าเซียวชูหรันจะบ่นยาว จึงรีบพูดขึ้นมาว่า “แต่ว่าแกสบายใจได้ ฉันไม่ใช่คนหัวอ่อน บุกน้ำลุยไฟมาตั้งหลายปี เคยยอมให้ใครเอาเปรียบง่ายๆตอนไหน?”
เซียวชูหรันแสดงสีหน้ากลืนไม่เข้าคลายไม่ออก คิดในใจว่า “พูดอย่างกับว่าหลายปีมานี้แม่ถูกเอาเปรียบน้อยมากอย่างนั้นแหละ….”
แต่ตอนนี้กำลังจะจากกันแล้ว เซียวชูหรันเลยไม่ได้พูดออกไปมาก พูดแค่ว่า “งั้นก็ขอให้แม่เดินทางปลอดภัย อย่าลืมดูแลตัวเองด้วย อย่าเอาแต่คุยกับคนอื่น กลับไปถึงแม่อาจจะเจ็ทแลค ถ้าแม่ไม่พักผ่อนให้เพียงพอระหว่างอยู่บนเครื่องกลับถึงบ้านแม่คงทรมานแย่”
“รู้แล้วๆๆ ไม่ต้องห่วงหรอก!”
หม่าหลันพูดพร้อมกับโบกมือให้ทั้งสองคน จากนั้นก็เดินเข้าไปในสนามบิน
เธอในตอนนี้ยังไม่รู้เลยว่า สิ่งที่กำลังรอตัวเองอยู่หลังจากนี้ คืออะไร
เมื่อหม่าหลันเข้ามาในสนามบิน ก็ไม่ได้รีบไปตรวจสัมภาระ แต่กลับเดินไปที่ห้องรับรองที่จงชิวฮวาบอกเอาไว้

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
บางที อ.ก้เขียนลำเอียงเกินไป วานพั่วจวิ้นทำงานแค่ตายจนกว่าจะได้ยามา แต่ซูรั่วรี่ไม่ได้ทำไรเลย มาถึงก้ได้ยาล่ะ 555...
หม่าหลังนเอ๋ย หม่าหลัน!! คุณมึงมีสิทธิ์ไปสอนคนอื่นด้วยหรอ ตัวคุณมึงเองยังทำที่พูดไม่ได้เลย ยังมีน่าไปสอนคนอื่น 555 สนุกมาๆเลยครับ เรื่องแรกเลยที่อ่านแล้วอินขนาดนี้ ขอบคุณที่ทำออกมาให้อ่านครับ แต่ปรับให้ผญ.ที่เข้าหาพระเอก ไม่ต้องลุกหนักเกินไป มันดูน่าเบื่อ ดูขัดใจกับคนอ่าน เรื่องรักที่มีแต่พระเอกเข้าใจได้ แต่เรื่องที่อ่อยพระเอกขั้นสุด มันดูน่าเบื่อเกินไป ไม่ฟิน...
หม่าหลังนมากก...
สะใจมากกก...
หม่าหลันมันไม่ได้ไร้เดียงสาต่อโลกหรอก แต่เขียนให้ถูกคือหม่าหลันมันโง่นั้นเอง เข้ามหาลัยมีชื่อเสียงได้ไง โง่ดักดานขนาดนี้ อาจารย์ที่เขียน ก้เขียนให้อีหม่าหลันดูดีเกิ้น 555...
เอาตรงๆน่ะ ผมชอบที่พระเอกมีสาวมาติด แบบเป็นปกติ หลงรักพระเอกโงหัวไม่ขึ้นผมไม่ขัดใจหรอก มาขัดใจตอนคือแบบผญ เรื่องนี้มีนลุกหนักเกินไป จนทำใจอ่านแล้วขัดใจ ถ้าลุกพอประมาณแบบนี้คืออ่านสนุกเว่อร์ แต่นี่อ่อยหนักจนเกิน เกิดอาการขัดใจสุดๆ 555...
ห๊า พระเอกไปเป็นหนี้พวกหล่อนตรงไหน พวกตัวเองชอบเย่เฉินเอง เย่เฉินไม่ได้บังคับ แล้วจะให้พระเอกคืนความรักให้พวกเอ็งเนี่ยน่ะ ส่วนพระเอกกุเห้นมึงก้ปวดใจกับผู้หญิงทุกคนแหละ -.-"...
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...