อย่างไรก็ตาม การตรวจคนเข้าเมืองหลังเครื่องลงจอดจะเข้มงวดกว่ามาก เนื่องจากหลายประเทศและภูมิภาคมีมาตรฐานการเข้าประเทศที่เข้มงวด และบางประเทศไม่อนุญาตให้นำผลไม้สดใดๆเข้ามา แม้ว่าจะเป็นผลไม้ที่ผู้โดยสารนำขึ้นมากินบนเครื่องแล้วกินไม่หมด หากตรวจสอบแล้วพบว่ามีเหลืออยู่ ก็จะถูกลงโทษอย่างหนักเช่นกัน
ดังนั้น การทดสอบที่ยากที่สุด จึงอยู่ที่จุดตรวจคนเข้าเมือง
ซึ่งจุดนี้ โอกาสในการทำสำเร็จจะลดลงเหลือเพียงประมาณ 30%
เมื่อรวมกับ 50% ในระยะแรก อัตราการผ่านโดยรวมจะอยู่ที่ประมาณ 15%
เป็นเพราะอัตราความสำเร็จต่ำมาก ราคาของของเถื่อนชนิดใหม่นี้จึงมีราคาสูงอย่างน่าประหลาดใจในเอเชียตะวันออก ราคาต่อกรัมสูงถึงสองพันดอลลาร์ ซึ่งเป็นสินค้าที่ใช้เฉพาะในกลุ่มมหาเศรษฐี
ตราบใดที่หม่าหลันสามารถลงจอดบนเกาะฮ่องกางได้สำเร็จ และผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองได้ในครั้งนี้ของเถื่อนที่เธอถืออยู่ก็จะมีมูลค่ามากกว่าสิบล้านดอลลาร์
ในเวลานี้เอง หม่าหลันนั่งอยู่ในเลานจ์สุดหรูระดับเฟิร์สคลาส กำลังดื่มกาแฟพร้อมกับถ่ายรูป และโพสต์ลงโชเซี่ยล
ข้อความประกอบของเธอคือ "กำลังจะเดินทางกลับประเทศ แอบเสียดาย ที่เครื่องบินส่วนตัวของเพื่อนอยู่ในช่วงซ่อมบำรุง ไม่อย่างนั้นคงได้นั่งกลับแล้ว แต่ทำอะไรไม่ได้ คงทำได้แค่ลดตัวลงมานั่งเที่ยวบินธรรมดาชั้นเฟิร์สคลาสไปก่อน”
หลังจากโพสต์ เธอก็ไม่ลืมที่จะบล็อกเย่เฉิน, เซียวชูหรัน และเซียวฉางควานโดยเฉพาะ
หลังจากโพสต์โชเซี่ยลเสร็จ เธอก็วิดีโอคอลหาเซียวชูหรันอย่างสบายๆ
ในเวลานี้ เย่เฉินและเซียวชูหรันได้ขับรถออกจากนิวยอร์ก มุ่งตรงกลับไปที่พรอวิเดนซ์
เซียวชูหรันที่นั่งเบาะข้างคนขับกดรับสายผู้เป็นแม่ พร้อมเอ่ยถามว่า "แม่ ขึ้นเครื่องแล้วหรือยัง"
นอกจากนี้ เธอก็รู้ดี ว่าแม่ของเธอดื้อแค่ไหน พอได้ตัดสินใจอะไรแล้ว ก็ไม่มีใครสามารถเปลี่ยนใจแม่ของเธอได้ง่ายๆ
ดังนั้น เซียวชูหรันจึงไม่ได้พูดอะไรมากไปกว่านี้ เพียงแต่เตือนว่า: "ถ้าอย่างนั้นก่อนขึ้นเครื่องแม่ต้องบอกฉันด้วย ฉันจะได้สบายใจ”
หม่าหลันพูดด้วยรอยยิ้มว่า “โอเคๆ รู้แล้ว ไม่ต้องเป็นห่วง ฝากบอกลูกเขยของฉันด้วย ว่าให้ขับรถระวังๆ ฉันวางสายละนะ”
หลังจากพูดจบ หม่าหลันก็วางสายวิดีโอทันที
หลังจากวางสาย หม่าหลันก็เข้าไปดูรูปที่เธอเพิ่งโพสต์ไป ซึ่งมันทำให้เธองุ่นง่านเป็นอย่างมาก
เนื่องจากคนที่เคยขึ้เครื่องบินส่วนตัวกับเธอเมื่อครั้งก่อน ไม่มีใครกดถูกใจให้เลยสักคน

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
บางที อ.ก้เขียนลำเอียงเกินไป วานพั่วจวิ้นทำงานแค่ตายจนกว่าจะได้ยามา แต่ซูรั่วรี่ไม่ได้ทำไรเลย มาถึงก้ได้ยาล่ะ 555...
หม่าหลังนเอ๋ย หม่าหลัน!! คุณมึงมีสิทธิ์ไปสอนคนอื่นด้วยหรอ ตัวคุณมึงเองยังทำที่พูดไม่ได้เลย ยังมีน่าไปสอนคนอื่น 555 สนุกมาๆเลยครับ เรื่องแรกเลยที่อ่านแล้วอินขนาดนี้ ขอบคุณที่ทำออกมาให้อ่านครับ แต่ปรับให้ผญ.ที่เข้าหาพระเอก ไม่ต้องลุกหนักเกินไป มันดูน่าเบื่อ ดูขัดใจกับคนอ่าน เรื่องรักที่มีแต่พระเอกเข้าใจได้ แต่เรื่องที่อ่อยพระเอกขั้นสุด มันดูน่าเบื่อเกินไป ไม่ฟิน...
หม่าหลังนมากก...
สะใจมากกก...
หม่าหลันมันไม่ได้ไร้เดียงสาต่อโลกหรอก แต่เขียนให้ถูกคือหม่าหลันมันโง่นั้นเอง เข้ามหาลัยมีชื่อเสียงได้ไง โง่ดักดานขนาดนี้ อาจารย์ที่เขียน ก้เขียนให้อีหม่าหลันดูดีเกิ้น 555...
เอาตรงๆน่ะ ผมชอบที่พระเอกมีสาวมาติด แบบเป็นปกติ หลงรักพระเอกโงหัวไม่ขึ้นผมไม่ขัดใจหรอก มาขัดใจตอนคือแบบผญ เรื่องนี้มีนลุกหนักเกินไป จนทำใจอ่านแล้วขัดใจ ถ้าลุกพอประมาณแบบนี้คืออ่านสนุกเว่อร์ แต่นี่อ่อยหนักจนเกิน เกิดอาการขัดใจสุดๆ 555...
ห๊า พระเอกไปเป็นหนี้พวกหล่อนตรงไหน พวกตัวเองชอบเย่เฉินเอง เย่เฉินไม่ได้บังคับ แล้วจะให้พระเอกคืนความรักให้พวกเอ็งเนี่ยน่ะ ส่วนพระเอกกุเห้นมึงก้ปวดใจกับผู้หญิงทุกคนแหละ -.-"...
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...