ในเวลานี้เซียวชูหรันตื่นตระหนกมาก เธอกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่อีกต่อไป เอ่ยถามเย่เฉินว่า "ที่รัก..... ตอนนี้จะทำยังไงดี.....ตำรวจถามว่าแม่จะจ้างทนายเอง หรือให้พวกเขาหาให้…..”
เย่เฉินพยักหน้าและกล่าวว่า “บอกแม่ว่าอย่าเพิ่งพูดอะไรมาก ผมจะขอความช่วยเหลือจากลูกค้าในอเมริกา ให้ช่วยหาทนายความที่มีประสบการณ์ให้”
เซียวชูหรันรีบถาม “ที่รัก ลูกค้าของคุณในนิวยอร์กมีความเชี่ยวชาญในด้านนี้หรือไม่ เขามีเส้นสายในด้านนี้หรือเปล่า”
เย่เฉินพูดอย่างจริงจัง: “ไม่ต้องกังวล เธอค่อนข้างมีอำนาจและอิทธิพลในนิวยอร์ก การจัดหาทนายที่ดีไม่น่าจะมีปัญหา เธอหาได้เก่งกว่าทนายความสาธารณะที่ตำรวจจัดหาให้แน่นอน”
เซียวชูหรันกล่าวอย่างเร่งรีบ: "งั้นคุณก็รีบโทรขอความช่วยเหลือจากเธอเถอะ..... แม่บอกว่า ถ้าเรื่องนี้แม่ไม่สามารถหลุดพ้นจากข้อสงสัยได้ อาจจะถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต"
เย่เฉินพูดอย่างใจเย็น: “เรื่องแบบนี้ไม่ต้องรีบร้อนหรอก คุณต้องจำไว้อย่างหนึ่ง ว่าจะยึดจากแค่คำพูดปากเปล่าของแม่ไม่ได้ ยังไงก็ต้องโดนข้อหาทั้งๆที่รู้ว่าเป็นของผิดกฎหมายแต่ยังเต็มใจขนย้าย เพราะฉะนั้นตราบใดที่เราพิสูจน์ข้อกล่าวหานี้ได้ ก็จะสามารถยืนยันได้ว่าแม่ไม่มีความผิด และไม่ต้องโดนโทษทางอาญา”
เมื่อหม่าหลันที่อยู่ปลายสายได้ยินคำพูดของเย่เฉิน ก็ร้องไห้และพูดว่า “ลูกเขย ที่แกพูดมามันสมเหตุสมผลทั้งหมด แต่ที่สำคัญคือถ้าจับคนร้ายไม่ได้ ก็คงต้องตายโดยไม่มีหลักฐานมาพิสูจน์ความบริสุทธิ์…..”
เย่เฉินกล่าวว่า “แม่ แม่ไม่ต้องกังวลไป แล้วก็ไม่ต้องกลัว เรื่องนี้จะได้รับการแก้ไขอย่างแน่นอน แต่มันอาจจะยุ่งยากเล็กน้อย ระยะนี้แม่อาจจะต้องทนไปก่อน”
เธอร้องไห้และพูดว่า "ลูกเขยแม่ ชีวิตต่อจากนี้ของแม่คงต้องพึ่งแกแล้ว.....แก….แกต้องไม่ผิดสัญญากับแม่นะ…..."
เย่เฉินพูดอย่างเรียบนิ่ง “แม่ครับ หลังจากเหตุการณ์นี้ ผมหวังว่าแม่จะจำมันไว้เป็นบทเรียนว่า อย่าไว้ใจคนอื่นง่ายๆ และอย่าเห็นแต่ได้ จนสุดท้ายต้องมาซวยแบบนี้”
อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ หม่าหลันพยักหน้า และสะอื้นฮักออกมา: "วางใจได้..... ถ้าได้อิสรภาพคืนกลับมาในครั้งนี้ ต่อให้แกเอาเงินทองมาวางไว้ต่อหน้า แม่ก็จะไม่โลภมากอยากได้อีกแล้ว……”
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ หม่าหลันก็นึกถึงเรื่องที่ตัวเองถูกจับในข้อหาขโมยบัตรธนาคารของเย่เฉิน ก็แทบอยากจะตบปากตัวเอง อดที่จะด่าตัวเองในใจไม่ได้ “หม่าหลันเอ๋ยหม่าหลัน แกนี่มันโง่จริงๆ ก่อนหน้านี้ก็เคยมีบทเรียนมาแล้วครั้งหนึ่ง ยังจะมาถูกหลอกอีก ในบัตรของเย่เฉินจะไปมีเงินหลายหมื่นล้านได้ยังไง? ในทำนองเดียวกัน คนที่เพิ่งพบกัน จะให้รถกับเงินหลายล้านและชวนไปเที่ยวพักผ่อนที่คฤหาสน์ได้ยังไง? เรื่องที่ไม่มีทางเป็นไปได้แบบนั้น ทำไมแกไม่หัดเอะใจบ้าง….”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
หม่าหลังนเอ๋ย หม่าหลัน!! คุณมึงมีสิทธิ์ไปสอนคนอื่นด้วยหรอ ตัวคุณมึงเองยังทำที่พูดไม่ได้เลย ยังมีน่าไปสอนคนอื่น 555 สนุกมาๆเลยครับ เรื่องแรกเลยที่อ่านแล้วอินขนาดนี้ ขอบคุณที่ทำออกมาให้อ่านครับ แต่ปรับให้ผญ.ที่เข้าหาพระเอก ไม่ต้องลุกหนักเกินไป มันดูน่าเบื่อ ดูขัดใจกับคนอ่าน เรื่องรักที่มีแต่พระเอกเข้าใจได้ แต่เรื่องที่อ่อยพระเอกขั้นสุด มันดูน่าเบื่อเกินไป ไม่ฟิน...
หม่าหลังนมากก...
สะใจมากกก...
หม่าหลันมันไม่ได้ไร้เดียงสาต่อโลกหรอก แต่เขียนให้ถูกคือหม่าหลันมันโง่นั้นเอง เข้ามหาลัยมีชื่อเสียงได้ไง โง่ดักดานขนาดนี้ อาจารย์ที่เขียน ก้เขียนให้อีหม่าหลันดูดีเกิ้น 555...
เอาตรงๆน่ะ ผมชอบที่พระเอกมีสาวมาติด แบบเป็นปกติ หลงรักพระเอกโงหัวไม่ขึ้นผมไม่ขัดใจหรอก มาขัดใจตอนคือแบบผญ เรื่องนี้มีนลุกหนักเกินไป จนทำใจอ่านแล้วขัดใจ ถ้าลุกพอประมาณแบบนี้คืออ่านสนุกเว่อร์ แต่นี่อ่อยหนักจนเกิน เกิดอาการขัดใจสุดๆ 555...
ห๊า พระเอกไปเป็นหนี้พวกหล่อนตรงไหน พวกตัวเองชอบเย่เฉินเอง เย่เฉินไม่ได้บังคับ แล้วจะให้พระเอกคืนความรักให้พวกเอ็งเนี่ยน่ะ ส่วนพระเอกกุเห้นมึงก้ปวดใจกับผู้หญิงทุกคนแหละ -.-"...
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...