ในเวลานี้ ลูกสะใภ้คนโตได้หมดอารมณ์ที่ก้าวร้าวของเธอ ร้องไห้และถามตำรวจอย่างรีบร้อนว่า:"แล้วตอนนี้พวกเราควรทำอย่างไร…... คุณจับกุมผู้ชายทั้งหมดในครอบครัวเรา แล้วหญิงม่ายและเด็กกำพร้าอย่างเราคงได้แต่การรอคอยความตาย?"
ตำรวจบอกทันทีว่า:"ไม่ต้องกังวล ฉันจะแจ้งคณะกรรมการชุมชนในชุมชนของคุณให้ทันที ให้ค่อยใส่ใจกับสถานการณ์ของคุณ แต่ถ้าคุณไม่มีความต้องหากใดๆในชีวิต คณะกรรมการจะช่วยคุณแก้ปัญหาอย่างแน่นอน แต่ฉันยังพูดคำเดิม คุณต้องรู้ก่อนว่าอะไรถูกกฎหมายและอะไรผิดกฎหมาย ในครอบครัวคุณมีผู้ต้องสงสัยในคดีสามคนแล้ว ดังนั้น พวกคุณอย่าให้ตัวเองต้องไปทางที่ผิดกฎหมาย!"
พูดจบ ตำรวจโบกมือให้คนรอบข้างทันที: "กลับ!"
ทุกคนตอบรับทันทีและนำตัวสามคนพ่อลูกขึ้นรถไปที่สถานีตำรวจ
เมื่อเห็นรถตำรวจหลายคันออกไป ลูกสะใภ้คนที่สองก็ร้องไห้หนักมากจนถามลูกสะใภ้คนโตอย่างรวดเร็วว่า:"พี่สะใภ้…...เราจะทำยังไงกันดี……"
ลูกสะใภ้คนโตก็ตกใจและบ่นว่า:"ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน...... ฉันโตมาขนาดนี้ เมื่อกี้ เป็นครั้งแรกที่ฉันได้คุยกับตำรวจมากขนาดนี้…..."
ลูกสะใภ้คนที่สองรีบพูดว่า:"พี่สะใภ้ รีบโทรหาแม่ของเรา เราต้องให้แม่ตัดสินใจเรื่องนี้…...."
ลูกสะใภ้คนโตกลับมามีสติและพูดอย่างเร็วว่า:"เธอพูดถูก ต้องรีบโทรหาแม่ ฉันจะโทรหาเธอเดี๋ยวนี้! "
พูดจบ เธอหยิบโทรศัพท์ออกมา แล้วโทรหาเหมยอวี้เจินทันที
โทรศัพท์ของเหมยอวี้เจินที่ไว้ติดตัวนั้น เธอไว้ใช้ติดต่อกับคนในครอบครัวโดยเฉพาะ มีเพียงคนในครอบครัวของเธอเท่านั้นที่รู้หมายเลขโทรศัพท์ของเธอ
เธอคิดว่าเป็นสายจากลูกชายคนโตของเธอโทรมาอีก แต่เมื่อเธอก้มมอง พบว่าคนที่โทรมาคือลูกสะใภ้คนโต เธอคิ้วขมวดทันที
เธอไม่ค่อยชอบลูกสะใภ้คนโตของเธอนักเลย เธอรู้สึกว่า นิสัยของลูกสะใภ้คนโตนั้นฉุนเฉียว เข้มแข็ง และงี่เง่านิดหน่อย
เพียงแต่ เมื่อตอนนั้นเธอได้ตั้งท้องกับลูกชาย และเธอก็อยากที่จะอุ้มหลานของเธอเร็วไวๆ ดังนั้นเธอจึงยอมรับการแต่งงานครั้งนี้
เธอถามอย่างรวดเร็วว่า:"ทำไมตำรวจถึงจับพวกเขา ได้บอกสาเหตุไหม?"
ในเวลานี้ ในใจของเหมยอวี้เจินคอยสวดภาวนาต่อพระเจ้า เธอหวังว่าสามีและลูกชายสองคนของเธอจะถูกตำรวจจับตัวไปเพราะการพนัน การค้าประเวณีหรืออย่างอื่น
ต่อให้พวกเขาถูกตำรวจพาตัวไปเพราะการฆาตกรรมก็ตาม
แต่ห้ามเป็นเพราะการฟอกเงิน
เพราะการฆาตกรรมไม่ใช่เรื่องง่าย!
ลูกชายสองคน สามีหนึ่งคน ไม่สำคัญว่าใครจะถูกตัดสินประหารชีวิต หรือทั้งสามคนถูกตัดสินประหารชีวิตด้วยการอภัยโทษก็ตาม ไม่ว่าจะเร็วหรือช้า ต้องมีสักวันที่ได้ออกมา

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
หม่าหลังนเอ๋ย หม่าหลัน!! คุณมึงมีสิทธิ์ไปสอนคนอื่นด้วยหรอ ตัวคุณมึงเองยังทำที่พูดไม่ได้เลย ยังมีน่าไปสอนคนอื่น 555 สนุกมาๆเลยครับ เรื่องแรกเลยที่อ่านแล้วอินขนาดนี้ ขอบคุณที่ทำออกมาให้อ่านครับ แต่ปรับให้ผญ.ที่เข้าหาพระเอก ไม่ต้องลุกหนักเกินไป มันดูน่าเบื่อ ดูขัดใจกับคนอ่าน เรื่องรักที่มีแต่พระเอกเข้าใจได้ แต่เรื่องที่อ่อยพระเอกขั้นสุด มันดูน่าเบื่อเกินไป ไม่ฟิน...
หม่าหลังนมากก...
สะใจมากกก...
หม่าหลันมันไม่ได้ไร้เดียงสาต่อโลกหรอก แต่เขียนให้ถูกคือหม่าหลันมันโง่นั้นเอง เข้ามหาลัยมีชื่อเสียงได้ไง โง่ดักดานขนาดนี้ อาจารย์ที่เขียน ก้เขียนให้อีหม่าหลันดูดีเกิ้น 555...
เอาตรงๆน่ะ ผมชอบที่พระเอกมีสาวมาติด แบบเป็นปกติ หลงรักพระเอกโงหัวไม่ขึ้นผมไม่ขัดใจหรอก มาขัดใจตอนคือแบบผญ เรื่องนี้มีนลุกหนักเกินไป จนทำใจอ่านแล้วขัดใจ ถ้าลุกพอประมาณแบบนี้คืออ่านสนุกเว่อร์ แต่นี่อ่อยหนักจนเกิน เกิดอาการขัดใจสุดๆ 555...
ห๊า พระเอกไปเป็นหนี้พวกหล่อนตรงไหน พวกตัวเองชอบเย่เฉินเอง เย่เฉินไม่ได้บังคับ แล้วจะให้พระเอกคืนความรักให้พวกเอ็งเนี่ยน่ะ ส่วนพระเอกกุเห้นมึงก้ปวดใจกับผู้หญิงทุกคนแหละ -.-"...
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...