ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน นิยาย บท 466

สรุปบท บทที่ 466: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่ 466 – ตอนที่ต้องอ่านของ ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

ตอนนี้ของ ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน โดย เมฆทอง ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายนิยาย จีนทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 466 จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

บทที่ 466

ทุกคนหัวเราะกันเสียงดัง ใครก็คิดไม่ถึงว่า ปีนั้นถึงกับมีฉากที่น่าตะลึงใจ!

ลูกเขยของพันหยวนหมิงจางเจี้ยนพูดต่อด้วยเสียหัวเราะ "ไอ้หยา อาเซียวน่าทึ่งมาก! คุณคือ‘Goodbye Mr. Loser’ เวอร์ชั่นจริงนะ น้าห่าก็คือดาวโรงเรียนชิวหย่า หม่าหลันก็คือ หม่าตงเหมยคนนั้น ฮ่าๆๆๆๆ”

เย่เฉินแม้ว่าไม่ค่อยสะดวกที่จะแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะในใจ

คิดไม่ถึงว่าพ่อตายังมีนิทานแบบนี้ ที่แท้แม่ยายก็ปากร้ายแบบนี้มาตลอด แถมพ่อตายังถูกมอมเหล้า เริ่มทำแบบนั้นกับเขา เรื่องนี้ทำได้ เหมือนมารชัดๆ!”

เพื่อนนักเรียนเก่าแก่คนอื่น ๆ อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเห็นใจเซียวฉางควน แต่ละคนก็พูดให้กำลังใจและปลอบโยนเขา

ในตอนนี้พันหยวนหมิงมองไปที่เซียวฉางควน ยิ้มแล้วพูดว่า "พวกนายอย่าเพิ่งรีบเห็นอกเห็นใจเซียวฉางควนสิ จริงๆหม่าหลันที่แต่งกับเซียวฉางควนก็อนาถเหมือนกัน!"

ทุกคนถามอย่างงง ๆ "เธอมีอะไรแย่? เซียวฉางควนชดใช้ให้เธอก็เหลือเฟือแล้วไม่ใช่หรอ?"

พันหยวนหมิงถอนหายใจแล้วพูดว่า "เฮ้ พวกนายไม่รู้อะไรเลยหรอ หม่าหลันในปีนั้น ในใจคิดอยากจะหาทายาทเศรษฐีรุ่นที่สอง ดังนั้นจึงสนใจเซียวฉางควน คิดว่าตอนนั้นเซียวฉางควนมีเงินไง ถึงได้ใกล้ชิดเซียวฉางควน จากนั้นแน่นอนได้เป็นคุณนายหญิง... "

พูดถึงตรงนี้ พันหยวนหมินก็เปลี่ยนคำพูด "แต่ใครจะรู้ หลังจากเซียวฉางควันเรียนจบจะเป็นคนไม่มีประโยชน์ขนาดนี้ อยู่ในครอบครัวก็ไม่ได้สินทรัพย์ ไม่ได้รับความสนใจ อีกอย่างคฤหาสน์ตระกูลเซียวนับวันยิ่งตกอับ หม่าหลันอยากใกล้ชิดกับทายาทเศรษฐีรุ่นที่สอง คิดไม่ถึงว่าผลสุดท้ายกลับใกล้ชิดกับชายธรรมดาที่ไม่เอาไหน! "

เซียวฉางควนอับอายไม่มีอะไรเทียบ สีหน้าแดงก่ำ ข่มไว้สักพัก ถึงจะเปิดปากพูด “พันหยวนหมิง เรื่องของผม ไม่ต้องให้คุณพูดมาก!"

พันหยวนหมิงหึ่มอย่างเย็นชา พูดว่า “เซียวฉางควน เรื่องที่บ้านของพวกนาย ทั่วเมืองจินหลิงใครบ้างที่ไม่รู้? คุณไม่ให้ผมพูด หรือว่าทุกคนก็ไม่มีทางไปถามจากที่อื่นหรอ? "

พูดไป พันหยวนหมิงก็พูดเสียงดัง “เดิมทีคฤหาสน์ตระกูลเซียวของพวกนายก็ถือว่ามีทรัพย์สมบัติบ้าง นายออกจากบ้านไป ยังสามารถเอาชื่อเสียงคฤหาสน์ตระกูลเซียวไปข่มขู่คน ตอนนี้คฤหาสน์ตระกูลเซียวล้มแล้ว คนไร้ค่าอย่างคุณหาเงินไม่เป็น หม่าหลันวันๆก็เล่นแต่ไพ่นกกระจอก งานที่ถูกต้องไม่ทำ ลูกเขยที่แต่งเข้าบ้านนี้ เป็นไอ้ขยะอยู่บ้านเกาะผู้หญิงกิน ทั้งตระกูลของพวกนาย ตอนนี้พึ่งลูกสาวคนเดียวของคุณในการใช้ชีวิต? ก็ไม่รู้ว่าชาติที่แล้วของลูกสาวคุณสร้างกรรมอะไรไว้ มาเกิดในตระกูลแบบนี้ของคุณ แต่งกับสามีที่เป็นไอ้ขยะอย่างคุณ ทำให้คนเจ็บปวดใจจริงๆ! "

เย่เฉินเมื่อฟังถึงตรงนี้ ยิ่งทนไม่ไหวแล้ว

เมื่อพูดถึงตรงนี้ เขาดึงลูกเขยของเขาและพูดอย่างจริงจังว่า "ดูลูกเขยของผม เป็นCEO ของบริษัทเทคโนโลยีจินหลิงต้าโจว บริษัทก็จะเข้าจดทะเบียนแล้ว! บริษัทหนึ่งปีมานี้ คร่าวๆก็ประมาณหนึ่งหรือสองพันล้าน คนแบบนี้ถ้าอยู่ในเมืองจินหลิงก็ถือว่าเป็นอันดับต้นๆ พวกเราทั้งครอบครัวจะเจริญรุ่งเรือง นี่ถึงเรียกว่าการดำเนินชีวิตนะ! "

กลุ่มคนรอบข้างส่งเสียงอิจฉา ไม่ได้ฟังที่พันหยวนหมิงกับจางเจี้ยนโม้

จริงๆแล้ว พื้นฐานทางเศรษฐกิจของครอบครัวของพวกเขา ในกลุ่มเพื่อนนักเรียนเก่าแก่ ทำให้เป็นที่น่าอิจฉาที่สุดแล้ว

ตอนนี้พันหยวนหมิงกำลังลิ้มรสคนรอบข้างที่แสดงความตะลึงและอิจฉา แววตามองไปที่เซียวฉางควนกับเย่เฉินอย่างดูถูก ในใจคิด การตบหน้าคราวนี้ ฉันรอมาหลายปี สุดท้ายไม่ได้ทำให้ฉันผิดหวัง! มีความสุขจริงๆ! มีความสุขที่ได้แก้แค้น!

แต่ว่า เขากลับไม่ได้สังเกตเห็น มุมปากเย่เฉินยิ้มอย่างสนุก

“ สองผัวเมียต่างก็ทำงานที่บริษัทปิโตรเคมี? ลูกเขยเป็นCEOของบริษัทเทคโนโลยีจินหลิงต้าโจว? ดีอะ กลุ้มใจจริงๆไม่รู้จะจัดการกับคุณยังไง คิดไม่ถึงว่าคุณจะเสนอหน้ามาเองเลย นี่ไม่เท่ากับว่าเอาตัวเองพุ่งเข้าหาปากกระบอกปืนหรอกหรือ?”

------------

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน