โคลอี้หญิงสาวผมแดงได้ยินหม่าหลันร้องไห้จนรู้สึกรำคาญใจ คว้าผมของหม่าหลันเอาไว้ มืออีกข้างก็ตบเข้าไปที่ใบหน้าข้างหนึ่งของเธอ ในขณะเดียวกันก็กล่าวด้วยน้ำเสียงเยาะหยัน: “ถ้าให้ฉันได้ยินแกร้องไห้อีกครั้ง ฉันจะฉีกปากแกให้เละ!”
หม่าหลันคิดไม่ถึงจริงๆ หญิงสาวในเรือนจำของประเทศสหรัฐอเมริกาจะโหดร้ายอย่างคาดไม่ถึงเช่นนี้ เพิ่งจะเข้าไปได้แค่ไม่กี่นาที ก็ถูกตบฉาดใหญ่ติดต่อกันถึงสามครั้งแล้ว ทั่วทั้งคนถูกตบจนตกตะลึงพูดไม่ออก ไม่นานนักใบหน้าก็บวมขึ้นมา เจ็บจนทะลุไปถึงหัวใจ
โคลอี้เห็นว่าใบหน้าของหม่าหลันบวมจนกลายเป็นหัวหมู ก็หัวเราะเอ่ยกล่าวอย่างเหยียดหยาม: “แกจำเอาไว้ วันนี้เป็นการสั่งสอนแกแค่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ถ้าหากพรุ่งนี้ไม่ได้เห็นบุหรี่ละก็ รับผิดชอบผลที่ตามมาด้วยตนเอง!”
พูดไป เธอก็กำชับกับหญิงสาวคนหนึ่งที่อยู่ด้านหลัง: “เจนนี่ เธอไปเอาน้ำมากะละมังหนึ่ง!”
หญิงสาวที่ถูกเรียกว่าเจนนี่ก็รีบวิ่งไปที่ห้องน้ำทันที ในไม่ช้าก็ยกน้ำเต็มกะละมังหนึ่งเดินกลับมา
โคลอี้มองดูหม่าหลัน เอ่ยกล่าวอย่างเยาะหยัน: “ขออภัย วันนี้แกนอนได้เพียงบนพื้นเท่านั้น”
พูดไป ก็ส่งสายตาให้แก่เจนนี่คนนั้น
เจนนี่เองก็ไม่ใช่คนดีอะไร มองหม่าหลันอย่างหยอกล้อ แล้วนำน้ำทั้งกะละมังราดตรงไปที่บนเตียงนอนของเธอ
ครั้งนี้ ไม่เพียงแค่เครื่องนอนที่เพิ่งเบิกมาที่ถูกน้ำราดจนเปียก แม้แต่หมอน ฟูกนอนต่างก็ใช้ไม่ได้แล้ว
หม่าหลันพลางพยายามที่จะหลบเลี่ยง พลางพยายามคายยาสีฟันออกมา โคลอี้กลับกวักมือเรียกเจนนี่ที่อยู่ข้างกาย เจนนี่รีบเรียกมาอีกสองคน กดหม่าหลันลงบนเตียงที่เปียกแฉะอย่างชำนาญ จากนั้นทั้งสองคนก็กดไหล่ของเธอเอาไว้อย่างแน่นหนา ให้นางขยับเขยื้อนไม่ได้ อีกคนก็อุดปากของเธอเอาไว้อย่างมิดชิด ให้นางที่คิดอยากจะคายยาสีฟันที่อยู่เต็มปากก็คายออกมาไม่ได้
วิธีการจัดการคนประเภทนี้ โคลอี้และลูกน้องของเธอคุ้นเคยเป็นอย่างดีมาตั้งนานแล้ว หม่าหลันถูกปิดปากเอาไว้อย่างแน่นหนา ทำได้แค่เพียงพยายามอาศัยจมูกหายใจ แต่เนื่องจากปากเต็มไปด้วยยาสีฟัน รสชาติเผ็ดร้อน ในไม่ช้าก็สำลักและหยุดไอไม่ได้ แต่ว่าทันทีที่ไอนั้นไม่สำคัญ ยาสีฟันบางส่วนผสมกับน้ำลายแล้วพ่นออกมาทางรูจมูก เผาไหม้ไปทั่วทั้งหลอดลม ทำให้ทั้งตัวของเธอเจ็บปวดทรมานเป็นอย่างยิ่ง
เวลานี้ โคลอี้หัวเราะอย่างโหดเหี้ยม แผดเสียงกล่าว: “ถ้ารู้ตัวว่าควรจะต้องทำอย่างไรก็นำยาสีฟันในปากกลืนลงไปซะ ถ้าไม่อย่างนั้นละก็ ฉันไปห้องน้ำนำของบางอย่างมาป้อนเข้าไปในปากแก!”
ทันทีที่หม่าหลันได้ยินประโยคนี้ ก็ตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อทันที ไม่สนใจต่อความเผ็ดร้อนและฝาดของยาสีฟันนี้ ทำได้เพียงแค่กัดฟันเล็กน้อยแล้วนำยาสีฟันในปากกลืนลงไปในท้อง

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
หม่าหลังนเอ๋ย หม่าหลัน!! คุณมึงมีสิทธิ์ไปสอนคนอื่นด้วยหรอ ตัวคุณมึงเองยังทำที่พูดไม่ได้เลย ยังมีน่าไปสอนคนอื่น 555 สนุกมาๆเลยครับ เรื่องแรกเลยที่อ่านแล้วอินขนาดนี้ ขอบคุณที่ทำออกมาให้อ่านครับ แต่ปรับให้ผญ.ที่เข้าหาพระเอก ไม่ต้องลุกหนักเกินไป มันดูน่าเบื่อ ดูขัดใจกับคนอ่าน เรื่องรักที่มีแต่พระเอกเข้าใจได้ แต่เรื่องที่อ่อยพระเอกขั้นสุด มันดูน่าเบื่อเกินไป ไม่ฟิน...
หม่าหลังนมากก...
สะใจมากกก...
หม่าหลันมันไม่ได้ไร้เดียงสาต่อโลกหรอก แต่เขียนให้ถูกคือหม่าหลันมันโง่นั้นเอง เข้ามหาลัยมีชื่อเสียงได้ไง โง่ดักดานขนาดนี้ อาจารย์ที่เขียน ก้เขียนให้อีหม่าหลันดูดีเกิ้น 555...
เอาตรงๆน่ะ ผมชอบที่พระเอกมีสาวมาติด แบบเป็นปกติ หลงรักพระเอกโงหัวไม่ขึ้นผมไม่ขัดใจหรอก มาขัดใจตอนคือแบบผญ เรื่องนี้มีนลุกหนักเกินไป จนทำใจอ่านแล้วขัดใจ ถ้าลุกพอประมาณแบบนี้คืออ่านสนุกเว่อร์ แต่นี่อ่อยหนักจนเกิน เกิดอาการขัดใจสุดๆ 555...
ห๊า พระเอกไปเป็นหนี้พวกหล่อนตรงไหน พวกตัวเองชอบเย่เฉินเอง เย่เฉินไม่ได้บังคับ แล้วจะให้พระเอกคืนความรักให้พวกเอ็งเนี่ยน่ะ ส่วนพระเอกกุเห้นมึงก้ปวดใจกับผู้หญิงทุกคนแหละ -.-"...
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...