หม่าหลันที่กินยาสีฟันไปมากเกินกว่าครึ่ง หลอดอาหารรวมทั้งกระเพาะอาหารต่างก็เจ็บปวดร้อนผ่าวราวกับไฟที่แผดเผาอย่างไรอย่างนั้น น้ำตาก็ยิ่งไม่หยุดไหล
ภายในใจของเธออดไม่ได้ที่จะคร่ำครวญ: “นางผีสาวหัวแดงคนนี้ ยังเลวร้ายกว่าจางกุ้ยเฟินมากนัก! นี่มันเรียกง่ายๆว่าจอมปีศาจสาว! แม่งเอ๊ยฉันฝากไว้ก่อน ต่อไปแกจะต้องตกอยู่ในกำมือของฉัน แกคอยดูว่าฉันจะทรมานแกสิบเท่า ร้อยเท่าอย่างไร!”
หม่าหลันได้ยินก็หมดหวัง แต่ก็หวานอมขมกลืนอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อเห็นว่าทั่วทั้งเรือนจำเห็นตนเองเป็นเรื่องตลก ไม่มีคนคิดจะช่วยทวงความยุติธรรมให้ตนเองโดยสิ้นเชิง ก็ทำได้แค่เพียงกัดฟันและพยักหน้า
ถึงแม้ว่าภายในใจเคียดแค้น แต่เมื่อเผชิญหน้ากับโคลอี้คนนี้ เธอไม่กล้าไม่เชื่อฟังใดๆอีกโดยสิ้นเชิง
ในที่สุดเมื่ออยู่ใต้ชายคาบ้าน จำเป็นต้องก้มหัว ยิ่งกว่านั้นตอนนี้ตนเองยังอยู่ต่างแคว้นแดนไกล ความรู้สึกหัวเดียวกระเทียมลีบประเภทนั้นก็ยิ่งรุนแรง
โชคดีที่หม่าหลันสามารถปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ได้ เมื่อเห็นว่าโคลอี้ผู้นี้ล่วงเกินไม่ได้ ก็ทำได้เพียงแค่อ่อนน้อมถ่อมตน
เมื่อโคลอี้เห็นว่าเธอนำยาสีฟันภายในปากกลืนลงไปหมดแล้ว ยิ้มอย่างเหยียดหยาม เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเยาะหยัน: “ยาสีฟันเมื่อครู่ ช่วยให้แกหวนรำลึกขึ้นมาได้บ้างไหม ควรต้องจะนวดเท้าให้คนอื่นอย่างไร?”
หม่าหลันรีบพยักหน้าที่ราวกับกระเทียมทุบพร้อมทั้งเอ่ยกล่าว: “ฉันคิดออกแล้ว คิดออกแล้ว......”
โคลอี้พ่นเสียงหัวเราะดังฮึ่ออกมา กล่าวอย่างตำหนิ: “ในเมื่อนึกออกแล้ว ยังไม่รีบไปยกกะละมังน้ำมาล้างเท้าฉันอีก?! ถ้ายังอืดอาดอยู่ฉันจะตีขาแกให้หัก!”
ทันทีที่หม่าหลันได้ยินว่าจะตีขาตนเองจนหัก ก็ตกใจจนร้องโอ๊ยออกมา รีบยกกะละมังขึ้นมาแล้วเอ่ยกล่าว: “ฉันจะไปเดี๋ยว ไปเดี๋ยวนี้!”
พูดจบ หม่าหลันก็รีบวิ่งเหยาะไปตลอดทาง เมื่อไปถึงในห้องน้ำแล้วก็ยกน้ำอุ่นออกมากะละมังหนึ่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน