ตลอดเส้นทางนี้ ทุกครั้งที่เธอก้าวเดินนั้นลำบากยากเข็ญอย่างยิ่ง แต่ก็ทำได้แค่เพียงอดทนอย่างสุดชีวิต
ผู้คุมหญิงนายนั้นตอนนี้ก็ลดความเร็วลงอย่างจงใจ มาที่ตรงหน้าของหม่าหลัน เอ่ยกล่าวเสียงเบา: “1024 ครอบครัวเธอรวยมากหรือ?”
หม่าหลันตกตะลึงไป ไม่กล้าพูดจาอยู่ครู่หนึ่ง
ผู้คุมหญิงนายนั้นยิ้ม เอ่ยปากกล่าว: “ทนายของเธอฝากเงินเข้าบัญชีในเรือนจำของเธอหนึ่งหมื่นดอลลาร์สหรัฐ เธอสามารถใช้ IDการ์ดของเธอซื้อของในร้านค้า”
พูดไป ผู้คุมก็กล่าวด้วยน้ำเสียงต่ำเบา: “ใช่แล้ว แนะนำสักหน่อย ฉันก็คือเจสสิก้า บราวน์สโตน คนในครอบครัวของเธอหากต้องการขายบุหรี่ละก็ อย่าลืมติดต่อฉัน อเมริกันสปิริต หนึ่งคอตตอนหนึ่งพันดอลลาร์สหรัฐ”
“หนึ่งพัน?!” หม่าหลันเอ่ยถามโดยไม่รู้ตัว: “โคลอี้ไม่ใช่บอกว่าคอตตอนละสี่ร้อยดอลลาร์สหรัฐหรือ?”
เจสสิก้า บราวน์สโตนยิ้ม กล่าวอย่างไม่ใส่ใจ: “สี่ร้อยดอลลาร์สหรัฐเป็นราคาของเมื่อวาน ราคาของวันนี้ก็คือหนึ่งพัน ถ้าหากเธอต้องการซื้อละก็ ก็โทรศัพท์หาคนในครอบครัว ให้พวกเขาติดต่อน้องสาวของฉัน ถ้าไม่เช่นนั้นละก็ ตอนกลางคืนโคลอี้คนนั้นจะทำอะไรเธอ ฉันเองก็ไม่กล้ารับประกัน!”
หม่าหลันทราบดีว่าที่นี่ล้วนเป็นรังงูและหนู (คนเลวสมรู้ร่วมคิดกัน) ในตอนนี้ก็ไม่ใช่เวลาที่จะมาพูดเหตุผลกับผู้คุมอเมริกันคนนี้ ดังนั้นจึงรีบเอ่ยถามเธอ: “ตอนนี้ฉันสามารถโทรหาครอบครัวฉันได้แล้วหรือ?”
“ได้แล้ว” เจสสิก้า บราวน์สโตนกล่าวอย่างเรียบเฉย: “เมื่อกินข้าวเสร็จจะเป็นเวลาปล่อยให้นักโทษเดินเล่นชั่วคราว เมื่อถึงเวลาเธอสามารถใช้ ID การ์ดของเธอโทรศัพท์หาครอบครัวได้”
พูดไป เธอก็นำกระดาษแผ่นหนึ่งแอบยัดเข้าไปในมือของหม่าหลัน กล่าวเสียงเบา: “นี่คือเบอร์โทรศัพท์ของน้องสาวฉัน ซื้อบุหรี่ก็ติดต่อเธอ”
เมื่อได้ยินว่าสามารถโทรศัพท์หาคนในครอบครัวได้แล้ว หม่าหลันก็ตื่นเต้นจนถึงขีดสุด
ตอนนี้เธอแทบอยากจะไปโทรศัพท์หาเย่เฉินซะเดี๋ยวนี้ ร้องไห้ให้เย่เฉินพยายามคิดหาวิธีทางช่วยตนเอง
หม่าหลันทำได้เพียงเอ่ยกล่าวอย่างเชื่อฟัง: “ลูก......ลูกเขยฉันคนนี้ค่อนข้างกตัญญู......เขา......เขาคงจะกลัวฉันอยู่ในนี้ได้รับความลำบาก ดังนั้น......ดังนั้นจึงให้ทนาย......ฝากเงินให้มากหน่อย......”
โคลอี้พยักหน้า ยิ้มแล้วเอ่ยกล่าว: “ในเมื่อครอบครัวเธอรวยขนาดนี้ ถ้าอย่างนั้นเงื่อนไขที่ฉันเสนอในวันนี้ก็คงจะต้องปรับเปลี่ยนสักเล็กน้อยแล้ว”
หม่าหลันเอ่ยถามอย่างประหม่า: “เธอ......เธอต้องการจะปรับเปลี่ยนอย่างไร......”
โคลอี้ยิ้มแล้วกล่าว: “ก็ไม่มีอะไร เพียงแค่เปลี่ยนจากบุหรี่วันละหนึ่งคอตตอน เปลี่ยนเป็นวันละสองคอตตอนเท่านั้น แบบนี้น่าจะไม่นับว่าเป็นปัญหาอะไรสำหรับสภาพครอบครัวของแกใช่ไหม?”
หม่าหลันเอ่ยกล่าวด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความทุกข์: “ก่อน......ก่อนหน้านี้เธอพูดว่าให้ไปหาเจสสิก้าเพื่อซื้อบุหรี่ หนึ่งคอตตอนเพียงแค่สี่ร้อยดอลลาร์สหรัฐ แต่เมื่อครู่เธอพูดกับฉันว่า หนึ่งคอตตอนหนึ่งพันดอลลาร์สหรัฐ......”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
หม่าหลังนเอ๋ย หม่าหลัน!! คุณมึงมีสิทธิ์ไปสอนคนอื่นด้วยหรอ ตัวคุณมึงเองยังทำที่พูดไม่ได้เลย ยังมีน่าไปสอนคนอื่น 555 สนุกมาๆเลยครับ เรื่องแรกเลยที่อ่านแล้วอินขนาดนี้ ขอบคุณที่ทำออกมาให้อ่านครับ แต่ปรับให้ผญ.ที่เข้าหาพระเอก ไม่ต้องลุกหนักเกินไป มันดูน่าเบื่อ ดูขัดใจกับคนอ่าน เรื่องรักที่มีแต่พระเอกเข้าใจได้ แต่เรื่องที่อ่อยพระเอกขั้นสุด มันดูน่าเบื่อเกินไป ไม่ฟิน...
หม่าหลังนมากก...
สะใจมากกก...
หม่าหลันมันไม่ได้ไร้เดียงสาต่อโลกหรอก แต่เขียนให้ถูกคือหม่าหลันมันโง่นั้นเอง เข้ามหาลัยมีชื่อเสียงได้ไง โง่ดักดานขนาดนี้ อาจารย์ที่เขียน ก้เขียนให้อีหม่าหลันดูดีเกิ้น 555...
เอาตรงๆน่ะ ผมชอบที่พระเอกมีสาวมาติด แบบเป็นปกติ หลงรักพระเอกโงหัวไม่ขึ้นผมไม่ขัดใจหรอก มาขัดใจตอนคือแบบผญ เรื่องนี้มีนลุกหนักเกินไป จนทำใจอ่านแล้วขัดใจ ถ้าลุกพอประมาณแบบนี้คืออ่านสนุกเว่อร์ แต่นี่อ่อยหนักจนเกิน เกิดอาการขัดใจสุดๆ 555...
ห๊า พระเอกไปเป็นหนี้พวกหล่อนตรงไหน พวกตัวเองชอบเย่เฉินเอง เย่เฉินไม่ได้บังคับ แล้วจะให้พระเอกคืนความรักให้พวกเอ็งเนี่ยน่ะ ส่วนพระเอกกุเห้นมึงก้ปวดใจกับผู้หญิงทุกคนแหละ -.-"...
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...