และในเวลานี้ เย่เฉินเพิ่งจะกินอาหารเย็นที่ตระกูลเฟ่ยเสร็จ
ลูกน้องของว่านพั่วจวิน ยังคงกำลังตามสืบเบาะแสของเหมยอวี้เจินและจงชิวฮวา และภายในเรือนจำ สำนักว่านหลงก็ได้มอบหมายให้นักรบหญิงสามเข้าไปเรียบร้อยแล้ว
เพียงแต่ว่านักรบหญิงสามคนนั้นขณะนี้ไม่ได้อยู่ห้องขังเดียวกันกับหม่าหลัน
ทันใดนั้นโทรศัพท์ก็มีสายเรียกเข้าสายหนึ่งจากท้องถิ่นของนครนิวยอร์ก เย่เฉินแทบจะเดาออกในทันทีว่าน่าจะเป็นหม่าหลันแม่ยายที่โทรมาจากในเรือนจำ ดังนั้นจึงกดปุ่มรับสาย เอ่ยถามอย่างเสแสร้งสับสน: “สวัสดีครับ ไม่ทราบว่านั่นใครครับ?”
อีกด้านของปลายสาย เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นของหม่าหลันลอยมา: “ลูกเขยที่แสนดี......เป็นแม่เองลูกเขยที่แสนดี......แม่อยู่ในเรือนจำน่าเวทนายิ่งนัก.......ลูกจะต้องช่วยแม่ออกไปนะ......”
หม่าหลันร้องไห้สะอึกสะอื้นในโทรศัพท์จนไม่เป็นเสียง
เธอนำเรื่องที่ตั้งแต่ตนเองโดนโคลอี้ทุบตี จนถึงถูกโคลอี้บังคับให้บีบเท้าแปดคน แล้วก็เรื่องที่ถูกโคลอี้และเจสสิก้าร่วมมือกันรีดไถ นำเรื่องราวตั้งแต่ต้นจนจบบอกแก่เย่เฉินฟังอย่างละเอียด เมื่อพูดเรื่องเหล่านี้จบ นางก็ยิ่งทั้งโมโหทั้งไม่ได้รับความยุติธรรม เอ่ยกล่าวทั้งกำลังร้องไห้: “ลูกเขยที่แสนดี ถ้าหากลูกไม่ซื้อบุหรี่สองคอตตอนจากผู้คุมคนนั้น พรุ่งนี้ม่าคาดว่าจะต้องถูกพวกเธอตีจนตายแน่แล้ว......”
เมื่อเย่เฉินรู้ถึงความอำมหิตของผู้คุมประเทศสหรัฐอเมริกา แต่กลับคิดไม่ถึงว่าจะอำมหิตจนถึงขนาดนี้
เดิมทีเขาเพียงแค่หวังว่าหลังจากหม่าหลันเข้าไปแล้ว สามารถได้รับบทเรียนตามธรรมชาติสภาพความเป็นจริงเล็กน้อยจากในเรือนจำของประเทศสหรัฐอเมริกา แต่เมื่อได้ยินหม่าหลันบรรยายเช่นนี้ เหมือนกับว่าบทเรียนตามสภาพความเป็นจริงจะทารุณโหดร้ายเกินไปสักหน่อย
ดังนั้นเขาจึงเอ่ยกล่าวกับหม่าหลัน: “คุณแม่วางใจ ผมจะให้ลูกค้าช่วยซื้อบุหรี่ให้เดี๋ยวนี้”
หม่าหลันถอนหายใจอย่างโล่งอก รีบเอ่ยกว่า: “ใช่แล้วลูกเขยที่แสนดี พวกเธอพูดว่าต่อไปจะต้องซื้อวันละสองคอตตอน......ในเวลาแบบนี้ลูกอย่าได้เสียดายเงินนะ......”
อีกทั้งภายในใจของเธอเองก็ชัดเจนเป็นอย่างมาก ตนเองพบเจอเรื่องราวแบบนี้ เซียวชูหรันลูกสาวคงจะช่วยอะไรไม่ได้ ถ้าหากให้เธอรู้จริงๆว่าตนเองถูกรังแกอยู่ภายในเรือนจำ ต่อให้เธอช่วยเหลืออะไรไม่ได้ ก็จะต้องมาที่นครนิวยอร์กอย่างแน่นอน เมื่อถึงเวลานั้นไม่แน่ว่าอาจจะสร้างปัญหาให้เย่เฉินจริงๆก็ได้
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เธอจึงเอ่ยกล่าวโดยฉับพลัน: “ลูกเขยที่แสนดีลูกวางใจ แม่จะโทรศัพท์หาชูหรันเดี๋ยวนี้!”
“ได้ครับ” เย่เฉินวางใจลง แล้วกล่าว: “แม่ ผมจะไปแก้ไขปัญหาเรื่องบุหรี่ แม่โทรศัพท์หาชูหรัน รายงานว่าปลอดภัยเถอะ”
“ได้ได้ได้”
หม่าหลันตกปากรับคำ หลังจากวางสายโทรศัพท์ของเย่เฉิน ก็รีบโทรศัพท์ไปหาเซียวชูหรันลูกสาวทันที

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
หม่าหลังนเอ๋ย หม่าหลัน!! คุณมึงมีสิทธิ์ไปสอนคนอื่นด้วยหรอ ตัวคุณมึงเองยังทำที่พูดไม่ได้เลย ยังมีน่าไปสอนคนอื่น 555 สนุกมาๆเลยครับ เรื่องแรกเลยที่อ่านแล้วอินขนาดนี้ ขอบคุณที่ทำออกมาให้อ่านครับ แต่ปรับให้ผญ.ที่เข้าหาพระเอก ไม่ต้องลุกหนักเกินไป มันดูน่าเบื่อ ดูขัดใจกับคนอ่าน เรื่องรักที่มีแต่พระเอกเข้าใจได้ แต่เรื่องที่อ่อยพระเอกขั้นสุด มันดูน่าเบื่อเกินไป ไม่ฟิน...
หม่าหลังนมากก...
สะใจมากกก...
หม่าหลันมันไม่ได้ไร้เดียงสาต่อโลกหรอก แต่เขียนให้ถูกคือหม่าหลันมันโง่นั้นเอง เข้ามหาลัยมีชื่อเสียงได้ไง โง่ดักดานขนาดนี้ อาจารย์ที่เขียน ก้เขียนให้อีหม่าหลันดูดีเกิ้น 555...
เอาตรงๆน่ะ ผมชอบที่พระเอกมีสาวมาติด แบบเป็นปกติ หลงรักพระเอกโงหัวไม่ขึ้นผมไม่ขัดใจหรอก มาขัดใจตอนคือแบบผญ เรื่องนี้มีนลุกหนักเกินไป จนทำใจอ่านแล้วขัดใจ ถ้าลุกพอประมาณแบบนี้คืออ่านสนุกเว่อร์ แต่นี่อ่อยหนักจนเกิน เกิดอาการขัดใจสุดๆ 555...
ห๊า พระเอกไปเป็นหนี้พวกหล่อนตรงไหน พวกตัวเองชอบเย่เฉินเอง เย่เฉินไม่ได้บังคับ แล้วจะให้พระเอกคืนความรักให้พวกเอ็งเนี่ยน่ะ ส่วนพระเอกกุเห้นมึงก้ปวดใจกับผู้หญิงทุกคนแหละ -.-"...
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...