พูดออกมาขนาดนี้แล้ว เธอกลับคำพูด พูดออกมาอย่างจริงจัง:“แต่ว่าถ้าทุกวันบุหรี่สี่มวนละก็ ต้องปรับเปลี่ยนส่วนแบ่งสักหน่อย เมื่อก่อนที่พวกเราตกลงกันคือ บุหรี่หนึ่งตัวให้ฉันสามร้อยดอลลาร์ ตอนนี้ฉันต้องการสี่ร้อย”
เจสสิก้าขมวดคิ้วเป็นปม พูดอย่างเย็นชา:“ส่วนแบ่งนี้เมื่อก่อนพวกเราตกลงกันเอาไว้แล้ว คุณคิดอยากจะเปลี่ยนก็จะเปลี่ยน?”
โคลอี้จ้องมองเจสสิก้า หัวเราะแล้วพูดออกมา:“เจส คุณอย่าลืมนะ เงินเหล่านี้ต่างเป็นฉันที่เป็นคนหามา คุณไม่ต้องทำอะไรเลย เพียงแค่ให้น้องสาวของคุณรับเงินเท่านั้น แต่ถึงอย่างนั้น ฉันก็ให้คุณถึงหกส่วน ถ้าเป็นแบบนี้คุณยังไม่พอใจล่ะก็ ก็ถือซะว่าฉันไม่ได้พูด ต่อไปก็ยังจะเป็นวันละสองมวน”
เจสสิก้าได้ฟังคำพูดนี้ ทันใดก็รู้สึกได้ทันที ถ้าตัวเองไม่ตอบตกลง แน่นอนว่าโคลอี้มีวิธีอื่น ที่จะบังคับให้ญาติของหม่าหลันควักเงินออกมา
เมื่อถึงเวลานั้นถ้าเงินไม่ผ่านมือตัวเอง งั้นแม้แต่บาทเดียวก็จะไม่ได้
เมื่อเป็นแบบนี้แล้ว ตอบรับเงื่อนไขของโคลอี้จะไม่ดีกว่าเหรอ
อย่างน้อยตัวเองก็ยังได้รับเงินส่วนหนึ่ง
คิดถึงตรงนี้ เธอจึงพยักหน้า เจสสิก้าพูดว่า:“โอเค เอาตามที่คุณพูด สี่ส่วนของคุณ!”
พูดไป เธอพูดเตือนสติ:“คุณทำอะไรกับหม่าหลันคนนั้น อย่าให้รุนแรงนัก ช่วงนี้พัศดีตรวจสอบค่อนข้างเข้มงวด อย่าให้ห้องพยาบาลถึงกับต้องตกอกตกใจ”
โคลอี้ยิ้มออกอย่างเย็นชา:“วางใจเถอะ ฉันรู้ว่าอะไรควรไม่ควร!”
เวลาปล่อยอิสระหนึ่งชั่วโมงผ่านไปอย่างรวดเร็ว
โคลอี้พูดอย่างตรงไปตรงมา:“1024 คำพูดของคุณนี้ไม่ค่อยจะถูกต้องเท่าไหร่นะ ฉันไม่ได้รังแกคุณสักหน่อย เพียงแค่กำลังสอนคุณถึงกฎพื้นฐานในการดำรงอยู่ในห้องขังแห่งนี้”
หม่าหลันรีบพยักหน้า:“ใช่ใช่ใช่……”
โคลอี้เผยรอยยิ้มออกมา พูดออกมาต่อ:“1024 ก่อนหน้านี้ฉันมีบางเรื่องค่อนข้างเลอะเทอะ เมื่อสักครู่ได้พูดคุยกับเจสสิก้าแล้ว ช่วงนี้อยากจะนำเอาคนในห้องขังนี้หลายคนมาเป็นพรรคพวก เมื่อถึงเวลานั้นฉันก็จะกลายเป็นคนที่ใหญ่ที่สุดในกรมราชทัณฑ์เบดฟอร์ดฮิลส์”
บางคำหม่าหลันฟังไม่เข้าใจ ไม่รู้ว่าโคลอี้คนนี้พูดว่าเธอเลอะเทอะแล้ว แล้วก็พูดต่อว่าเธอจะเป็นคนที่ใหญ่ที่สุดของเรือนจำแห่งนี้ เรื่องสองเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกันเลย กำลังคิดหนักว่าหมายถึงอะไร
เวลานี้โคลอี้พูดออกมาอีก:“อยากรวมพวกกับคนอื่น ต้องเอาข้อดีออกมา ทว่าที่นี่ บุหรี่เป็นสิ่งที่นำมาแลกเปลี่ยนได้ดีที่สุด ดังนั้นถ้าฉันอยากจะกลายเป็นหัวหน้าใหญ่ของกรมราชทัณฑ์เบดฟอร์ดฮิลส์ แน่นอนว่าก็ต้องการบุหรี่เป็นจำนวนมาก แบบนี้ละก็ วันละสองตัว แน่นอนว่าไม่พอแล้ว”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
หม่าหลังนเอ๋ย หม่าหลัน!! คุณมึงมีสิทธิ์ไปสอนคนอื่นด้วยหรอ ตัวคุณมึงเองยังทำที่พูดไม่ได้เลย ยังมีน่าไปสอนคนอื่น 555 สนุกมาๆเลยครับ เรื่องแรกเลยที่อ่านแล้วอินขนาดนี้ ขอบคุณที่ทำออกมาให้อ่านครับ แต่ปรับให้ผญ.ที่เข้าหาพระเอก ไม่ต้องลุกหนักเกินไป มันดูน่าเบื่อ ดูขัดใจกับคนอ่าน เรื่องรักที่มีแต่พระเอกเข้าใจได้ แต่เรื่องที่อ่อยพระเอกขั้นสุด มันดูน่าเบื่อเกินไป ไม่ฟิน...
หม่าหลังนมากก...
สะใจมากกก...
หม่าหลันมันไม่ได้ไร้เดียงสาต่อโลกหรอก แต่เขียนให้ถูกคือหม่าหลันมันโง่นั้นเอง เข้ามหาลัยมีชื่อเสียงได้ไง โง่ดักดานขนาดนี้ อาจารย์ที่เขียน ก้เขียนให้อีหม่าหลันดูดีเกิ้น 555...
เอาตรงๆน่ะ ผมชอบที่พระเอกมีสาวมาติด แบบเป็นปกติ หลงรักพระเอกโงหัวไม่ขึ้นผมไม่ขัดใจหรอก มาขัดใจตอนคือแบบผญ เรื่องนี้มีนลุกหนักเกินไป จนทำใจอ่านแล้วขัดใจ ถ้าลุกพอประมาณแบบนี้คืออ่านสนุกเว่อร์ แต่นี่อ่อยหนักจนเกิน เกิดอาการขัดใจสุดๆ 555...
ห๊า พระเอกไปเป็นหนี้พวกหล่อนตรงไหน พวกตัวเองชอบเย่เฉินเอง เย่เฉินไม่ได้บังคับ แล้วจะให้พระเอกคืนความรักให้พวกเอ็งเนี่ยน่ะ ส่วนพระเอกกุเห้นมึงก้ปวดใจกับผู้หญิงทุกคนแหละ -.-"...
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...